เช้าของวันใหม่การเดินทางก็มาถึง มันช่างเป็นการฮันนีมูนที่แย่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งสองต่างก็โดนบังคับให้มา พอลงเครื่องก็มีคนเอารถมารับแล้วตรงไปที่บ้านพักทันที
"ฉันเก็บเสื้อผ้าของคุณไว้ในตู้ ส่วนข้าวของเครื่องใช้ก็อยู่ที่โต๊ะแป้ง แปรงสีฟันยาสีฟันอยู่ในห้องน้ำทุกอย่างฉันเตรียมให้คุณหมดแล้วขอตัวนะ”
แป๊ะ! แป๊ะ! แป๊ะ! เสียงตบมือของเตชินดังขึ้น
"ช่างเป็นภรรยาที่แสนดีเหลือเกิน" เตชินพูดพร้อมทั้งหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด ก่อนจะพ่นควันใส่หน้าหมอพุฒตาลเต็มๆ
แค่ก! แค่ก! แค่ก! จนเธอไอออกมาเพราะสำลักควันบุหรี่ของเขา
"ถ้าอยากตายก็ไปสูบไกลๆ คนเดียวอย่าทำให้คนอื่นและสังคมเดือดร้อน!” หมอพุฒตาลพูดออกมาอย่างขุ่นเคืองใจ เมื่อเขาพ่นควันออกมาใส่หน้าเธอแบบนั้น
"คนอื่นที่ไหนคุณก็เป็นเมียผม เราแบ่งๆ กันห้าสิบห้าสิบ ผมเป็นคนสูบคุณเป็นคนสูดมันก็ถูกต้องแล้ว”คำพูดของเขาช่างเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ พอๆ กับการเอาแต่ใจเหมือนอย่างที่แม่เขาเคยว่าไว้ไม่มีผิด
"บุหรี่มันไม่ดีต่อสุขภาพฉันขอเถอะ ถ้าคุณยังห่วงแม่ห่วงพี่ชายของคุณก็เลิกซะ เพื่อคนที่คุณรักและเขาก็รักคุณ”
"คำพูดคำจาสมกับเป็นหมอจริ๊งจริง! เอาคำพูดเหล่านี้ไปไว้ใช้กับคนไข้ของคุณเถอะนะ อย่ามาใช้กับผมเพราะว่าผมไม่ได้ป่วย!”
"ไม่แน่ถ้าคุณป่วย ฉันอาจจะเป็นคนรักษาเอง และจะเป็นคนฉีดยาฟอร์มาลีนให้คุณเองกับมือ รับรองตายอย่างสงบศพสีชมพู” พูดจบหมอพุฒตาลก็เดินออกมาจากห้อง ตรงไปที่ชายหาด เพื่อรับกับบรรยากาศที่แสนจะเย็นสบาย เพราะอยากผ่อนคลายความตึงเครียดในยามนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าเตชินกำลังมีแผนร้ายกับเธอ เขากำลังจะทำให้เธอตายลงอย่างช้าๆ และตายทั้งเป็น เขาจะทำทุกอย่างทุกวิถีทางเพื่อให้เธอขอหย่า
เมื่อหมอพุฒตาลเดินออกมาได้สักพัก เธอก็เดินไปนั่งร้านชิลสั่งอาหารมาทาน และชมวิวทะเลไปด้วย หลังจากที่เหนื่อยกับเตชินมาทั้งวัน ตั้งแต่อยู่ที่บ้านจนกระทั่งตอนนี้
"อ้าว! หมอตาลผมไม่คิดว่าจะเจอคุณหมอที่นี่”
"อ้าว! หมอต้นมาได้ไงค่ะเนี่ย มาทานข้าวด้วยกันค่ะ ขอจานเพิ่มอีกที่นะคะ" หมอพุฒตาลหันไปสั่งเจ้าของร้าน จากนั้นหมอต้นก็เลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้างๆ หมอสาว
"พอดีผมมาประชุมแถวนี้ครับ หมอตาลล่ะอย่าบอกนะว่ามาฮันนีมูน” หมอต้นพูดพร้อมกับยิ้มกว้างให้กับหมอสาว ทั้งที่ตอนนี้หัวใจของเขามันกำลังร้องไห้ ที่ต้องเสียเธอไปให้กับชายอื่น
"ก็ไม่เชิงค่ะ ทานข้าวดีกว่าหมอต้นกลับวันไหนคะเนี่ย”
"พรุ่งนี้ครับ..ว่าแต่สามีหมอตาลล่ะครับ”
"อ๋อ.เขาพักอยู่ที่ห้องค่ะ พอดีตาลหิวเลยเดินลงมาหาอะไรรองท้องก่อน"
"นี่เลยครับคุณหมอกุ้งตัวโตๆ หมึกตัวโตๆ กับแคลอรีเกินจะบรรยาย"
“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! หมอต้นก็นานๆ กินทีนี่ค่ะ" หมอสาวพูดออกมา ขณะที่หมอหนุ่มทำหน้าที่สุภาพบุรุษ แกะกุ้งใส่จานให้หมอสาวทานอย่างเอร็ดอร่อยๆ
หมอทั้งสองทานอาหารไปคุยกันไป โดยมีสายตาคมจ้อง มองมาที่คนทั้งสองอย่างเอาเรื่อง เขาไม่ได้หวงหรือหึงเธอแม้แต่น้อย เพียงแค่ไม่ชอบใจ เมื่อเห็นเธอนั่งกับชายอื่นท่ามกลางเสียงหัวเราะแบบนั้น และที่สำคัญหน้าตาของหมอต้นนั้น ก็หล่อเหลาขาวตี๋ยังกับพระเอกหนังเกาหลี เขากำลังคิดว่า หมอพุฒตาลต้องมีใจ ให้กับชายหนุ่มตรงหน้านี้แน่นอน
เตชินแอบดูคนทั้งคู่อยู่นาน จนรู้สึกหมั่นไส้ ที่เห็นทั้งสองคุยกันกะหนุงกะหนิงอย่างกับคู่รักก็ไม่ปาน เวลาที่หมอพุฒตาลพูดกับเขา ไม่เห็นเธอมีท่าทีอะไรแบบนี้ นอกจากพูดไม่กี่คำหน้าตาของเหมอสาวยังเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาเหมือนคุยกับหนุ่มหล่อในยามนี้
"อ้าว! เมียจ๋ามาอยู่นี่เองผมเดินตามหาคุณตั้งนาน จนปวดน่องไปหมดแล้วเนี่ย คุณต้องรับผิดชอบด้วยการนวดให้ผมทั้งคืนด้วยนะ" เตชินพูดพร้อมทั้งเลื่อนเก้าอี้มานั่งอีกข้างๆ ภรรยา ก่อนจะโอบไหล่หมอสาวเอาไว้แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอย่างออกนอกหน้า
"หมอต้นนี่คุณเตชินสามีของตาลค่ะ คุณเตชินนี่หมอต้นเป็นเพื่อนที่ทำงานของฉันค่ะ
"ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเตชิน" หมอต้นพูดพร้อมกับยื่นมือไปจับเชคแฮนด์กับเตชิน ส่วนเตชินเองก็ยื่นมาจับอย่างว่าง่าย
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับคุณหมอ" คำพูดที่ดูเรียบๆ ของเตชินแต่แฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์นั้น ทำให้หมอต้นดูออกว่าเขาเป็นคนประเภทไหน
"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับหมอตาลคุณเตชินพอดีมีประชุมต่อ"
"แล้วเจอกันค่ะหมอต้น" ทั้งสองต่างส่งยิ้มให้กัน ก่อนที่หมอต้นจะเดินออกไป ทำให้เตชินมองหมอพุฒตาลอย่างสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ที่ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งคิดมากเกินกว่าเพื่อน หรือไม่ก็คิดทั้งสองคน
"มื้อนี้คงเป็นมื้อที่กินข้าวอร่อยมากสินะ!” หมอพุฒตาลไม่พูดโต้ตอบใดๆ ออกไปทั้งสิ้น เธอยังคงตักข้าวกินต่อ แต่ทว่าชีวิตที่ยุ่งเหยิงกำลังจะเกิดขึ้น ความสงบสุขที่เธอเคยมีกำลังจะหมดสิ้น ตั้งแต่เธอตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายอย่างเตชิน
“หึหึ!..เสียดายหรอคงอยากอยู่กับมันจนตัวสั่นสินะ ผมทำได้ไม่ถึงใจคุณหรือไง!”
"หยาบคายไม่มีใครสอนคุณหรือไง ว่าไม่ควรพูดจาเหน็บแนมผู้หญิงแบบนี้!" หมอพุฒตาลพูดพร้อมกับวางแบงก์พันไว้ที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะลุกขึ้นยืน เตรียมตัวเดินออกไปให้พ้นจากชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี
หมับ!! มือหนาจับมาที่ข้อมือเล็กเรียวของหมอสาวอย่างแรง
ก่อนจะกระชากให้เธอเดินตามร่างบึกบึนจนหมอสาวเซถลาเกือบล้มไปกองกับพื้น การกระทำของเขามันกำลังบ่งบอกถึงนิสัย และสันดานเอาแต่ใจคิดแต่ได้ ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของคนอื่น ความเห็นอกเห็นใจที่ไม่เคยมีให้กับใครมาก่อน เพราะเขาถูกเลี้ยงดูตามใจเสียจนเคยตัว จนเวลาล่วงเลยก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เขาก็ยังเสเพลไม่เลิก และยังคงเสพความสนุกอยู่ร่ำไป
ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างจ้องมองมาที่ทั้งสองอย่างสนใจ ในสิ่งที่เตชินทำ เพราะมันเหมือนกับว่าเขากำลังใช้กำลังบังคับหมอสาว แต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆ ปริออกมาจากปากของเธอ มีเพียงร่างกายเท่านั้น ที่พยายามขัดขืนให้พ้นจากอุ้งมือหนา ที่กำลังบีบรัดข้อมือของเธอแรงขึ้นเรื่อยๆ
"นี่คุณ! ผู้หญิงเขาไม่อยากไปด้วยก็อย่าใช้กำลังสิ!” ผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เมื่อภาพที่เตชินพยายามฉุดกระชากลากถูหมอพุฒตาลนั้น มันฟ้องว่าเขากำลังบีบบังคับหญิงตรงหน้า ให้ไปกับเขาโดยที่เธอไม่สมยอม
"อย่าเสือกเรื่องของผัวเมีย!” คำพูดที่แข็งกร้าวของเตชิน ทำให้ผู้ชายคนนั้นยอมถอยออกมา ก่อนจะเอ่ยปากถามหมอสาวออกไปเพื่อความแน่ใจ
"เขาใช่สามีคุณหรือเปล่าครับ”
"ค่ะเขาเป็นสามีฉัน!" พอหมอพุฒตาลพูดจบ เตชินได้กระชากแขนของเธออย่างแรง จนร่างเพรียวได้ปลิวกระเด็นไปตามแรงกระชาก
ในเวลานี้เธอไม่ขัดขืนเขาแล้ว เพราะยิ่งขัดขืนเธอก็ยิ่งเจ็บตัว เขาจะพาไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกที่ไหน ชีวิตของเธอก็พร้อมจะยกให้เขาเป็นผู้กระทำอย่างที่ใจต้องการ ขอเพียงแค่มีลมหายใจกลับไปทำตามเจตนารมณ์ที่เคยมีก็เพียงพอ การเป็นหมอได้ช่วยเหลือชีวิตคน นั่นคือสิ่งเดียวที่หมอพุฒตาลต้องการในเวลานี้