งานมอบรางวัลนักธุรกิจรุ่นใหม่ คนที่ได้รับการเสนอชื่อในการเข้าร่วมในครั้งนี้หนึ่งในนั้นก็คือพีรมน ถึงแม้ตำแหน่งของเธอจะเป็นเพียงแค่ผู้จัดการ แต่ว่าธุรกิจที่ก่อตั้งนั้นเป็นแนวคิดของเธอกับพีรพล หุ้นที่เธอถือทำให้เธอพ่วงตำแหน่งกรรมการบริษัท หญิงสาวจึงมีชื่อในการเสนอชิงรางวัลในงานนี้ด้วย
วันงานเธอนั่งรถไปกับธนัทไม่ได้ปิดบังหากจะมีใครจับตามองทั้งสอง แม้พีรพลและผกาจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ขัดลูกสาวไม่ได้ ยิ่งธนัทมารับเธอถึงที่บ้าน เข้ามาไหว้แนะนำตัวขนาดนั้นว่ากำลังชอบพอกับเธอ ทำให้พวกเขาถึงกับทำตัวไม่ถูก และกังวลว่าจะเสียชื่อเสียงจากสิ่งที่ยังคาราคาซัง
แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้เธอออกไปงานรับรางวัลกับเขา โดยยังไม่ล่วงรู้ถึงสถานะที่แท้จริง
มาริสาในชุดออกงานสุดหรู เธอเข้าร่วมงานนี้โดยให้คนในวงการชักชวนเธอเข้ามา เมื่อเห็นว่าพีรมนมาพร้อมกับธนัทอย่างเปิดเผยก็อดรู้สึกโกรธและอิจฉาไม่ได้
“งั้นข่าวลือเรื่องที่ว่าผู้หญิงคนนั้นคือลูกสาวประธานเอพีกรูปก็เรื่องจริงนะสิ” มีเสียงหนึ่งพูดขึ้นมาขณะที่ทั้งคู่ยืนพูดคุยกับนักธุรกิจคนอื่นภายในงาน
ธนัทหันกลับไปไม่ได้ปล่อยให้มีคนเข้าใจผิดนาน สายตาที่เขามองอีกฝ่ายนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่ริมฝีปากกลับมีรอยยิ้มที่เรียกว่ายิ้มธุรกิจ
“ข่าวลือเรื่องไหนครับ ถ้าเรื่องที่ผมมีคนรักหลังจากที่เธอเลิกกับคนรักแล้ว ใช่ครับ คุณพลอยคือผู้หญิงคนนั้น แต่ถ้าข่าวลือเรื่องอื่น ถ้าไม่รู้ความจริงระวังหมายศาลร่อนไปติดที่หน้าประตูรั้วบ้านนะครับ” เขาพูดเพียงแค่นั้นพร้อมกับรอยยิ้มธุรกิจ
คนพูดถึงกับหน้าเจื่อน คนอย่างธนัทไม่เคยใส่ใจเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่คิดว่าเขาจะหันมาพูดกับตนตรง ๆ พร้อมทั้งขู่เป็นนัยแบบนี้
“คุณธนัทคะ” พีรมนปรามเขาเสียงเบาแล้วยิ้มให้คนที่นินทาเธอระยะเผาขน ก่อนจะควงแขนสามีราวกับว่าจะใช้งานนี้เปิดตัวความสัมพันธ์ของเธอและเขา
“คุณธนัท เชิญทางนี้ครับ คุณนภาพรอยากเชิญให้คุณเป็นหนึ่งในผู้ทรงเกียรติที่จะมอบรางวัลให้กับนักธุรกิจในปีนี้” เลขานุการของเจ้าของเจ้าของงานเดินมาเชิญธนัทในฐานะนักธุรกิจกิตติมศักดิ์
“เดี๋ยวค่อยเจอกันนะ” เขาพูดแล้วหันไปพยักหน้าให้กพล เป็นนัยบอกว่าให้คนตามดูแลภรรยาไม่ให้คลาดสายตา ก่อนจะเดินไปยังด้านหลังเวที
มาริสาที่รอโอกาสอยู่แล้ว เธอเดินถือเครื่องดื่มเข้าไปหา จริงอยู่ว่าเธอจะให้อติรุจประกาศสถานะของเขาและพีรมนในงาน ทำให้ธนัทเสียหน้าและยอมถอยไปเพราะกระแสต่อต้านของคนในสังคม แต่ดูจากที่ทั้งสองมาพร้อมกันแบบนี้จึงต้องใช้แผนสำรองเข้าช่วย
“สวัสดีค่ะ คุณคือคุณพลอย ภรรยาของคุณอติรุจใช่ไหมคะ” มาริสาเข้าไปทักทาย
“ค่ะ แต่ไม่ใช่ภรรยาของอติรุจค่ะ เราล้มเลิกงานแต่งงานไปแล้ว สงสัยว่าคุณคงจะตกข่าว ว่าแต่คุณคือ...” พีรมนตอบปฏิเสธกลับไป แล้วถามชื่ออีกฝ่ายด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าเธอไม่ใช่คนที่ใครจะมารังแกได้ง่าย
“ฉันมาริสาค่ะ เรียกว่าพี่สาก็ได้นะคะ ฉันเป็นแฟน... เอ่อ ไม่สิต้องเรียกว่าผู้หญิงของคุณธนัทถึงจะถูก เพราะเขาไม่ยอมรับสถานะนี้” พูดแล้วมาริสาก็ทำเสียงเศร้า พลางเอามือลูบที่ท้องของตนเองเบา ๆ เหมือนจะสื่ออะไรบางอย่าง
“อ๋อ คุณมาริสา ลูกค้าบริษัททัวร์ที่เคยเชิญคุณธนัทไปดื่มไวน์ที่ห้องแล้วเจรจาธุรกิจไม่สำเร็จในวันนั้นนี่เอง เขาเล่าให้ฉันฟังแล้วค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น แหม... ที่แท้ก็คนกันเอง แต่ขอไม่เรียกพี่นะคะ ไม่ได้คิดว่าจะนับญาติกัน” รอยยิ้มที่เสแสร้งและการพูดกระแทกแดกดันอย่างจงใจทำให้มาริสาถึงกับจุกในอก
“ขอตัว” มาริสากระแทกเสียงด้วยความโกรธ
“เชิญค่ะ แล้วอย่าลืมเข้าห้องน้ำนะคะ ลูบท้องเมื่อครู่สงสัยว่าจะปวดหนัก”
ประโยคจิกกันตามไล่หลังมา ทำให้ไฟแค้นสุมในอกที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ หวังแค่ให้อติรุจทำสำเร็จ ส่วนพีรมนหากมีโอกาสตนจะเอาคืนแน่
รายชื่อของผู้ที่ได้รับรางวัลนักธุรกิจรุ่นใหม่ในแต่ละสาขาถูกเชิญให้ขึ้นไปรับรางวัลทีละคน จนกระทั่งถึงพีรมนที่ได้รับรางวัลในปีนี้ด้วยเธอก็ขึ้นไปรับรางวัลด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม โดยมีธนัทเป็นคนมอบรางวัลให้แก่เธอ
ในตอนนั้นเองอติรุจก็เดินมายืนข้าง ๆ เธอในฐานะตัวแทนที่มาจากบริษัทเดียวกัน โอบเอวพีรมนแสดงความเป็นเจ้าของ แต่เธอดันตัวเขาออกไปแล้วขยับออกห่างแสดงชัดเจนว่าเธอกับเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน
หลังจากรับรางวัลเสร็จแล้วก็เป็นการถ่ายรูป นักข่าวสายธุรกิจก็จะนำรูปไปลงสกูปข่าวของตน อติรุจถือโอกาสนี้โอบไหล่เธออีกครั้งเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ พีรมนดันตัวออกเขาก็ดึงเธอมาเพื่อที่จะจูบโชว์ออกสื่อ
ธนัทแกะมือเขาออกแล้วบิดข้อมือจนอติรุจหน้าเขียวคล้ำ พีรมนเดินมาอยู่ด้านหลังของประธานหนุ่มลูกเสี้ยวแล้วมองเขาด้วยความขยะแขยง
“พลอยเป็นภรรยาพี่นะ วันนี้ออกงานก็ยังมาพร้อมมันและยังควงกันออกนอกหน้า พลอยไม่ไว้หน้าพี่เลย” อติรุจตะโกนโวยวายรับบทสามีที่ภรรยากำลังสวมเขา ทำให้มีคนสนใจเป็นอย่างมาก เพราะข่าวลือนั้นคาดว่าจะเป็นเรื่องจริง
“กล้าพูดได้ยังไงคะ เราเลิกกันแล้ว”
“เลิกกันตอนไหน พี่เข้าใจว่าพลอยบอกเลิกพี่ปากเปล่าก็แค่งอนปกติ พี่ไม่เคยเลิกกับพลอย ตลอดมาพี่ก็พยายามง้อ หรือข่าวลือเรื่องพลอยกับคุณธนัทจะเป็นเรื่องจริง พลอยตอบพี่มาสิว่ามันไม่ใช่” เสียงคนรอบข้างฮือฮาขึ้นมาแล้วกระซิบกระซาบกัน
“ใช่ ๆ งานแต่งงานทั้งสองฉันก็ไปนะ”
“นั่นสิ เพิ่งแต่งงานแท้ ๆ สงสารผู้ชายเลย”
“แค่งอนเหรอ เป็นเพราะพี่อาร์ต ฮือ ๆ พี่อาร์ตทำเรื่องแบบนั้น พลอยถึงได้เลิกไม่ใช่เหรอ” พีรมนปล่อยโฮ มือเรียวสั่นเทาล้วงไปที่โทรศัพท์ของเธอ เปิดคลิปกล้องวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ที่เธอยกเลิกงานแต่งงานมาเปิดแล้ว มือไม้สั่นเทาจนโทรศัพท์เกือบร่วง จนธนัทต้องรับมาแล้วแสดงมันให้คนอื่นดูในขณะที่เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ด้านหลัง
ภาพและเสียงทุกอย่างที่เธอประกาศบอกเลิกนั้นชัดเจน รวมถึงภาพที่เขากับหญิงสาวนิรนามร่วมรักกันแม้จะถูกเซนเซอร์ใบหน้าแต่เสียงที่เล็ดลอดออกมาก็รู้ว่าเป็นใคร
อติรุจเองก็ยืนอึ้งด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าพีรมนจะแสดงละครรับบทเจ้าสาวผู้น่าสงสาร พลิกสถานการณ์กลับได้อย่างทันท่วงที
“บัดสี สมควรแล้วที่เจ้าสาวบอกเลิก”
“นั่นสิ ที่แท้งานแต่งก็ล่มไปแล้วนี่เอง มิน่าล่ะคุณธนัทถึงได้บอกว่าเขาพบรักกับเธอตอนที่โสดแล้ว”
“ถูกสวมเขาอย่างนั้น เป็นใครก็ต้องเลิก ในงานแต่งงานตัวเองแท้ ๆ ก็ยังกล้าทำ น่ารังเกียจ” เสียงของคนในงานต่างก็พูดไปในทางเดียวกัน
อติรุจกำมือแน่นด้วยความโมโห อับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น รีบเดินแหวกกลุ่มคนออกไปจนเจอกับญาดาที่ยืนตัวสั่นมองเขาด้วยแววตาที่สั่นไหว ข้างกายคือคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงาน
ทั้งสองสบตากันสักพักก่อนที่เขาจะรีบเดินหนีความอับอายไป
ญาดาที่ยืนตัวสั่นเคียงค้างกับคู่หมั้นที่จะแต่งงานในเดือนหน้า เขาหันมามองคู่หมั้นและว่าที่เจ้าสาวของตนด้วยแววตาที่เย็นชา แกะมือเธอที่เกาะแขนเขาออกแล้วเดินไปโดยไม่สนใจร่างอรชรที่หมดสติไปในตอนนั้น
************************