4. ค้างคืน

2036 คำ
"ดีจังวันนี้ท่านประธานไม่มีนัดตอนเย็น ลูกกวาดเลยได้กลับบ้านเร็ว" ทับทิมพูดขึ้นหลังจากที่เธอตรวจตารางงานของประธานตุลย์ภพอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ตอนนี้เป็นเวลา 15.00 นาฬิกาแล้ว เวลาล่วงเลยมาจนป่านนี้ถ้าหากว่าไม่มีเหตุเร่งรีบจริงก็จะไม่มีใครขอนัดพบ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าทั้งสองสาวจะได้กลับบ้านตามเวลาเลิกงาน "ค่ะ น่าจะไม่มีใครนัดเข้ามาแล้ว" ลูกกวาดหันกลับไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่ติดอยู่บนผนังด้านหลังก่อนจะยกยิ้มยินดี ได้เลิกงานเร็วแบบนี้คงจะต้องไปซุปเปอร์มาเก็ตในห้างสรรพสินค้าใหญ่กลางเมืองเสียหน่อย เพราะอาหารสดอาหารแห้งที่เธอซื้อไว้ครั้งก่อนเริ่มร่อยหรอแล้ว พลันในหัวนึกไปถึงรสหวานเย็นของไอศกรีมวานิลาสีขาวที่ขดตัวตัวอยู่ถ้วยใส ราดด้านบนซอสสตอเบอรี่สีชมพูเข้มช่วยเพิ่มความหอมไปอีกระดับ แค่นึกถึงก็พานให้น้ำลายสอรอแล้ว สิ่งหวานเย็นที่เธอชื่นชอบไม่ได้รับประทานนานแล้วเพราะไม่ค่อยได้ไปห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น สงสัยวันนี้ต้องทำตามใจเรียกร้องเสียหน่อย แต่แล้วความฝันของลูกกวาดก็ดับสลายลงเพราะเสียงทุ้มที่ดังมาจากเครื่องสื่อสารระหว่างในห้องและนอกห้องตรงหน้า 'คุณลูกกวาดเตรียมเอกสารสัญการร่วมทุนกับคุณเอริคด้วยนะครับ คุณเอริคอยากเซ็นสัญญาวันนี้เลย' "ได้ค่ะท่านประธาน" ลูกกวาดกดปุ่มตอบรับแล้วตอบกลับไป ละนิ้วน้อยออกจากปุ่มแล้วหันไปจับเมาส์เพื่อจะหาสัญญาร่วมทุนในโฟลเดอร์ที่เธอจัดเก็บไว้แล้ว 'คุณไปกับผมด้วยนะ เขานัดหนึ่งทุ่มที่เดิม' เสียงทุ้มดังมาออกมาจากเครื่องตรงหน้าอีกครั้ง "ค่ะท่านประธาน" ลูกกวาดรับคำคนในห้องอีกครั้งก่อนจะหันไปยิ้มแห้งให้กับรุ่นพี่ที่นั่งข้าง ๆ ดูเหมือนวันนี้เธอต้องทำงานล่วงเวลาอีกแล้ว การที่ต้องเดินทางไกลสองวันติดแบบนี้แค่คิดถึงการนั่งในรถในท่าเดียวนาน ๆ ก็รู้สึกเพลียร่างแล้ว แต่จะทำอย่างไรได้ก็นี่มันคืองานเธอนี่นา และการที่ทำงานล่วงเวลาแบบนี้ได้ผลตอบแทนดีกว่าทำงานในเวลาปกติเป็นเท่าตัวเลยล่ะ "อดกลับบ้านเร็วแล้วล่ะ" ทับทิมยิ้มอ่อนให้รุ่นน้องอย่างเห็นใจ เพราะเธอเคยประสบพบเจอเหตุการณ์ผิดหวังในลักษณะนี้มาก่อนที่จะมีรุ่นน้องมาทำแทน ตั้งใจว่าจะกลับบ้านเร็วแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อมีงานเร่งด่วนเข้ามา "ไม่เป็นไรค่ะ ออกข้างนอกเงินดีออก" ลูกกวาดเรียกกำลังใจให้ตัวเองโดยใช้เม็ดเงินเป็นตัวชูโรง ทำเหมือนกับว่าตัวเองเห็นแก่เงินเสียเต็มประดา แต่ก็นั่นแหละ เพราะเงินนี้จริงที่ทำให้เธอทนทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนี้ หนึ่งชั่วโมงต่อมาเอกสารที่ตุลย์ภพสั่งให้เตรียมก็เสร็จเรียบร้อย ลูกกวาดต้องตรวจเช็กเอกสารร่วมสิบแผ่นอย่างละเอียดรอบคอบหลายต่อหลายรอบป้องกันการผิดพลาด เพราะถ้ามีข้อมูลไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้การเซ็นสัญญาในครั้งนี้ก็ต้องล้มเลิกเพราะต้องนำเอกสารมาจัดการใหม่ และความน่าเชื่อถือของบริษัทก็จะถูกลดทอนลง เลขาสาวจึงต้องตรวจตราหลายรอบหน่อยแล้วจึงเข้าไปแจ้งแก่ประธานหนุ่มว่าทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมเดินทางแล้ว "วันนี้รถติดชะมัด" ตุลย์ภพบ่นเสียงทุ้ม ปรายสายตาไปมองตัวเลขของนาฬิกาหน้าปัดรถก็พบว่าใกล้ถึงเวลานัดแล้วแต่ระยะทางที่เขาต้องเดินทางน่าจะประมาณสองชั่วโมง คิดดูแล้วคงจะไปสายแน่ ๆ เป็นเพราะตอนนี้เกิดฝนตกหนักทำให้มีน้ำขังตามท้องถนน รถราจึงค่อย ๆ เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างกับเต่าคลาน "ไปถึงช้าแน่ ๆ เลยค่ะ" ลูกกวาดพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลก่อนจะชะเง้อมองฝ่าสายฝนไปยังด้านหน้า รถยนต์ด้านหน้ายังไม่มีท่าทีว่าจะแล่นคล่องตัวเลยสักนิด "ผมโทรบอกเอริคก่อน เผื่อว่าเขาจะไม่รอ" ตุลย์ภพเอ่ยพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วต่อสายหาว่าที่หุ้นส่วนทันที ทางปลายสายยืนยันว่าจะเซ็นสัญญาวันนี้เพราะพรุ่งนี้เอริคจะเดินทางกลับประเทศแล้ว ส่วนการที่ตุลย์ภพไปถึงช้านั้น เอริคจึงขอเปลี่ยนสถานที่พบเจอเป็นที่สถานบันเทิงชื่อดังแทน เพราะเอริคจะไปหาความสำราญดื่มกินรอตุลย์ภพไปพลาง ๆ ซึ่งนั่นทำให้ประธานหนุ่มไม่มีทางเลือกจึงต้องไปพบเอริคที่นั่นแทน เป็นไปตามคาด ตุลย์ภพและลูกกวาดมาถึงสถานที่นัดพบช้ากว่าเวลาเดิมเกือบสองชั่วโมง เมื่อไปถึง เอริคก็ได้ตรวจดูเอกสารโดยมีผู้ช่วยต่างชาติช่วยดูอีกคน เมื่อข้อมูลที่อยู่ในเอกสารเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทั้งสองก็ได้ตกลงลงลายมือชื่อกันทันที เป็นอันว่าการร่วมลงทุนของทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยไปได้ด้วยดี "ยินดีที่ได้ลงทุนร่วมกับคุณนะครับ" เอริคเอ่ยด้วยภาษาอังกฤษภาษาบ้านเกิดของเขาพร้อมกับยื่นมือมาให้เพื่อแสดงความยินดีด้วยภาษากาย "ยินดีเช่นกันครับ" ตุลย์ภพยื่นมือไปสัมผัสมือหนาของเอริคก่อนที่ทั้งคู่จะละมือออกจากกัน "ดื่มฉลองกันหน่อยครับ" เอริคยื่นแก้วเครื่องดื่มที่เพิ่งเทใหม่ให้กับประธานหนุ่ม ตุลย์ภพไม่อาจขัดความตั้งใจของเอริคได้จึงต้องรับแก้วเครื่องดื่มนั้นมาแล้วยกขึ้นกระดกไปเกือบหมดแก้ว "ธัญญ่าเติมเหล้าให้เขาหน่อย" เมื่อเห็นเครื่องดื่มของประธานหนุ่มพร่องลงไป เอริคจึงหันไปบอกสาวสวยที่นั่งข้าง ๆ ซึ่งเธอคนนั้นก็ทำตามคำสั่งของเอริคอย่างเต็มใจ หลังจากนั้น ตุลย์ภพก็ถูกเอริคคะยั้นคะยอให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ต่ออีก 4-5 แก้ว ด้วยความที่ท้องว่างเนื่องจากไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่กลางวัน ประธานหนุ่มจึงโดนฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เล่นงานอย่างรวดเร็ว แม้ว่าสติเขาจะมีครบถ้วนแต่ทว่าการทรงตัวร่างกายนั้นจะทำได้ไม่เป็นปกติ "ผมคงต้องขอตัวจริง ๆ แล้วครับคุณเอริค" "จะกลับแล้วเหรอครับ?" "ครับ ผมดื่มต่อไม่ไหวแล้วครับ" ตุลย์ภพพูดพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นยืนแสดงเจตนาว่าเขาจะกลับจริง ๆ หลังจากที่โดนอีกฝ่ายรั้งมาหลายครั้งแล้ว ร่างใหญ่โอนเอนเล็ก ๆ ในตอนที่ยืนเต็มความสูงทำให้ลูกกวาดที่ยืนรีบจับท่อนแขนแข็งอย่างถือวิสาสะเพื่อช่วยเจ้านายให้ทรงตัวยืนตัวตรง "โอเคครับ ยินดีที่ได้ลงทุนอีกครั้งนะครับ" เอริคลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมือมาให้อีกฝ่ายสัมผัสเป็นการร่ำลาซึ่งประธานหนุ่มก็ยื่นมือไปจับมือนั้นอย่างเต็มใจก่อนที่เขาจะเดินออกมาพร้อมกับเลขาสาว "ผมว่าผมคงขับรถไม่ไหว สงสัยเราคงต้องเปิดโรงแรมค้างคืนกันที่นี่แล้วล่ะ" ตุลย์ภพเอ่ยขณะที่ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลางขนวดขมับให้หายอาการมึนงง "ก็คงต้องค้างล่ะค่ะ ดูแล้วประธานคงขับรถไม่ไหวแล้ว" ลูกกวาดเออออเห็นด้วยกับคำพูดของเจ้านาย เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาค้นหาโรงแรมแล้วก็พบว่ามีโรงแรมหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไร "เรียกรถรับจ้างนะคะ ประธานเมาแบบนี้อย่าเพิ่งขับรถดีกว่านะคะ" ลูกกวาดตัดสินใจให้ผู้เป็นนาย ถึงว่าจะมีสติดีแต่การทรงตัวของเขานั้นไม่ดีเลย ถึงระยะทางจากที่นี่ไปโรงแรมจะไม่ไกลเท่าไรแต่เธอก็กลัวจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อผู้ขับขี่มีสภาพร่างกายไม่เต็มร้อย "อืม เอาสิ พรุ่งนี้ค่อยมาเอารถ" เมื่อได้ยินเช่นนั้นลูกกวาดจึงใช้บริการรถสามล้อเครื่องที่จอดรอให้บริการแถวนั้นเพื่อไปยังโรงแรมที่พูดถึง ลูกกวาดจัดการเปิดห้องพักสองห้องซึ่งอยู่ติดกัน เมื่อได้กุญแจห้องแล้วทั้งเธอและเจ้านายตัวโตจึงได้ขึ้นไปยังห้องพักและต่างคนต่างแยกย้ายเข้าห้องของตนเอง เพราะยังไม่ได้รับประทานอาหารเย็น ลูกกวาดจึงได้ลงมาด้านล่างเพื่อหาซื้อข้าวจากร้านค้าสะดวกซื้อ ขณะที่เธอกำลังจะชำระเงินนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น และพบว่าเป็นตุลย์ภพที่เป็นคนโทรหาเธอ 'คุณอยู่ไหนครับ?' น้ำเสียงของเขาที่ดังมาตามสายนั้นช่วงอู้อี้เหลือเกิน "อยู่ข้างล่างค่ะ มาซื้อข้าว" ลูกกวาดตอบกลับไป ในใจนึกเป็นห่วงคนข้างบนตะหงิด ๆ เสียงแบบนี้เขาน่าจะไม่สบายแน่ ๆ 'ผมปวดหัวจัง ซื้อยาแก้ปวดมาให้ผมด้วย' และเป็นจริงตามที่หญิงสาวคิดเมื่อประธานหนุ่มร้องหายาแก้ปวดลดไข้ "ได้ค่ะ" ลูกกวาดรับคำก่อนจะวางสายจากเจ้านาย แจ้งความต้องการให้พนักงานหยิบยาลดไข้แล้วทำการคิดเงินให้เรียบร้อย ก๊อก ๆ "ยามาแล้วค่ะ" ไม่นานลูกกวาดก็มายืนอยู่หน้าประตูห้องของตุลย์ภพ เธอเคาะประตูพร้อมกับส่งเสียงไปเพื่อให้คนด้านในรับรู้ "เข้ามาก่อนครับ" ตุลย์เดินมาเปิดประตูให้เลขาสาว แทนที่เขาจะรับถุงยาจากหญิงสาวมาเลย เขากลับเปิดประตูแล้วเดินกลับไปนั่งยังเตียงนอน ร่างใหญ่อยู่ในชุดคลุมที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ หน้าตาหล่อเหลาของเขาดูซีดเซียวน่าสงสาร ลูกกวาดจึงจำใจต้องเดินเข้าไปด้านในแล้วปิดประตูและจัดการล็อกให้เรียบร้อยป้องกันผู้อื่นบุกรุกแล้วเดินตามเขาไปที่เตียง "ทานยาก่อนนะคะ หน้าประธานดูไม่ดีเลย" มือน้อยยื่นถุงยาไปให้คนที่นั่งหน้ายุ่งอยู่และเขาก็รับยาไปโดยไม่อิดออด ลูกกวาดจึงหันไปเทน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงใส่แก้วแล้วส่งให้เขา ตุลย์ภพขว้างยาแก้ไข้สองเม็ดใส่ปากก่อนจะรับแก้วน้ำไปจากมือน้อยแล้วยกขึ้นดื่มจนหมดแล้ว สายตาคมมองไปเห็นถุงข้าวที่เลขาสาวลงไปซื้อวางอยู่ที่โต๊ะในตอนที่เขาหันเอาแก้วไปเก็บ "ได้ซื้อมาเผื่อผมด้วยไหม?" ตุลย์ภพถามขึ้น ไม่รู้ว่ากลิ่นอาหารที่โชยออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยมหรือว่ากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของร่างกายเลขาสาวกันแน่เขาจึงรู้สึกหิวโหยขึ้นมาทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีอาการ แต่เขาคิดว่าน่าจะเป็นเพราะอย่างหลังมากกว่าเพราะตอนนี้สิ่งที่อยู่กลางหว่างขาเริ่มสะดุ้งตื่นขึ้นมาแล้ว "ประธานหิวเหรอคะ ฉันไม่รู้เลยไม่ได้ซื้อมาเผื่อ เอาไปทานก่อนก็ได้ค่ะเดี๋ยวฉันลงไปซื้อใหม่" ลูกกวาดลุกรี้ลุกรน ลืมคิดถึงเขาไปเลยเพราะเห็นว่าประธานหนุ่มนั้นเมาเลยคิดว่าเขาคงจะอยากพักผ่อน ไม่คิดว่าเขาจะหิวข้าวเหมือนกับเธอ "ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมไม่อยากกินข้าวแล้วแต่อยากกินลูกกวาดแทน ได้ไหมครับ" พูดจบท่อนแขนแข็งแรงก็เกี่ยวตวัดเอาเอวคอดแล้วเหวี่ยงร่างบางไปนอนราบบนที่นอนแล้วร่างใหญ่โตของเขาตามลงไปทาบทับโดยไม่ยอมฟังคำตอบที่ถามความสมัครใจจากคนในอ้อมอกเลย ...................................... นี่มันชาวนากับงูเห่าชัด ๆ น้องอุตส่าห์มาช่วยนะท่าน ท่านจะมาแว้งกินน้องแบบนี้ไม่ได้น้าาาา55555
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม