ตอนที่ 13
หลังจากนั้นกันตธีร์ก็โทรบอกกลุ่มเพื่อน ๆ ว่าเขาไปต่อกับบัวบุษยา ปวินก็ถึงกับออกอาการเซ็งเลยทีเดียว ก่อนจะนึกแปลกใจอยู่ว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรบัวบุษยาลูกสาวเจ้านายก็ไม่เคยพิศวาสพนักงานคนไหนเลย แล้วทำไมถึงมีใจให้กับเพื่อนของตนเองไปได้ คิดไม่ตกจึงเอ่ยถามกับเพื่อนในกลุ่มทันที
“แกคิดยังไงวะ ที่อยู่ ๆ คุณบัวก็ออกไปต่อกับไอ้กันต์”
“ไอ้นี่มันร้าย!...อีกอย่างมันก็หล่อแถมยังคารมดีอีก คุณบัวก็คงหลงมันนั่นแหละ ว่าแต่เราไปจีบเพื่อนคุณบัวที่เหลือดีมั้ยวะ”
“ฉันไม่ล่ะ ขอกลับไปนอนดีกว่า” ปวินรีบออกตัวทันที ก่อนจะบอกเพื่อนด้วยอารมณ์เซ็ง จากนั้นศุภกรและสุเจน จึงไปต่อกับโรสรินทร์และพิมพ์ประภา
ปวินเริ่มไม่พอใจกันตธีร์ที่บังอาจมาชอบพอกับบัวบุษยา ซึ่งเขาก็แอบชอบเธออยู่แล้วเหมือนกัน ในใจเขานึกอิจฉากันตธีร์ไม่หาย และไม่คิดว่าบัวบุษยาจะกลายเป็นคนรสนิยมต่ำแบบนั้นไปได้ ตั้งแต่ไหนแต่ไร บัวบุษยาก็ไม่เคยชายตามองลูกน้องคนไหนในบริษัทเลยสักคน
ภายในห้องนอนของกันตธีร์ ทั้งสองคนยังนั่งคุยกันอยู่
“ที่ล้มเมื่อกี้ คุณหายเจ็บหรือยังครับ” กันตธีร์เอ่ยถามหญิงสาว เมื่อทุกอย่างได้เคลียร์จบไปหมดแล้ว
“ดีขึ้นบ้างแล้วค่ะ” เขาจำได้ว่าเป็นคนอุ้มเธอเข้ามาในห้อง แล้วก็ลืมถามเรื่องนี้ไปเลย
“ไหนคุณลองยืนให้ผมดูหน่อยดีมั้ย” กันตธีร์ประคองร่างอรชรให้ลุกขึ้นมาอย่างช้า ๆ และในขณะที่ขาเรียวงามทั้งสองข้างแตะที่พื้นแล้วทิ้งน้ำหนักลงไป เสียงร้องเจ็บปวดก็ดังขึ้น พร้อมกับอ้อมแขนแกร่งที่รั้งร่างหญิงสาวเอาไว้
“โอ๊ะ โอ๊ย!!!”
“ข้อเท้าคุณน่าจะแพลง นั่งลงก่อนดีกว่า” เขาประคองร่างหญิงสาวลงมานั่งบนเตียงอย่างเดิม
“นอกจากข้อเท้าแล้ว...คุณยังเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“ฉันเจ็บสะโพกด้วยค่ะ”
“งั้นคุณรอผมแป๊บนะ ผมมียาทา เดี๋ยวจะไปเอามาทาให้” กันตธีร์ออกจากห้องไปและกลับมาพร้อมกับกล่องพยาบาล ภายในมียาหลายชนิดทั้งยากินและยาทา บัวบุษยาเลือกหยิบยาทาขึ้นมาหนึ่งหลอด จากนั้นกันตธีร์ก็คว้าจากมือของหญิงไป ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ผมเป็นคนทำให้คุณเจ็บ ผมขอทาให้คุณเองได้มั้ย”
“ฉันทาเองก็ได้ค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธ
“อย่าดื้อสิ คุณเอื้อมไม่ถึงหรอก”
“ฉันรู้นะว่าคุณคิดอะไร....คุณกันต์” เธอจ้องตาเขา
“เอาน่า คุณให้ผมทาเถอะ คุณจะได้หาย อย่าดื้อสิครับ” กันตธีร์ตื๊อไม่เลิก
“ม่ายเอา..” หญิงสาวส่ายหน้า
“ถ้าคุณไม่ยอมให้ผมทายา ผมจะจูบคุณเหมือนตอนที่อยู่หน้าห้องน้ำอีก” เขาขู่เธอแต่มันช่างอ่อนโยนเหลือเกิน จนเธอหวั่นไหว
“ก็ได้ อยากทาก็ทา”
“แล้วจะให้ฉันนอนคว่ำ หรือนอนหงายดี” เธอแกล้งพูดยั่วเขา
“นอนหงายดีมั้ย”
“ทะลึ่งละ แค่นี้ฉันก็รู้แล้วว่าคุณหื่น คิดอะไรกับฉันอยู่ บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” นิ้วชี้เรียวยาวยกขึ้นมาเตะเบา ๆ ที่ริมฝีปากหยัก ขณะที่ทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ
“ถึงผมจะหื่น ผมก็หื่นกับคุณคนเดียว” ดวงตาคมจ้องเธออย่างไม่ละสายตา ทั้งสองสบตากันนิ่ง จนเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมา
“นอนตะแคงสิ ผมจะทายาให้”
“ทาอย่างเดียวนะ” หญิงสาวนอนตะแคงแล้วหันสะโพกด้านที่เจ็บขึ้นมา ยามเธอขยับตัวเต้านมอวบที่อยู่ภายใต้เสื้อสายเดียวสีดำก็สั่นกระเพื่อมไหว กันตธีร์กลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ จิตใจของเขาว้าวุ่นไปหมด
“ถอดกางเกงออกสิครับ” กางเกงขาสั้นรัดรูปจนเกือบถึงโคนขา มันก็แทบจะปิดสะโพกอวบไม่มิดอยู่แล้ว กันตธีร์ถึงกับเสียงสั่น
“ถอดทำไมคะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองดวงตาคม
“คุณบอกเจ็บสะโพกไม่ถอดมันออก แล้วผมจะทายาให้คุณได้ยังไง” เจตนามันไม่ใช่แต่เขาก็ต้องพูดตามหลักการไปก่อน
“แสดงว่าคุณอยากเห็นมากกว่าการสัมผัส ฉันพูดแบบนี้..ถูกมั้ยคะ”
“ผมอาจจะทาให้คุณไม่ตรงจุดนะครับ ถ้าผมไม่เห็นรอยช้ำบนสะโพกสวย ๆ ของคุณ”
“ได้สิ!..งั้นคุณก็ช่วยปิดไฟก่อน เหลือแค่ไฟบนหัวเตียงก็พอ โอเคมั้ยคะ”
“ผมจะทาแล้วก็นวดให้คุณด้วย..รับรองว่าคุณหายเจ็บแน่นอนครับ” กันตธีร์แอบก้มมากระซิบที่ข้างใบหู จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าว
“ที่คุณพูดมันหมายถึงทายาให้อย่างเหรอคะ!!” เสียงหวานกระซิบถามเขาบ้าง กันตธีร์ไม่ตอบ แต่รอยยิ้มและแววตาของเขาช่างเจ้าเล่ห์นัก นี่เธออ่อยเขามากเกินไปหรือเปล่าน่า บัวบุษยาพลางคิดในใจ ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้....จะเรียกว่าอ่อยก็คงยังน้อยไป งั้นเรียกว่าให้ท่าเลย..จะดีกว่า
สิ้นเสียงมือหนาก็ค่อย ๆ ดึงกางเกงขาสั้นตัวสวยลงไปด้านล่าง สายตาคมจับจ้องมองเรียวขาขาวเนียน หุ่นของบัวบุษยาเป็นหญิงงามตามที่เขาใฝ่ฝัน แม้ว่าเขาจะผ่านผู้หญิงมาทั้งไทยและเทศ แต่ก็ไม่มีใครเทียบกับเธอได้เลยสักคน เธอตรงสเปคเขาทุกอย่าง