แอ๊ด!
ชงคมผลักประตูห้องพักฟื้นของหงส์หยกเข้ามา แล้วแสงหล้ากับเด็กรับใช้ที่ติดตามมาตั้งแต่เมื่อคืนก็มองไปทางประตูห้องด้วยคิดว่าเป็นขันโตกหลานชายมาถึง แต่กลับไม่ใช่
“เอ้า! หมอคมเองเหรอจ๊ะ” แสงหล้าเอ่ยทักหมอหนุ่ม
“ครับคุณย่า สวัสดีครับคุณย่า พี่ชะมดด้วยนะครับ” ชงคมยกมือไหว้ผู้อาวุโสแล้วก็ไหว้สาวรับใช้ติดตามคุณย่าด้วยความเคารพ เขาไม่ได้สนใจว่าชะมดจะเป็นเพียงคนรับใช้ เพราะเขานับถือและไหว้ตามอายุ ใครแก่กว่าก็ควรนับถือที่บ้านเขาสอนมาแบบนี้
“สวัสดีค่ะคุณหมอ” ชะมดสวัสดีตอบแล้วเดินไปรับกระเช้าผลไม้ในมือหมอหนุ่มไปวางไว้
“เสร็จงานแล้วเหรอพ่อคมถึงได้มาเยี่ยมหนูหยกได้ แล้วรู้ได้ยังว่าหนูหยกไม่สบาย” แสงหล้าเอ่ยถามคนที่เดินมานั่งโซฟาตัวเดียวกับตนเอง
“เสร็จแล้วครับคุณย่า พอดีว่าพี่เตียนกับพี่หนุ่มบอกครับ”
“อย่างที่เห็นนั่นแหละ ตอนนี้หนูหยกหลับอยู่ เสียดายพ่อคมมาไม่ได้คุยกับน้องหรอกวันนี้”
“ไม่เป็นไรครับ แค่ได้มาเห็นหน้าได้มาเยี่ยมผมก็ดีใจแล้วครับ” สัตวแพทย์ปากหวานตอบอีกฝ่าย
“แหม! ปากหวานจริงพ่อคมเนี่ย ต่างจากพ่อโตกหลานชายย่ามาก รายนั่นน่ะสุนัขทั้งฝูงในปากเลยแหละ”
“นินทาอะไรผมอยู่ครับคุณย่า” ขันโตกเปิดประตูห้องเข้ามาเงียบๆ และเขามาทันได้ยินตั้งแต่ชงคมพูดแล้วแหละ แต่อยากฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร สองมือของเขาได้แต่กำแน่นข้างลำตัวแล้วเดินมานั่งโซฟาตัวเดียวกับทั้งสองคน โดยแทรกกลางระหว่างผู้เป็นย่าและสัตวแพทย์ประจำฟาร์มของตนเอง
“มาไวเหมือนกันนะหมอคม ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรออย่าเสือกให้มาก เมียตัวเองก็ไม่ใช่อย่ามาแสดงความห่วงใย” น้ำเสียงเหี้ยมเอ่ยกับสัตวแพทย์หนุ่ม
“ผมแค่เป็นห่วงน้องหยกไม่ได้เหรอ อีกอย่างน้องหยกก็ไม่ได้มีแฟน ผมก็จีบน้องหยกใครๆ ในฟาร์มก็รู้” ชงคมตอบกลับเจ้านายหนุ่มโดยไม่ยอมหลบตาสีเหล็กกล้าของอีกฝ่าย
‘เอาแล้วๆ หมาหวงก้างเป็นแบบนี้สินะ พ่อโตกเอ้ย! หึงหนูหยกก็พูดมาเถอะ’ แสงหล้าเอ่ยในใจ แล้วหันไปยิ้มให้ชะมดที่นั่งเก้าอี้อยู่ถัดไปจากตนเอง
หึหึ
ขันโตกแสยะยิ้มแล้วลุกขึ้นเดินก้าวยาวๆ ไปหยุดยืนข้างเตียงผู้ป่วยที่หลับสนิท ก่อนจะเอามือทั้งสองข้างเท้ายันขอบเตียง แล้วโน้มหน้าลงไปใกล้คนป่วยไม่ได้สติ แล้วหันมายิ้มเยาะเย้ยสัตวแพทย์หนุ่มก่อนจะพูด
“ดูไว้นะ ไม่ได้มีแฟนแต่มีผัวแล้ว รู้แล้วก็จำใส่หัวของนายไว้ด้วยล่ะ” พูดจบก็หันไปโน้มลงบดจูบปากน้อยของคนป่วยไม่ได้สติต่อหน้าต่อตาทุกคน
“อะ อือ”
หงส์หยกครางอู้อี้ในลำคอทั้งๆ ที่ยังหลับตา สองมือเล็กดันหน้าหล่อออกห่าง แต่ขันโตกรวบมือเล็กไว้แน่นแล้วอีกมือก็บีบคางเล็กให้แหงนเงยขึ้นรับจูบร้อนของตัวเอง เมื่อจูบจนพอใจและแสดงความเป็นเจ้าของให้สัตวแพทย์หนุ่มเห็นแล้วก็ถอนริมฝีปากหนาออกมา แล้วเดินกลับมานั่งที่เดิมตรงกลางระหว่างหมอหนุ่มกับผู้เป็นย่าแล้วพูด
“อะ อือ”
หงส์หยกครางอู้อี้ในลำคอทั้งๆ ที่ยังหลับตา สองมือเล็กดันหน้าหล่อออกห่าง แต่ขันโตกรวบมือเล็กไว้แน่นแล้วอีกมือก็บีบคางเล็กให้แหงนเงยขึ้นรับจูบร้อนของตัวเอง เมื่อจูบจนพอใจและแสดงความเป็นเจ้าของให้สัตวแพทย์หนุ่มเห็นแล้วก็ถอนริมฝีปากหนาออกมา แล้วเดินกลับมานั่งที่เดิมตรงกลางระหว่างหมอหนุ่มกับผู้เป็นย่าแล้วพูด
“ไม่ได้มีแฟนแต่มีผัว และผัวเขานั่งอยู่นี่ทั้งคนยังจะปากหวานและอยากจีบเขาอยู่ไหม หยกเป็นของฉัน เธอเป็นสิทธิ์ขาดของฉันคนเดียว และเราจะมีลูกด้วยกันในอนาคตที่ใกล้จะถึงนี้ด้วย” ขันโตกไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ แต่เขาหมั่นไส้ชงคม เหรอ? หมั่นไส้หรือว่าความรู้สึกจริงกันแน่ แต่เขาพยายามบอกตัวเองว่าทำไปแบบนั้นและพูดออกมาแบบนั้นเพราะว่าหมั่นไส้สัตวแพทย์ของฟาร์มตัวเองจริงๆ
ชงคมหน้าเหวออึ้งนิ่งไปกับภาพที่เห็น ไม่พอยังอึ้งกับคำพูดของนายหนุ่มตัวเองอีก จนแสงหล้าต้องพูดขึ้นเมื่อเห็นหมอหนุ่มเงียบนาน
“พ่อคมจ๊ะ ย่าว่าวันนี้พ่อคมกลับไปก่อนดีกว่าจ้ะ”
“คะ...ครับคุณย่า งั้นผมลานะครับคุณย่า พี่ชะมด และคุณโตก” เขายกมือไหว้ทั้งสาม แม้ว่าคนที่สามไม่อยากยกมือไหว้ก็ตาม แต่เขาก็ต้องไหว้ก่อนกลับ เพราะที่บ้านของเขาสอนเขามาดี แต่ยังไม่ทันได้เดินออกจากห้องก็ถูกนายหนุ่มร้องเรียกไว้
“จำไว้ล่ะ อย่าเสือกเป็นห่วงเมียคนอื่นออกนอกหน้านอกตาอีก ถ้ามีอีกครั้งหน้าอาจเลือดกบปากได้ ไม่ได้ขู่แค่บอกไว้เฉยๆ ”
“ผมกลับไม่ใช่ว่าผมเชื่อหรอกนะครับคุณโตก เพราะที่ผ่านมาคุณแทบจะไม่พูดกับน้องหยกเลย” ชงคมเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องพักฟื้นของหงส์หยก ส่วนขันโตกก็ได้แต่ขำในลำคอ แล้วก็ต้องร้องโอ้ยออกมาเมื่อถูกหยิกแขน และใครล่ะที่หยิกเขาก็ย่าเขานั่นแหละที่ทำ
“โอ้ย! เจ็บนะคุณย่า หยิกผมทำไม”
“หยิกน่ะสิ พูดแบบนี้ทำไม พ่อคมเป็นคนดีและย่าก็เชื่อว่าเขาจะรักและดูแลหนูหยกได้ดีแน่ถ้าหมดย่าไป”
“คุณย่าพูดอะไร นั่นแม่ของลูกผม ผมต้องการให้ลูกผมมีพ่อคนเดียวไม่ต้องการให้มีพ่อเลี้ยง”
“ก็ไม่ได้ให้มีพ่อเลี้ยงหรือมีพ่อใหม่ พอหนูหยกคลอดเหลนให้ย่าแล้วก็มีเราเป็นพ่อ ส่วนหนูหยกจะเป็นน้า” หญิงแก่บอกหลานชายอย่างมีแผนการในใจ
“ได้ยังไง ลูกผมก็ขาดความอบอุ่นสิแบบนั้น”
“ก่อนจะว่าขาดความอบอุ่นเราให้ความรักแม่เขาได้ไหมล่ะ และกล้าแต่งงานประกาศบอกใครๆ ว่าเนี่ยเมียผมแบบเมื่อกี้ไหม ถ้าไม่กล้าลูกของโตกก็มีปมตั้งแต่เกิดแล้วโตก” นางพูดให้หลานชายคิด แต่อีกนั่นแหละพอตัวเองถึงทางตันไปต่อไม่ได้ก็พูดเปลี่ยนเรื่องทันที
“จะกลับไม่ใช่เหรอครับ กลับบ้านกันเถอะ”
“หาคำตอบให้ได้นะว่าเราน่ะต้องการอะไรกันแน่ ถ้าต้องการแค่ลูกก็อย่ากั๊กน้องแบบที่ทำเหมือนเมื่อกี้อีก เพราะถ้าทำแบบเมื่อกี้อีกแสดงว่าเราไม่ได้ต้องการแค่ลูกแต่เราต้องการแม่ของลูกด้วย และนั่นคือโตกรักน้องเข้าแล้วแต่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง” นางพูดแล้วลุกขึ้นก่อนจะพูดต่อ “กลับกัน เดี๋ยวฉันให้ขนุนมาเปลี่ยนนะช่วงเย็น” แสงหล้าบอกเด็กรับใช้
“ค่ะคุณย่า” ชะมดรับคำ