ตอนที่ 12
“งั้นแสดงว่าพ่อของคุณคงต้องการให้คุณเรียนจบมาทางด้านนี้เพื่อต่อยอดธุรกิจ”
“ครับ พ่ออยากให้ผมเรียนแพทย์ แต่ผมดันไปเลือกวิศวะ สิ่งที่ผมเรียนมาพ่อเค้าเลยไม่ค่อยภูมิใจสักเท่าไหร่ เพราะมันไม่เหมาะกับธุรกิจครอบครัว”
“ฉันเห็นใจคุณนะคะ” ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ก็ได้ยินฝีเท้าของใครบางคนดังใกล้เข้ามา จนกันตธีร์ต้องหันไปมอง ก่อนจะเห็นว่านายสนรีบวิ่งมาด้วยความหอบเหนื่อย
“คุณกันต์ ๆ คุณกันต์ครับ ขะ...คุณ...คุณ..คุณท่าน มะ..มะ มา มาครับ คุณกันต์รีบไปหลบเถอะครับ” นายสนพูดติดอ่างด้วยความเป็นกังวลเพราะกลัวความผิดที่ช่วยกันตธีร์ปกปิดความลับในครั้งนี้
“งั้นคุณไปหลบที่ห้องผมก่อน เร็ว!!!..ทางนี้ครับ...ทางนี้!!!” กันต์ธีร์ดึงแขนบัวบุษยาลุกจะโต๊ะแล้วรีบตรงไปที่ห้องนอนของตัวเอง
“ว้าย!!!..” บัวบุษยารีบวิ่งตามกันตธีร์จนล้มกลิ้ง
“มาครับ ๆ” กันตธีร์หันไปอุ้มบัวบุษยาเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว
นายสนรีบเดินออกไปต้อนรับเจ้านายเพื่อถ่วงเวลาให้กันตธีร์หนีทันที พอวุฒิไกรประมุขของบ้านเดินเข้าบ้านก็เห็นนายสนวิ่งหน้าตาตื่นออกมาต้อนรับ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“สน!! ข้างนอกรถใคร”
“เอ่อ รถเพื่อนคุณกันต์ครับ” สนยิ้มกว้างให้เจ้านาย
“เพื่อนเจ้ากันต์...ใครเหรอ”
“คุณชินภัทรครับ”
“อ๋อ...แล้วแกบอกเค้าไปหรือยังว่า เจ้ากันต์มันไม่อยู่”
“ครับ ผมบอกแล้ว”
“แล้วตอนนี้ ชินภัทรอยู่ที่ไหน”
“เห็นป้าอุ่นเรือนจัดที่พักเป็นห้องของคุณกันต์ให้ครับ”
“ป้าอุ่นเรือนนี่ก็แปลก!.. แทนที่จะจัดห้องรับแขกให้” ไกรวุฒิบ่นอุบ
“แกจะไปไหนก็ไปได้ล่ะ...เดี๋ยวฉันว่าจะไปคุยกับเพื่อนเจ้ากันต์เค้าสักหน่อย...เผื่อได้เบาะแสอะไรเกี่ยวกับเจ้ากันต์บ้าง” สิ้นเสียงไกรวุฒิก็รีบเดินตรงไปยังห้องนอนลูกชาย นายสนหน้าเสียทันทีก่อนจะอุทานในใจ ซวยแล้วคุณกันต์!!!
“คุณท่านครับ ๆ ” นายสนรีบตามมาเรียกเจ้านายอีกครับ
“เอ่อ...คุณท่านครับ ผมเกรงว่าตอนนี้คงจะไม่สะดวกครับ คุณชินภัทรคงจะเพลียหลับไปแล้วครับ ผมเห็นเค้าเดินทางมาเหนื่อย ๆ” สนรีบโกหกเจ้านายทันที คุณวุฒิไกรไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ จึงกำลังจะเดินไปที่ห้องนอนของบุตรชายแต่โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“สวัสดีค่ะคุณท่าน คือว่ารถของอรสตาร์ทไม่ติด ตอนนี้อรอยู่ที่ออฟฟิศคนเดียว ไฟดับมืดมากเลยค่ะ ท่านช่วยมาหาอรก่อนได้มั้ยคะ” เสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่หน้าห้องของกันตธีร์ ทำให้เขาโล่งใจ เพราะว่าเลขาฯ คนสวยของบิดาคงได้ช่วยเขาแล้วตามที่ขอร้อง
เมื่อสักครู่นายสนรีบโทรมาบอกกันตธีร์ เพราะเกรงว่าคุณวุฒิไกรบิดาของกันตธีร์จะต้องไม่เชื่อตนเองแน่นอน กันตธีร์ก็เลยคิดแผนให้ขอให้คุณอรนุช เลขาฯ ของบิดาช่วยอีกทาง ซึ่งเขารู้ว่าบิดาของเขาชอบพอกับเลขาฯ คนนี้ แต่เธอก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจอะไรกับบิดาของเขา เพราะคุณวุฒิไกรบิดาของกันตธีร์ก็เจ้าชู้ใช่ย่อย
“คุณจะทำให้คุณพ่อเป็นห่วงแบบนี้บ่อย ๆ ไม่ได้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยเตือน
“ผมว่าคุณก็ไม่ต่างจากผมหรอก คุณก็ทำให้คุณพ่อของคุณห่วงเหมือนกัน”
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่ เพื่อนของบัวบุษยาก็โทรมาตาม พอวุฒิไกรออกไปแล้วกันตธีร์จึงเอากุญแจรถของบัวบุษยามาให้นายสนแล้วบอกให้นายสนขับรถไปให้โรสรินทร์และพิมพ์ประภาที่ผับ จากนั้นจึงให้บัวบุษยาโทรหาเพื่อนของเธออีกที แล้วให้เบอร์โทรของนายสนไป เพื่อที่สองสาวจะได้ขับรถของบัวบุษยากลับบ้าน
ระหว่างที่บัวบุษยาคุยกับเพื่อน พิมพ์ประภาที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ โรสสรินทร์ก็แอบแซว
“แหม่!..ไวไฟจริงนะ...ไอ้บัว..ตอนแรกบอกไม่เอา ๆ ระวังน้า คุณป๊าจะจับได้เอา” กันตธีร์ขอให้บัวบุษยาปิดเรื่องของเขาเอาไว้ก่อน เพื่อนทั้งสองของบัวบุษยาก็เลยกลัวว่าเธอจะมีปัญหากับบิดาเพราะแอบไปคบกับพนักงานในบริษัท
“ป๊าไม่สนใจเรื่องของฉันหรอก แล้วคืนนี้ฉันก็บอกป๊าแล้วว่าจะนอนคอนโด แกสองคนนั่นแหละปิดปากให้สนิทก็แล้วกัน แล้วที่ขอไปนอนคอนโดฉันน่ะ พวกแกสองคนห้ามพาผู้ชายขึ้นคอนโดฉันเด็ดขาด เข้าใจมั้ย เอ่อ...แล้วอีกสักพักแกโทรหาคนชื่อสนนะ เขากำลังเอารถฉันไปให้พวกแก เบอร์โทรของเค้าฉันส่งไปที่ไลน์แล้ว”
“ขอบใจจร้า ขอให้มีความสุข สำหรับค่ำคืนอันแสนหวานนะจ๊ะ” เสียงของพิมพ์ประภาพูดแซวเพื่อน
“เอ่อน่า!!!..อย่าพูดมาก แค่นี้ก่อนนะ” บัวบุษยารีบวางสายทันทีเพราะกลัวเพื่อนจะแซวไปมากกว่านี้