ตอนที่ 5 โลหิตอมตะ!/3

2084 คำ
ท่ามกลางสายพระเนตรของอุปราชปีศาจ ทรงยืนทอดพระเนตรอยู่ภายในอุทยานส่วนพระองค์ หากแต่ไม่สามารถทอดพระเนตรองค์หญิงน้อยได้อีกต่อไป ญาณหยั่งรู้ต่างๆของพระองค์ไม่สามารถใช้ได้กับองค์หญิงเย่วเพ่ยเพ่ยได้อีกต่อไปแล้ว ทันทีที่ได้ดื่มพระโลหิตอมตะของพระองค์เข้าไป “หวังว่าเจ้าจะช่วยพี่สาวและหลานชายของเจ้าได้ทันเวลานะเพ่ยเอ๋อร์ ข้าช่วยได้ในสิ่งที่ไม่ฝืนโชคชะตามากเกินไปกว่านี้ หากแต่ข้ากลับฝืนกฎสวรรค์เพราะไม่อยากเห็นความตายเกิดขึ้นกับเจ้าที่เป็นเพียงผู้เดียวในรอบสามร้อยกว่าปีได้อยู่ใกล้ชิดกับข้า ภายภาคหน้าจะเหตุการณ์เช่นไรขึ้นก็ให้เป็นไปตามลิขิตของเบื้องบนเถิด”อุปราชหนุ่มรับสั่งพึมพำ ทันใดนั้นเอง ญาณหยั่งรู้ของพระองค์สัมผัสได้ว่ามีสายตาหลายคู่ อยู่บริเวณด้านนอกของสระหยกมณีซึ่งบังเอิญเดินผ่านมาพบองค์หญิงน้อยในขณะที่กำลังก้าวออกจากประตูพระตำหนักลืมเลือน สายตาของทุกคู่กำลังเฝ้าจับจ้ององค์หญิงน้อยเดินลัดเลาะข้ามสะพานของสระหยกมณีมุ่กำลังงหน้าไปยังทิศทางพระตำหนักลู่เหวินของเย่วฮองเฮา “เด็กอ้วนผู้นั้นคือน้องสาวของเย่วฮองเฮาใช่หรือไม่”เสียงของสตรีที่เต็มไปด้วยอำนาจเอ่ยถามคนสนิทขึ้นมาซึ่งนางก็คือจีฟูเหรินนั่นเอง จีฟูเหรินกำลังจะที่ตำหนักลู่เหวินเช่นกัน ซึ่งตำหนักเถียนอันของพระนางตั้งอยู่ทางทิศหรดี หากจะต้องไปตำหนักลู่เหวินโดยไม่เสียเวลาเดินทางมาก จะใช้เส้นทางของสระหยกมณีเพื่อข้ามสะพานดังกล่าวไปยังตำหนักของฮองเฮา โดยพระตำหนักลู่เหวินและพระตำหนักจินหลงของฮ่องเต้เฟิงอวิ๋น จะตั้งอยู่ทางทิศบูรพาและอยู่ไม่ห่างกันมากนักเพื่อความสะดวกเวลาที่องค์ฮ่องเต้จะเสด็จไปประทับที่พระตำหนักของฮองเฮา และการไปที่พระตำหนักลู่เหวินของจีฟูเหรินในครั้งนี้ก็เพื่อลงมือจัดการเย่วฮองเฮาให้ออกไปพ้นทางการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแม่ของแผ่นดินของจีฟูเหรินนั่นเอง ยาพิษร้ายแรงเพื่อใช้ลอบสังหารถูกจัดเตรียมเอาไว้เป็นอย่างดี ที่เหลือก็เพียงแค่ไปที่ตำหนักลู่เหวินเพื่อเข้าเยี่ยมอาการประชวร หลังจากนั้นเพียงไม่นานลมหายใจของฮองเฮาองค์ปัจจุบันก็จะต้องถูกพรากออกจากร่างทันที “พวกเจ้าได้ยินที่ข้าถามหรือไม่ เจ้าเด็กอ้วนที่กำลังเดินไปทางตำหนักลู่เหวินใช่น้องสาวของเย่วฮองเฮาหรือเปล่า”จีฟูเหรินถามเสียงห้วนด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองที่นางกำนัลคนสนิทให้คำตอบล่าช้า “องค์หญิงน้อยที่เจ้าเนื้อตัวอ้วนกลมมีเพียงองค์หญิงเย่วเพ่ยเพ่ย พระขนิษฐาของเย่วฮองเฮาเท่านั้นแหละเพคะ องค์หญิงพระองค์อื่นๆ ต่างเจริญชันษาเข้าสู่วัยสาวกันหมดแล้ว จึงทำให้สังเกตได้อย่างง่ายดาย”นางกำนัลคนสนิทกราบทูลกลับไป “อย่างนั้นเหรอ!!!”จีฟูเหรินลากเสียงต่ำอยู่ในลำคอ หึหึหึหึ!!!! เสียงหัวเราะดั่งนางมารร้ายดังตามติดมาพร้อมมีรับสั่ง “น่าเสียดายเสียจริงที่นางดันกำลังมุ่งหน้าไปทางตำหนักลู่เหวินเสียด้วย ได้ยินมาว่านางคอยเฝ้าเย่วฮองเฮาอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ แล้วเหตุใดจึงเดินออกมาจากตำหนักลืมเลือนแห่งนั้นได้ เจ้าเด็กอ้วนไม่เกรงกลัวอุปราชปีศาจที่สิงสถิตอยู่ในตำหนักปีศาจอย่างนั้นเหรอ” รับสั่งพร้อมหันพระพักตร์กลับไปฝั่งตรงกันข้ามทอดพระเนตรพระตำหนักลืมเลือนที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ไม่ได้ทรุดโทรมและรกร้างเป็นที่น่าหวาดหวั่นแต่อย่างใด “แต่จะว่าไปแล้วตำหนักปีศาจแห่งนี้ มีอาณาบริเวณกว้างขวางเป็นยิ่งนัก เป็นพระตำหนักส่วนพระองค์ของอุปราชปีศาจสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้เป็นที่ประทับ ข้าได้ยินมาว่ามีพื้นที่มากเสียยิ่งกว่าพระราชวังถังเฉี่ยนเสียอีก ราวกับว่ามีพระราชวังสองแห่งอยู่ภายในอาณาบริเวณเดียวกัน ฝีมือในการปลูกสร้างถูกใจข้าเป็นอย่างมาก แต่ดันมาติดตรงที่เป็นสถานที่หวงห้ามนี่สิ ไม่รู้จะห่วงเอาไว้ทำอะไร” ประโยคสุดท้ายเปลี่ยนจากการชื่นชมกลายเป็นเริ่มต้นด่าทอขึ้นมาทันใด พร้อมเสียงของนางกำนัลคนสนิทเอ่ยขึ้น “หม่อมฉันเคยได้ยินคนเก่าคนแก่ที่ได้ยินเรื่องราวสืบทอดต่อๆ กันมา เล่าว่าพระตำหนักลืมเลือน มีข้าราชบริพารนับพันชีวิตและมีกองทหารองครักษ์ส่วนพระองค์ของอุปราชปีศาจ คอยดูแลรักษาการณ์และถวายอารักขาหลายหมื่นนายเลยทีเดียวเพคะ ไม่รู้ว่าอยู่กันได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ไม่เคยได้รับพระราชทรัพย์จากท้องพระคลังหลวงที่ฮ่องเต้ทุกๆ พระองค์จะต้องพระราชทานให้ แต่กลับกลายเป็นว่าตำหนักลืมเลือนมีพระราชทรัพย์นำมาใช้จ่ายอย่างสุขสบายรวมไปถึงซ่อมแซมปรับปรุงตำหนักได้ตลอดเวลาด้วยเพคะ” คำกราบทูลของนางกำนัลคนสนิททำให้จีฟูเหรินก้าวเดินนำหน้าออกมาด้วยความสนใจครั้นได้ยินเช่นนั้น “ข้าก็เคยได้ยินเรื่องเล่าเช่นนี้มาเหมือนกัน ว่าอุปราชปีศาจในตำนานมีพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์มากมายมหาศาลเป็นยิ่งนัก ชนิดที่ว่าแม้แต่ท้องพระคลังหลวงของเป่ยถังก็ไม่อาจทัดเทียม อุปราชผู้นั้นซุกซ่อนทรัพย์สมบัติมหาศาลเอาไว้ภายในพระตำหนักแห่งนี้ตามเสียงเล่าลืออาจจะเป็นความจริงก็ได้ ตั้งสามร้อยกว่าปีแล้วอุปราชผู้นั้นป่านนี้กลับไปเกิดใหม่นานแล้วกระมัง”รับสั่งพลางเค้นเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ ดวงตาลุกโชนวาววับเมื่อความคิดอันแสนชั่วร้ายบังเกิดขึ้น “วันใดที่ข้าได้ก้าวขึ้นเป็นแม่ของแผ่นดินแห่งเป่ยถังคราใด วันนั้นข้าจะสั่งยึดตำหนักลืมเลือนมาเป็นของข้า! แล้วให้ย้ายตำหนักที่ประทับสำหรับฮองเฮามาที่ตำหนักลืมเลือนแห่งนี้แทน เช่นนี้แล้วจึงจะสมฐานะคู่ควรของการก้าวขึ้นมาเป็นจีฮองเฮาของข้า!”รับสั่งอย่างหมายมั่นพระทัย ท่ามกลางอาการตกใจของเหล่านางกำนัลคนสนิททั้งสองครั้นได้ยินเช่นนั้น ต่างพากันสบตาพยายามจะเอ่ยคัดค้านความคิดอันน่ากลัวของจีฟูเหรินเอาไว้ก่อนจะลุกลามใหญ่โตไปมากกว่านี้ “พระนางเพคะดูท่าหากจะทำเช่นนั้นจริงๆ หม่อมฉันเกรงว่าฝ่าบาทจะทรงไม่ให้ความร่วมมือด้วยนะสิเพคะ เพราะจารึกของปฐมราชวงศ์เป่ยถังทรงจารึกอยู่บนแผ่นหินศิลาเอาไว้อย่างชัดเจน ว่าห้ามไม่ให้บุกรุกและเข้ายึดครองพระตำหนักลืมเลือน รวมไปถึงห้ามถอดพระยศของอุปราชปีศาจเป็นอันขาด สิ่งที่พระนางทรงหมายมั่นเอาไว้จะไม่เป็นดั่งใจหวังโดยง่ายนะสิเพคะ” นางกำนัลคนสนิทที่ติดตามจีฟูเหรินตั้งแต่ยังไม่เข้าวังมาถวายงานให้กับเฟิงอวิ๋นฮ่องเต้กราบทูลกลับไปซึ่งเต็มไปด้วยความกังวล ควับ! พระพักตร์งามหันกลับไปทอดพระเนตรคนสนิทของด้วยสายพระเนตรดุดันเป็นที่น่าหวาดหวั่นยิ่งนักพร้อมมีรับสั่งขึ้นมาทันใด “แล้วเรื่องอะไรข้าจะปล่อยให้ฝ่าบาทมาทัดทานข้าด้วยเล่า เพราะฮ่องเต้ของเป่ยถังพระองค์ต่อไปก็คืออี๋เอ๋อร์ของข้า ไม่ใช่ฝ่าบาทเสียหน่อย อยู่มานานเกินพอแล้วหลังจากที่กำจัดเย่วฮองเฮาได้เรียบร้อยแล้ว และข้าได้รับการสถาปนาขึ้นรับตำแหน่งฮองเฮาพระองค์ใหม่เป็นที่เรียบร้อย ฝ่าบาทก็ไม่จำเป็นสำหรับข้าอีกต่อไป!!!”จีฟูเหรินรับสั่งเสียงกร้าว หา!!! คนสนิททั้งสองอุทานเสียงหลงออกมาทันใดครั้นได้ยินเช่นนั้น “ตะ...แต่ถ้าหากทำเช่นนั้นหม่อมฉันเกรงว่า อุปราชปีศาจที่ประทับอยู่ในพระตำหนักลืมเลือน จะปรากฏออกมานะสิเพคะ มีเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมาว่า วันใดที่เป่ยถังถึงคราวกลียุค อุปราชปีศาจจะเสด็จออกมาจากพระตำหนักเพื่อกำจัดสิ่งที่เป็นภัยของเป่ยถังให้หมดสิ้น เพียงแค่เสด็จผ่านไปทิศทางใด ร่างก็จะสลายเป็นเถ้าถ่านแล้วเพ....”ยังไม่ทันที่คนสนิทจะกล่าวจนจบประโยคสุระเสียงของจีฟูเหรินก็แผดดังก้องขึ้นมาทันที “หุบปาก!!!!”เสียงตวาดดังเอ็ดอึงได้ยินไปทั่วบริเวณสระหยกมณี จนเสียงสะท้อนก้องไปยาวไกล ดวงตายาวรีเฝ้าจับจ้องนางกำนัลคนสนิทด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองอย่างยิ่งยวด “มัวแต่พล่ามนิทานปรัมปรา เรื่องเล่าตำนานโบราณของอุปราชปีศาจผู้นั้นอยู่ได้ กาลเวลามันผ่านไปยาวนานเท่าไรแล้ว..คิดเสียบ้างสิ!!!” จีฟูเหรินตะคอกนางกำนัลคนสนิทพลางจ้องด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าทั้งเบื่อและรำคาญอย่างยิ่งยวด “เรื่องเล่าของอุปราชปีศาจในตำนานก็แค่คนเล่าเรื่อง นำมาแต่งเติมจนเลยเถิดไปไกล นับตั้งแต่สร้างแคว้นเป่ยถังมาจนถึงวันนี้ สามร้อยกว่าปีผ่านมาแล้ว เจ้าทั้งสองยังคิดว่าอุปราชผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่ได้อีกอย่างนั้นเหรอ ป่านนี้ตายไปไม่รู้กี่รอบแล้วกระมัง ช่างน่าขบขันสิ้นดี ข้าไม่เชื่อตำนานสร้างแคว้นบ้าบออะไรพวกนั้นแม้แต่น้อย และคราวหลังไม่ต้องมาเล่าให้ข้าฟังอีก!” รับสั่งตะคอกเสียงกร้าวพลางก้าวนำหน้าขึ้นสะพานข้ามสระหยกมณีไปอย่างหัวเสีย โดยมีสายตาของคนสนิทของจีฟูเหรินซึ่งคอยดูแลพระนางมาตั้งแต่ยังเยาว์ “ฟูเหรินไม่เชื่อเลย ถ้าเกิดทรงลงมือทำเช่นนั้นจริงๆ เกิดอุปราชปีศาจ ออกมาจากตำหนักลืมเลือนเข้าให้จริงๆ จะพากันทำอย่างไง มิต้องล้มตายดั่งใบไม้ร่วงหล่นจนหมดทั่วทั้งวังหลวงอย่างนั้นเหรอ อย่าลืมสิว่าอุปราชในตำนานไม่ใช่คนนะแต่เป็นปีศาจ ขึ้นชื่อว่าปีศาจด้วยแล้วย่อมไม่มีวันตาย”เสียงของหนึ่งในคนสนิทเอ่ยปรับทุกข์กับเพื่อนด้วยกันอย่างเป็นกังวลยิ่งนัก “คงจะไม่ถึงขนาดนั้นหรอกกระมัง หากจะกล่าวกันตามความเป็นจริงแล้ว ก็น่าขบคิดอยู่หรอกนะ เวลาผ่านมาตั้งสามร้อยกว่าปีแล้วอุปราชปีศาจก็คงจะสิ้นพระชนม์ไปนานมากแล้วกระมัง เจ้ากับข้าใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินตำนานสร้างแคว้นเป่ยถังเสียที่ไหนกันเล่า ยิ่งเล่าขานต่อๆ กันมาก็ยิ่งมีการแต่งเติมจนเกินเลยไปจากเรื่องเล่าขานที่เคยเกิดขึ้นจริง คงไม่มีอะไรหรอก อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลยเจ้าและข้าหลงลืมหน้าที่หรืออย่างไร ปล่อยให้ฟูเหรินเสด็จไปเพียงลำพังได้อย่างไร...เร็วเข้าเถิด”กล่าวพร้อมก้าวเดินนำหน้าไปก่อน “รอข้าด้วย! อย่าเพิ่งทิ้งกันไปแบบนี้สิ..บริเวณนี้เป็นอาณาเขตของตำหนักลืมเลือนนะ เพียงแค่เดินผ่านข้าก็รู้สึกเสียวสันหลังแล้ว..บรื้อออ!!! น่ากลัวจริงๆ เลย”กล่าวพร้อมรีบก้าวเดินตามหลังไปเพื่อนของนางไปติดๆ จีฟูเหรินช่างไม่ล่วงรู้เลยว่าอุปราชปีศาจที่นางกำลังกล่าวขวัญถึงอยู่ในขณะนั้น บัดนี้พระพักตร์หล่อเหลาปรากฏรอยแสยะยิ้มเหยียดอย่างเหี้ยมเกรียมขึ้นมาบางๆ ช่างเป็นรอยแย้มเยือนที่น่าสะพรึงกลัวและหวาดหวั่นเสียนี่กระไร อุปราชในตำนานทรงได้ยินทุกถ้อยเจรจาและทุกประโยคของการตอบโต้นายบ่าวจนหมดสิ้น “ข้าก็หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องออกมากำจัดสิ่งที่เป็นภัยร้ายของเป่ยถังนะจีฟูเหริน ดูท่าเจ้าคงจะไม่อยากใช้ชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วสินะ จึงกล้ามีความคิดที่จะสังหารลูกหลานของข้าเช่นนี้! สตรีเลี้ยงไม่เชื่องเช่นเจ้าก็คือนางอสรพิษที่จะต้องถูกข้ากำจัดเพื่อไม่ให้เป็นภัยร้ายต่อเป่ยถังให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินของข้าจีฟูเหริน....หึหึหึหึหึ”อุปราชในตำนานรับสั่งสุระเสียงต่ำอยู่ภายในลำคอ อุปราชปีศาจค่อยๆ แผดเสียงหัวเราะหวีดหวิวออกมาผสานกับสายลมพาดผ่านที่เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกของอากาศหนาว จนทำให้ทุกชีวิตภายในพระราชวังถังเฉี่ยนมีอาการขนลุกตั้งชันขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม