บทนำ EP.2

990 คำ
เด็กหญิงวัยห้าขวบกับเด็กชายวัยสิบสองคงจะทุ่มเถียงกันไปอีกนาน ถ้าไม่มีกรรมการเดินออกมาห้ามทัพเสียก่อน ด้วยเสียงของทั้งคู่นั้นดังก้องจนได้ยินไปทั่วบริเวณบ้าน “อ้าว...เถียงอะไรกันอีกหรือจ๊ะคู่นี้ เถียงกันได้ทุกวันจริงๆ ไม่เบื่อบ้างหรือไงนะ” มนัสนันท์มารดาของเด็กชายอาคิระพูดพลางเดินส่ายหน้าเข้ามาห้าม หลังจากยืนฟังทั้งคู่เถียงกันมาได้พักใหญ่ ก่อนจะอ้าแขนรับร่างของเด็กหญิงตัวกลมที่โผเข้าหา ดวงหน้าเล็กๆ ยังมีคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนอยู่ ตามมาด้วยการจีบปากฟ้อง “คุณป้าขา พี่นายไม่ยอมให้น้องเนยตามไปเที่ยวด้วย เท่านั้นไม่พอ ยังมาเรียกน้องเนยว่าช้างน้อยอีก นิสัยไม่ดีเอามากๆ เลยค่ะ อย่างนี้ต้องตีสั่งสอนเสียบ้างจะได้หลาบจำ” คนรับคำฟ้องฟังคำพูดแก่แดดแก่ลมของเด็กหญิงแล้วต้องอมยิ้มในหน้า มองคนฟ้องอย่างเอื้อเอ็นดูแล้วก้มลงถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “น้องเนยจะตามพี่นายไปทำไมล่ะลูก เล่นอยู่ที่บ้านไม่ดีกว่าหรือ แดดก็ไม่ร้อนด้วย” พูดพลางก็เอื้อมมือหยิบเศษใบไม้ใบหญ้าออกจากเส้นผมยาวยุ่งๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าในมือเช็ดคราบน้ำตาที่แก้มมอมแมมของเด็กหญิงอย่างรักใคร่ “น้องเนยอยากซ้อนจักรยานนี่ค้าคุณป้า” เด็กหญิงบอกเสียงแจ๋วอย่างประจบ ดวงหน้ากลมอิ่มยิ้มทั้งน้ำตาหวังขอความช่วยเหลือ “ยายเด็กขี้ฟ้อง ตัวก็อ้วน แถมยังไม่สวยอีกต่างหาก” เด็กชายอาคิระแกล้งว่าเสียงดัง จนถูกมารดาหันมาฟาดให้ที่แขนดังเผียะ “เดี๋ยวเถอะพี่นาย ว่าน้องอย่างนี้ได้ยังไง” “เดี๋ยวเถอะพี่นาย ว่าน้องอย่างนี้ได้ยังไง” คนถูกว่าไม่สวยเบะปากร้องไห้ออกมาทันที ถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กขี้ฟ้องไม่อยากเถียงเพราะตัวเองชอบฟ้องจริงๆ ว่าอ้วนก็ไม่เจ็บเท่าไหร่ ทว่าถูกว่าไม่สวยนี่สิเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้จริงๆ เด็กหญิงยกนิ้วป้อมๆ ชี้หน้าคนพูดพร้อมเอ่ยน้ำเสียงเจือสะอื้น “ตัวก็ไม่เห็นหล่อตรงไหนเลย ตัวสูงเหมือนเปรตวัดสุทัศน์ หน้ายาวเหมือนยีราฟที่เขาดิน แถมปากยังเสียเหมือนไอ้ด่างอีกต่างหาก” ว่าจบก็สะบัดหน้าที่ยังเต็มไปด้วยน้ำตาพรืด แล้วพาร่างกลมๆ ตรงไปยังรั้วไม้ระแนง เปิดประตูได้ก็วิ่งร้องไห้กลับไปยังบ้านของตัวเองทันที “พี่นาย ทำไมชอบว่าน้องแบบนั้นนักล่ะ หือ” มนัสนันท์ต่อว่าบุตรชายคนเดียวพลางส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ แต่ก็อดขบขันคำพูดของเด็กหญิงตัวเล็กเมื่อครู่ไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปจดจำคำพูดพวกนี้มาจากไหนกัน “คุณแม่ก็ได้ยินยายช้างน้อยว่านายนี่ครับ เด็กอะไรไม่รู้ปากคอจัดจ้านขึ้นทุกวัน” หนุ่มน้อยร่างโย่งหน้าตาหล่อเหลาบอกผู้เป็นแม่ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง คนเป็นแม่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา “พี่นายโตแล้วนะลูก ส่วนน้องยังเด็กอยู่เลย ทะเลาะกับน้องจนเหมือนอายุจะเท่ากันแล้วรู้ตัวบ้างหรือเปล่า” คนถูกว่ายิ้มเจื่อนๆ อย่างยอมรับ เพราะเป็นความจริงอย่างที่ผู้เป็นแม่พูดทุกประการ ตัวเขาเถียงกับยายตัวร้ายแทบทุกวัน แต่ก็แปลกนัก ถ้าหากวันไหนไม่มีเจ้าตัวอยู่ข้างกายจะรู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน “คุณแม่ชอบให้ท้าย ยายช้างน้อยถึงได้ปากคอเราะรายขึ้นทุกวัน” “นี่ก็อีก ทำไมถึงชอบเรียกน้องว่าช้างน้อยนักนะ น้องออกจะน่ารักน่าเอ็นดู” “คุณแม่เอ็นดูไปคนเดียวเถอะครับ นายไม่เอาด้วยหรอก เด็กอะไรทั้งซนทั้งดื้อ มิหนำซ้ำยังด่าเก่งอีกต่างหาก” ปากของเด็กชายก็พูดออกไปอย่างนั้นตามอารมณ์ แต่ครั้นทะเลาะกันจริงๆ ตัวเองมักเป็นฝ่ายง้องอนเด็กหญิงทุกครั้งไป มนัสนันท์จับบ่าทั้งสองข้างของบุตรชายให้หันมาหาตนเอง แล้วก้มลงบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยน “พี่นายอย่าลืมสิว่าน้องเพิ่งอายุห้าขวบเท่านั้นเอง เรื่องซนหรือดื้อเป็นเรื่องปกติของเด็กฉลาด พี่นายต้องรักน้องให้มากๆ จำไม่ได้หรือว่าตอนที่แม่ประสบอุบัติเหตุ ถ้าไม่ได้น้ารสคอยเฝ้าดูแลก็คงแย่เหมือนกันนะลูก” เมื่อพูดเรื่องนี้ขึ้นมา มนัสนันท์ก็อดนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนไม่ได้ ครั้งนั้นเธอและนนทวัชผู้เป็นสามีขับรถกลับมาจากทำธุระ มีพงศกรซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของสามีและเป็นบิดาของเด็กหญิงตะวันวาดนั่งมาด้วยข้างๆ ส่วนเธอนั่งอยู่เบาะด้านหลัง และเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อรถที่แล่นมาดีๆ ในเลนของตัวเองถูกรถคันอื่นวิ่งแซงขึ้นมาด้วยความเร็วสูง และพุ่งเข้าชนจนรถที่นั่งพลิกคว่ำอยู่หลายตลบ เป็นเหตุให้คุณพงศกรเสียชีวิตคาที่ ส่วนตัวเธอขาและแขนหัก ขณะที่คนขับแทบไม่เป็นอะไรเลย มธุรสผู้สูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันกลับร้องไห้จนสลบด้วยความเศร้าโศกเสียใจ แต่หลังฟื้นขึ้นมากลับไม่มีแม้แต่คำต่อว่าต่อขานหรือกล่าวโทษใคร พร่ำพูดแต่ว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ และสามีคงทำบุญมาน้อย ที่สำคัญยังช่วยดูแลเธอที่ตอนนั้นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ตลอดระยะเวลาสามเดือนที่พักรักษาตัวอยู่กับบ้านอีกด้วย ความดีรวมทั้งความมีน้ำใจของเพื่อนทำให้มนัสนันท์และสามีซาบซึ้งใจยิ่งนัก จากที่สนิทสนมรักใคร่กันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ได้ตั้งปณิธานเอาไว้ว่า ตัวเองและสามีจะไม่มีวันทอดทิ้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม