ณ บ้านศุภเสถียรมนตรี รถหรูสีดำวิ่งเข้ามาจำนวนสามคัน คันกลางคือรถที่ธนัทนั่งมาพร้อมใบหน้าที่เรียบนิ่ง ทว่าแววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ถูกซ่อนเอาไว้
กพลเปิดประตูให้เขาลงมาจากรถ ผู้ติดตามอีกสองคันลงมาพร้อมกับข้าวของที่นำมามอบเป็นของขวัญวันเปิดตัวให้กับพ่อตาแม่ยาย
พีรมนเดินออกมาต้อนรับสามีในความลับของตนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หลังจากละครฉากใหญ่ที่เธอรับบทเป็นเจ้าสาวที่น่ารันทดออกไปสู่สายตาของคนในงาน เรื่องราวสถานะของเธอกับอติรุจก็คลี่คลาย รวมถึงสถานะของเธอกับธนัทก็ชัดเจนมากขึ้น
“เชิญค่ะ คุณพ่อคุณแม่รออยู่”
“ผมตื่นเต้นจัง” ประธานหนุ่มลูกเสี้ยวกระซิบบอกเสียงเบา
“พลอยอยู่ทั้งคน” เธอยิ้มมองเขา เพียงไม่กี่วันก็เปิดใจรับเขาแล้ว ถ้าจะให้อธิบายด้วยเหตุผลหน่อยก็เพราะธนัทช่วยเหลือเธอและสนับสนุนทุกอย่าง แสดงความจริงใจและไม่ปิดบังแม้เรื่องเล็กน้อย ทำให้เธอเห็นความดีของเขา
แต่หากจะให้บอกตามความรู้สึกคือเธอติดใจในลีลารักและความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น หล่อ รวย ลีลาดี และพร้อมเปย์ ตามใจแทบทุกเรื่อง ใครล่ะจะไม่ใจอ่อน เธอแข็งใจมาได้เกือบเดือนก็ถือว่าเก่งพอแล้ว
เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน เธอก็พาเขาไปนั่งในห้องรับแขก ข้าวของที่นำมาถูกนำมาวางที่โต๊ะวางเครื่องดื่ม และบางส่วนถูกวางลงที่พื้นเพราะที่วางไม่พอ
“สวัสดีครับคุณ... คุณพ่อ คุณแม่” สรรพนามที่เรียกนั้นดูเป็นกันเองตามที่พีรมนได้แนะนำเอาไว้
พีรพลรับไหว้แล้วยิ้มรับด้วยความเกร็งหน่อย ๆ ส่วนผกานั้นรับไหว้อย่างไม่เต็มใจนัก แต่ก็ตาลุกวาวเมื่อเห็นของฝากพอสมควร
“โสมจากฮ่องกง และเหล้าหมักเหล่านี้ ผมให้ญาติทางนั้นส่งมาให้ ผ้าไหมเหล่านี้ก็มาจากจีน แล้ววัตถุโบราณเหล่านี้ผมประมูลมาได้ เลยนำมาเป็นของฝากเพื่อแนะนำตัวอย่างเป็นทางการครับ” น้ำเสียงนุ่มทุ้มนั้นพยายามควบคุมความตื่นเต้น เจรจาธุรกิจมานักต่อนักแต่ไม่เคยตื่นเต้นเท่านี้เลยสักครั้ง
“ขอบคุณนะคุณธนัท” พีรพลตอบรับแล้วมองวัตถุโบราณที่เขากล่าวถึง รู้สึกพอใจกับของฝากมูลค่าสูงเหล่านี้ รวมไปถึงเหล้าหมักขึ้นชื่อที่หาดื่มได้ยากในประเทศ
ผกามองของฝากเหล่านั้นด้วยความพอใจ แต่เมื่อมองดูธนัทที่มองมาก็ลดยิ้มแล้วเชิดหน้าขึ้น ไม่อยากให้เข้าใจว่าตนเห็นแก่ของฝากแล้วจะยอมง่าย ๆ
พีรมนเห็นอย่างนั้นจึงอยากแนะนำตัวเขาอย่างเป็นทางการ
“คุณพ่อคุณแม่คะ คุณธนัทกับพลอย...”
“มันไม่เร็วไปเหรอที่จะคบหากัน พลอยเพิ่งจะประกาศเลิกกับอาร์ตเองนะลูก ถึงแม้สถานะจะชัดเจนแล้วก็เถอะ แต่แม่ว่ามันเร็วเกินไป” ผกาพูดแทรกก่อนที่ลูกสาวจะพูดจบ
“คุณ ไม่เอาน่า” พีรพลวางมือที่ตักของภรรยาให้โอกาสทั้งสองได้เจรจาต่อรองก่อน
“ผมจริงใจกับพลอยครับ ได้โปรดยกลูกสาวให้ผมด้วยนะครับ ผมพร้อมจะจัดงานแต่งงานและโอนทรัพย์สินครึ่งหนึ่งเป็นชื่อของพลอยทันทีเลยครับ รับรองว่าพลอยไม่ลำบากแน่” เขาแสดงความจริงใจออกมา
“พลอยเพิ่งผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ ไม่คิดว่าเร็วไปหน่อยเหรอที่จะพูดถึงเรื่องแต่งงาน” ผกาถามเสียงเรียบ ในใจแทบอยากจะร้องด้วยความดีใจกับสิ่งที่ว่าที่ลูกเขยเสนอให้
“ไม่เร็วไปหรอกค่ะคุณแม่” พีรมนพูดแล้วหันไปมองธนัท เขายื่นมือมากุมเธอเอาไว้แล้วมองสบตากันเพื่อให้กำลังใจ ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายพูดออกมา
“เราสองคนจดทะเบียนสมรสกันแล้วครับ” เขาเป็นคนสารภาพออกมา
พีรพลตาโตมองอย่างไม่เชื่อหู ในขณะที่ผกาเอามือทบที่อกแล้วหายใจติดขัดเหมือนจะเป็นลมกับสิ่งที่ได้ยิน
“พลอยขอโทษนะคะที่ปิดบัง แต่ว่าตอนนั้นพลอยยอมรับว่าตัวเองคิดน้อยไปหน่อยจริง ๆ แต่มาวันนี้พลอยไม่เคยเสียใจเลยค่ะที่ตัดสินใจทำแบบนั้น พลอยรักคุณธนัทค่ะคุณพ่อคุณแม่” เธอพูดความรู้สึกออกมาในขณะที่จ้องมองบุพการีทั้งสอง
ธนัทที่ได้ยินประโยคบอกรักจากเธอเป็นครั้งแรก สายตาที่มองด้วยความซาบซึ้งและดีใจนั้นพีรพลและผกาสังเกตเห็น ทั้งสองมองหน้ากันแล้วพยักหน้าให้ภรรยายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
“เอาล่ะ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงก็ต้องได้จัดงานแต่งงานแล้วล่ะ” ผกาพูดแล้วรับยาดมจากสาวใช้มาดมให้รู้สึกหายใจโล่งขึ้น
“มีอีกเรื่องครับ” ธนัทรีบขอด้วยความใจร้อน
พีรมนหันกลับมามองเขาด้วยความงุนงง เพราะเขาไม่ได้บอกเธอว่าจะขออะไรในวันนี้ ทว่ามองดูแววตาที่ธนัทส่งมาให้ก็ยิ้มแล้วบีบมือกันแน่น เขาจะพูดอะไรก็คงเป็นผลดีแก่เธอทั้งนั้น
“ว่ามาเลย พ่อกับแม่รอฟังอยู่” พีรพลออกตัวแรง แทนตัวเองด้วยสรรพนามที่ลูกเขยเรียก ยิ่งทำให้ธนัทรู้สึกดีและเบาใจลงมากที่ตัวเองได้รับการยอมรับ
“ผมจะขอให้พลอยย้ายไปอยู่กับผมก่อนครับ” คำขอนั้นทำให้พีรพลหัวเราะลั่น ผกาส่ายศีรษะมองหน้าลูกสาวที่อมยิ้มกริ่ม จะห้ามได้เหรอ ทุกวันนี้ก็กลับดึกแทบทุกวัน วันเสาร์อาทิตย์ก็แทบไม่เคยนอนที่บ้าน ถ้าไม่ให้ไปก็คงแอบไปอยู่ดี
“แล้วแต่พลอยเถอะ โต ๆ กันแล้วตัดสินใจเอง”
“พลอยยินดีจะย้ายไปอยู่กับคุณธนัทค่ะ” ภรรยาสาวรีบหันหน้ามาตอบโดยที่เขายังไม่ได้ถามความเต็มใจของเธอ
“รีบไปเก็บของไป ลูกสาวฉัน เฮ้อ!” ผกาพูดแล้วสูดยาดมอีกรอบ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาในตอนท้าย
ตนสอนลูกสาวให้ระวังผู้ชายมาตั้งแต่วัยรุ่น กว่าจะคบกับอติรุจและใจอ่อนก็นานหลายเดือน แต่พอเจอธนัทก็จดทะเบียนสายฟ้าแลบ หรือว่าตนที่สอนลูกให้รักนวลสงวนตัวจนพีรมนเก็บกด พอมีสามีก็คงจะติดสามีตามประสาคนที่ไม่เคย
อารมณ์นี้ตนเข้าใจดี และไม่อยากห้ามลูกสาวหรือบงการชีวิตอะไรอีกต่อไปแล้ว
“ขอบคุณครับ คุณแม่” ธนัทยกมือไหว้แล้วยิ้มมองภรรยาตามเชื่อม
“งั้นพลอยขึ้นไปเก็บของนะคะ” พีรมนยิ้มหวาน ลุกขึ้นจะไปเก็บเสื้อผ้า ธนัทตั้งใจจะลูกขึ้นตามไปแต่ผกากระแอมห้ามเอาไว้เขาจึงนั่งลงเหมือนเดิม
“มีเรื่องอะไรจะเซอร์ไพรส์เราอีกไหมจ๊ะ พ่อธนัท” ผกาถามออกแนวประชดประชันเล็กน้อย
“ผมซื้อหุ้นของครอบครัวนายอติรุจเอาไว้แล้วครับ คุณบุญชัยติดต่อมาที่ผมด้วยตนเอง น่าจะเป็นเพราะว่าเขารู้สึกผิดเรื่องที่ลูกชายทำ” เขาบอกเรื่องนี้แก่ทั้งสอง แต่ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับพีรมนแล้ว
“อืม พ่อก็พอได้ยินมาอยู่ ว่าบ้านนั้นสละตำแหน่งแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่ไม่รู้เรื่องขายหุ้น” พีรพลพยักหน้ารับทราบ เรื่องนี้ไม่ได้ตกใจอะไร และโล่งใจเสียด้วยซ้ำที่จะไม่ต้องเกี่ยวดองกันอีก
“กรรมตามทันแล้วสินะ สงสารแต่ก็คุณบุญชัย ทุกข์เพราะลูกเพราะเมียแท้ ๆ” ผกาพูดแล้วยิ้มออกมา อดสะใจไม่ได้ที่กรรมเล่นงานคนชั่ว
************************