ตอนที่3 เหยื่อ
“เที่ยวอีกแล้วเหรอพิม” พรปวีย์บ่นให้ลูกสาวที่แต่งตัวสวยพร้อมออกแต่ยังอุตส่าห์เข้ามากอดมาหอมเธอก่อนไปอีก
“แม่ของพิมตัวห๊อมหอม”
“อย่ากลับดึกอีกนะ” คนเป็นแม่พูดดักลูกสาว คราวที่แล้วกลับเกือบเช้า
“คืนนี้พิมไม่กลับค่ะ จะนอนคอนโด”
“พิม...แม่เป็นห่วง”
“พิมโตแล้วนะคะ อีกอย่าง พิมเที่ยวตั้งแต่อายุ18นู่นยังอยู่รอดปลอดภัยแม่เห็นมั้ย”
“แต่...”
“ไม่เอาไม่บ่นสิคะ แม่อย่าห้ามพิมเลยนะคะพิมขอแค่เรื่องเที่ยวเรื่องเดียวแล้วจะตั้งใจเรียนให้แม่ตามที่ขอเลยค่ะ” หญิงสาวหน้าตาสะสวยออดอ้อนแม่ของเธอ ดวงตากลมโตที่มักสะกดคู่สนธนาไม่ให้ละสายตาไปได้นั้นมีเสน่ห์เหลือร้าย
“ห้ามติดต่อไม่ได้นะ”
“รักแม่ที่สุดเลยค่ะ”
.....
เรื่องพ่อกับเมียน้อยไม่เคยหลุดออกไปจากสมองของพิมประภาได้เลย พ่อเหมือนแผลร้ายที่เกาะติดเธอกับแม่มาร่วมสิบปี ครั้นจะเอาเนื้อร้ายทิ้งก็ทำไม่ได้เพราะเนื้อร้ายนั้นยังดึงดันที่จะอยู่เกาะเธอและแม่แบบนี้ไปตลอด ไม่ยอมปล่อยมือทั้งที่ไม่พร้อมจะเป็นสามีและพ่อที่ดี “เห็นแก่ตัว”
“ขอนั่งด้วยนะครับ” หญิงสาวใบหน้าเชิดรั้นหันมองผู้ชายที่ยืนข้างเธอเพียงนิดแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปและยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่มเหมือนไม่ได้เห็นเขายืนอยู่ตรงนี้
“น้อง ออนเดอะร็อค2” เขาถือวิสาสะนั่งลงที่นั่งข้างเธอพลางโลมเลียผิวเนื้อเนียนที่โผล่พ้นชุดของเธออย่างเปิดเผย
“ดื่มกับผมหน่อยสิครับ” หญิงสาวเหลือบมองแก้วที่เขาดันมันมาตรงหน้าของเธอ
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ” เธอตอบพร้อมเบี่ยงตัวหนีสายตาเขานิด ๆ
“สนใจไปต่อกันมั้ย สำหรับคุณคนสวย...ผมจ่ายให้ได้ไม่อั้น”
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ไปต่อไม่ว่ากับใคร” ดวงตากลมโตของพิมประภามองดูเหมือนดุแต่ก็เย้ายวนในเวลาเดียวกัน แต่จังหวะที่เธอคว้ากระเป๋าที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์เขากลับคว้าข้อมือของเธอไว้
“ฉันพูดเมื่อกี้คุณไม่เข้าใจเหรอคะ”
“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิคุณ ดื่มหน่อยสิครับผมอุตส่าห์สั่งเผื่อ” หญิงสาวร่างอรชรดื่มแก้วที่เขาดันมาตัดความรำคาญอย่างไรเธอก็เห็นว่าเขาเพิ่งสั่งตอนที่มานั่งอยู่ข้างเธอแล้ว
“คราวนี้ปล่อยได้หรือยังคะ”
“คุณจะกลับแล้วเหรอ”
“เปล่าค่ะ แค่จะไปเข้าห้องน้ำ” ชายคนนั้นยอมปล่อยเมื่อเธอบอกว่าจะกลับมาอีก แต่หารู้ไม่ว่าเธอหมดอารมณ์จะนั่งต่อเพราะเขาจริง ๆ “กลับมาให้โง่เหรอ ไอ้บ้ากาม”
คลิก
ห้องของวายุเย็นเฉียบราวกับเป็นห้องแช่แข็งจนพิมประภาขนลุกซู่ เธอหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาเงียบ ๆ เมื่อไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าของห้องกำลังทำอะไรอยู่ แต่ในขณะที่เธอกำลังมองสังเกตรอบห้องของเขาสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่คนที่สวมเพียงกางเกงยีนส์พร้อมกับเสื้อหนึ่งตัวพาดที่ไหล่ออกมาจากห้องนอน
“เธอ...”
“รบกวนหน่อยนะคะ พิมมาดักรอพ่อเผื่อว่าตอนเช้าจะเจอ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้เธออย่างงุนงงก่อนจะเหลือบมองผิวขาว ๆ ที่โผล่พ้นออกมาจากชุดสายเดี่ยวของเธอ มาห้องเขาแล้วแต่งตัวแบบนี้เนี่ยนะ“อ่อยรึเปล่าวะ?”
“พิมบอกแม่ว่าออกมาเที่ยวค่ะ เลยแต่งตัวแบบนี้ออกมา”
“ขี้โกหก”
“ไม่ได้โกหกค่ะ พิมไปเที่ยวมาแล้วจริง ๆ” สายตาคมมองแก้มแดงระเรื่อที่ไม่ได้มาจากเครื่องสำอางแน่นอน “เออ แดกเหล้ามาด้วยเว้ย”
“พี่วายุกำลังจะออกไปข้างนอกเหรอคะ ไม่ต้องห่วงนะคะเดี๋ยวพิมเฝ้าห้องให้” เรียวขาขาวที่ไขว้ทับกันของเธอทำให้เขาหมดอารมณ์จะออกไปหาองศาที่ผับของพี่ชายเขาเสียแล้วล่ะ อยู่ห้องก็ไม่ได้น่าเบื่อ
“เปล่า ฉันจะออกมานั่งกินเหล้าตรงนี้แหละ เธอสนใจด้วยมั้ยล่ะ”
“ตามสบายเลยค่ะ พิมดื่มมาแล้วนิดหน่อย” เขาเดินหนีดวงตาหวานฉ่ำไปหยิบขวดเหล้าที่เหลือมากกว่าครึ่งขวดในตู้เย็นโดยไม่ลืมคว้าแก้วมาด้วยสองใบ “เมานิด ๆ มันส์ดี”
“พิมว่าจะขอนอนตรงนี้จนกว่าเช้าค่ะ พี่วายุอนุญาตมั้ย” คนตัวสูงมองคนที่พูดสำเนียงออดอ้อนมากกว่าปกติ หรือเป็นเพราะว่าเมาได้ที่มาแล้ววะ
“นอนบนเตียงสบายกว่า โซฟามันแคบ”
คนที่ยังไม่คิดจะสวมเสื้อให้เรียบร้อยนั่งลงข้างพิมประภา สาวสวยคนนี้จัดว่าอยู่ในแบบที่ชอบอยู่มากเลยทีเดียว เธอเสน่ห์แรงใช่เล่นเลยล่ะ
“ไม่เอาจริง ๆ ?”
“แก้วนึงก็ได้ค่ะ ไม่ได้ใส่ยาอะไรใช่มั้ยคะ” หญิงสาวถามเขาก่อนจะยกแก้วขึ้นมาถือไว้แล้วแกว่งมันเล่นไปมาแต่ไม่ยักจะหกออกนอกแก้วสักนิด
“เธอเข้ามาในห้องฉันเอง” พิมประภาดื่มน้ำสีเข้มจนหมดในคราวเดียวหลังจากที่เขาเองก็ดื่มมันต่อหน้าของเธอ เขาคงไม่วางยาตัวเองด้วยหรอกมั้ง
“เธอเก่ง ถ้าคนไม่เคยกระดกแบบนั้นไม่ไหวแน่”
“พิมคอแข็งมากนะคะ”
“เหรอ แต่ดูเหมือนเธอจะเมามาบ้างแล้วนะ” สายตาของคนตัวสูงแทบไม่ต่างอะไรจากเปลวเพลิงที่โลมเลียเธอจนพาลทำให้เนื้อตัวร้อยฉ่าไปกับสายตาคู่นั้น มันครั่นเนื้อครั่นตัวแปลก ๆ ตั้งแต่ขับรถมาที่นี่แล้ว “เมาเหรอ ไม่มั้งไม่กี่แก้วเองนะ”
หญิงสาวผมยาวสลวยรวบผมมากองไว้ที่ลำคอข้างหนึ่งเผยให้เห็นผิวเนียนขาวน่าจูบซับของเธอ คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามยกยิ้มไม่รู้ว่ายัยนี่รู้ตัวหรือเปล่าว่าการกระทำแบบนั้นเรียกว่าอ่อยขั้นสุด
“ตัวพี่วายุแดงจัง คันหรือเปล่าคะ”
“ตัวไม่คัน คันตรงอื่นมากกว่า” เขาตอบพร้อมกับโน้มเข้าใกล้คนตาโตที่ตอนนี้มันหวานฉ่ำอย่างที่เขาไม่เคยเจอที่ไหน พิมประภาไม่ได้ใสซื่อ แต่ก็ไม่ได้ดูมากประสบการณ์เหมือนกัน
“แต่มันแดงมากเลยนะคะ”
“ไหนว่ามาดักพ่อกับเมียน้อย เธออ่อยฉันไม่หยุดเลยนะ”
“คะ?”
“เธอต้องรับผิดชอบ” เขาจับแก้วเหล้าในมือของพิมประภาออกมาวางไว้บนโต๊ะแล้วโถมตัวเข้าคร่อมทับเธอไว้อย่างมันเขี้ยว
“จะทำอะไรเหรอคะ”
“สาบานว่าเธอไม่รู้จริง ๆ” หัวใจแกร่งเต้นแรงลืมจังหวะไปชั่วขณะ เขาเห็นรอยยิ้มของเธอมันแตกต่างไปจากผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา “หรือจริง ๆ แล้วเขากันแน่ที่เป็นเหยื่อ”