หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างคอยแอบมองกันอยู่นาน ตัวเพียงรักเองก็เริ่มรู้สึกตัวว่าเขามองเธอแน่นอน เพียงแต่เธอไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเรื่องระหว่างเธอกับเขามันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว และมันไม่เคยมีอะไรเกินเลย แล้วอีกอย่างเขาก็มีลูกกับญาติของเธอ ซึ่งเธอเองก็ยังพูดคุยยังเล่นกับลูกของเขาได้อย่างสนิทใจ จนวันที่หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มเปลี่ยนไปก็เดินทางมาถึง
หญิงสาวมักจะใช้เวลาว่างจากการแต่งนิยายของเธอออกไปนั่งเล่นอยู่ที่ร้านป้าของเธอ อาจจะเพราะเธอได้มีเพื่อนคุยเพื่อนเล่นด้วย แรกๆเพียงรักก็เงียบ ไม่ได้คุยกับกิตติธร ยามที่เขาเข้ามาคุยเล่นกับป้าของเธอ แต่หลังๆเธอคิดว่าคงไม่มีอะไร ระหว่างเธอและเขาจึงเริ่มคุยกัน แต่เป็นการคุยกันแบบเพื่อน พี่น้อง เพราะตัวเธอไม่มีความคิดที่เกินเลยกว่านั้น
จนกระทั่งวันหนึ่ง หลังจากร้านปิด เพียงรักนั่งคุยเล่นอยู่กับป้าที่ร้าน รอเวลาเข้าบ้าน ป้าก็เล่าบางอย่างให้เธอฟัง สิ่งที่ทำให้ตัวเธอรู้สึกสะอึกในใจ
“เออ ผึ้งมันเคยเล่าให้ชั้นฟังว่าป่านมันทักไปคุย ชวนออกไปข้างนอกด้วย”
“หืม นี่ยังไม่หยุดอีกเหรอ ลูกโตแล้วนะ”
“ไม่รู้ แต่ชั้นก็คอยถามๆ อยู่”
“เดี๋ยวเขาก็เล่า เชื่อเถอะ”
“ไม่แน่หรอก ถ้ามันออกไปกับป่านจริงๆ ชั้นว่ามันไม่น่ามาเล่านะ”
“หนูว่าเล่า เออ ว่าไป คุณเขาก็เคยให้เบอร์หนูด้วยนะ คุยกันอยู่สักพัก ตั้งแต่สมัยสิบกว่าปีที่แล้วนู่นแน่ะ”
หญิงสาวพูดคุยกับป้าโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะเห็นว่ามันผ่านมานานมากแล้ว จึงเห็นเป็นเรื่องในอดีตที่เอามาเล่าสู่กันฟังเสียมากกว่า
แต่อีกวัน ที่ผึ้งมาทำงาน หล่อนทำงานตามปกติ เช่นเดียวกับเพียงรักที่ออกมาทานข้าว ก่อนจะนั่งเล่นพูดคุยกันเหมือนเช่นทุกวัน
“เออ พี่ผึ้ง พี่ป่านเขาทักไปคุยกับพี่เหรอ”
“อือ ทักมาคุยเฉยๆ พี่ไม่ได้อะไรหรอก”
“เต๊าะไปเรื่อยจริงๆพ่อคนนี้ เคยเต๊าะหนูเหมือนกัน เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว พี่แกให้เบอร์หนูมาเองเลย”
และหลังจากคุยเรื่องนี้กัน เพียงรักรู้สึกเหมือนกับว่าผึ้งตึงใส่เธอ เธอแอบแปลกใจแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะเธอคิดว่าไม่ว่าจะยังไงป่านก็เป็นสามีของญาติเธอ ผึ้งคงไม่น่าจะตึงใส่เธอ
จนผ่านไปหลายวัน ผึ้งก็ยังไม่คุยเล่นกับเธอเหมือนเดิม ถามคำตอบคำ มีอาการตึงๆ ใส่ เพียงรักทนความอึดอัดไม่ไหว จึงคุยกับป้าของเธอในวันหนึ่ง หลังจากที่ผึ้งกลับบ้านไปแล้ว
“หนูว่าเหมือนพี่ผึ้งเขาหึงหนูเลยอะ ตั้งแต่เล่าให้ฟังว่าพี่ป่านเคยให้เบอร์หนู เขาดูตึงๆ นะ”
“ไม่มั้ง แกคิดมากไปหรือเปล่า”
“แต่สังเกตมาหลายวันแล้วนะ เขาตึงอะ ไม่คุยไม่เล่นเหมือนเดิม ปกติต้องส่งไลน์มาคุยเล่น แต่นี่เขาเงียบไปเลยอะ”
“แกก็คอยสังเกตอาการดูละกัน ชั้นจะคอยถาม”
หลังจากป้ากับเพียงรักตกลงกันว่าจะคอยสังเกตอาการของผึ้ง ก็พากันแอบสบตากันบ่อยครั้งเวลาที่ชายหนุ่มเข้ามาคุยเล่นในร้าน เพราะผึ้งมีอาการเหมือนพยายามชวนชายหนุ่มคุย และเดินเอาร่างกายเฉียดเขาไปมาราวกับตั้งใจประกาศว่าชายหนุ่มกำลังจีบเธออยู่
ทุกครั้งที่ชายหนุ่มเข้ามาสั่งข้าวป้าในร้าน เขาก็มักจะมาคุยเล่นอยู่เสมอ แต่สิ่งที่เพียงรักสังเกตคือ เขากำลังเริ่มถึงเนื้อถึงตัวผึ้ง เริ่มแตะไหล่ เริ่มจับตัวผึ้งบ่อยครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยทำเลยคือแตะเอวหรือท่าทางที่ดูแล้วรู้สึกว่ามีความรู้สึกมากกว่านั้น
กิตติธรเป็นคนที่ค่อนข้างจะรักความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบเข้าหาใครก่อน นอกจากเขาสนใจใครหรือคนอื่นเข้าหาเขาถึงจะคุย แต่ในกรณีของเพียงรักไม่เหมือนกับของคนอื่น ด้วยความที่รู้จักกันมาก่อน และเคยมีความสัมพันธ์กันที่มากกว่าคำว่าพี่น้อง จึงทำให้ทั้งคู่สามารถพูดคุยกันได้โดยไม่ต้องทำความรู้จักกันใหม่ เพียงแต่มันมีเรื่องที่ติดค้างในใจทั้งคู่อยู่ จึงต่างคนต่างเลือกที่จะเงียบ จนวันที่เพียงรักเปิดโอกาสด้วยการเริ่มพูดคุยก่อน เขาจึงเริ่มกลับมาพูดคุยกับหญิงสาวอีกครั้ง
เพียงรักและกิตติธรสนิทกันมากขึ้น จนสามารถพูดคุยเล่นกันได้ เวลาเพียงรักออกไปเที่ยวไปหาอะไรทานกับผึ้ง เธอจึงชวนกิตติธรอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ไปก็ตาม
บางครั้งเธอนั่งกินเหล้ากับผึ้งอยู่ที่ร้านป้าของเธอ เธอก็ชวนเขา เขาไม่เคยออกมานั่งอยู่ด้วย นอกจากญาติของเธอจะออกมาด้วย ซึ่งหญิงสาวก็เข้าใจดี อีกอย่างเขาเป็นคนไม่ดื่ม เธอจึงไม่เคยไปเซ้าซี้อะไรเขา
หลายครั้งที่กิตติธรและเพียงรักต่างคนต่างแอบมองกัน เพียงแต่กิตติธรไม่เคยรู้ว่าเพียงรักก็แอบมองเขาเช่นกัน และการที่เธอแอบมองเขา ก็ทำให้เธอรู้ว่าเขาคอยมองเธออยู่
บางครั้งที่เพียงรักเผลอ กิตติธรจะแอบมองหญิงสาว แต่ไม่มีใครทันสังเกตแววตาที่เขามองเธอ มันไม่เหมือนที่มองคนอื่น แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เคยรู้ตัวด้วยซ้ำ
ทั้งคู่พูดคุยกันมากขึ้น เล่นกันมากขึ้น แต่เขาไม่เคยรุ่มร่ามหรือถึงเนื้อถึงตัวหญิงสาวเลย หรือแม้แต่การที่เขาแตะตัวของผึ้ง เพียงรักก็มองออกว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกพิศวาสแต่อย่างใด
ในแต่ละวัน ชีวิตของเพียงรักดำเนินไปตามปกติ จนกระทั่งวันหนึ่ง ที่เธอเดินออกไปกรอกน้ำ แล้วกำลังจะเดินกลับเข้าบ้านและได้เจอกับกิตติธรระหว่างทางพอดี
“ไปเที่ยวเปล่า”
“หือ ไปไหน”
“ไปปะล่ะ” ชายหนุ่มไม่พูดอย่างเดียว เขาเอามือลูบหลังหญิงสาวผ่านบริเวณเสื้อในไปจนถึงเอว
เพียงรักไม่ได้เอะใจว่าปกติเขาไม่เคยทำแบบนี้ จึงคิดว่าเขาพูดเล่น เลยทำหน้าตาทะเล้นใส่พลางยิ้มขำๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไป โดยไม่ได้รับรู้เลยว่า หลังจากวันนี้ไป ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง
หลังจากเพียงรักเข้าบ้าน เธอไม่ได้สนใจโทรศัพท์เลย เพราะเธอจะปิดเสียงเอาไว้ตลอด จนมาหยิบโทรศัพท์ดู และได้เห็นว่ามีสายที่ไม่ได้รับสายของ “กิตติธร”
“มีอะไร” เพียงรักโทรกลับไปถามชายหนุ่ม เผื่อว่าเขามีธุระอะไร
“ไม่มีอะไรละ”
“อ้าว…..” หญิงสาวงงเล็กน้อย
“อือ ไม่มีอะไร”
“อือๆ” เพียงรักกดวางสายด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ ก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ และเตรียมตัวจะอาบน้ำ หลังจากเดินขึ้นบ้านไปหยิบผ้าเช็ดตัวเธอก็เดินเข้าห้องน้ำไป เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาเดินเข้ามาน้านของเธอ เพียงรักสะดุ้งเล็กน้อยและเปิดประตูห้องน้ำออกมาโดยที่ในมือยังถือผ้าเช็ดตัวอยู่
“อะไร!!”
“เปล่า จะมาบอกว่าไม่มีอะไร โทรมาเฉยๆ”
“อือ”
“ทำอะไร”
“กำลังจะอาบน้ำ”
“อือ ไปละ”
“อือ”
ดวงตาหญิงสาวหรี่ลง มองตามร่างสูงที่เดินออกไปจากบ้านเธอด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาต้องเข้ามาบอกเธอ ในเมื่อก็บอกเธอแล้วในโทรศัพท์ ร่างเล็กหายเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง หลังจากส่ายหน้าเบาๆด้วยความไม่เข้าใจ
ผ่านไปเกือบชั่วโมง หญิงสาวมากดดูไลน์ของเธอ เผื่อมีใครทักมา ก็พบว่ามีไลน์ของกิตติธรส่งข้อความมาหาเธอ และกดยกเลิก หญิงสาวยิ่งไม่เข้าใจ คิดว่าเขาต้องมีอะไรแน่ๆ จึงไลน์หาเขา
‘?’
‘จะถามว่า’
‘ว่า’
‘ว่าอะไรไม่รู้ ลืมละ’
‘แก่แล้วก็อย่างนี้แหละ…..’
‘เดี๋ยวนึกได้ก่อน’
‘…..’
เพียงรักวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ตัว ก่อนจะหันไปทำงานของเธอต่อ จนมีการแจ้งเตือนดังขึ้นในโน๊ตบุ๊ค เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
‘รู้ละ’
‘?’
‘นอนตอนไหน’
‘ดึกแหละมั้ง พิมพ์นิยายก่อน ทำไมอะ’
‘ถามเฉยๆ’
‘-__-’
‘55555’
‘จะหนีเที่ยวเหรอ 555’
‘ไปไหมล่ะ คนอื่นนอนกันหรือยัง’
‘นอนกันแล้วมั้ง’
‘เดี๋ยวดึกทักหา’
‘อ่าๆ เจ้ไม่อยู่เหรอ’
‘อยู่ เดี๋ยวก็นอนมั้ง เดี๋ยวทักไปนะ’
‘อ่าๆ’
หญิงสาวทำหน้าไม่เข้าใจ ว่าเขากำลังทำอะไร แต่คงจะมาชวนเธอคุยเล่นตามประสาญาติ เธอจึงไม่คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าเขาคงแซวเล่น ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วมานั่งทำงานของเธอต่อ ราวๆชั่วโมง ชายหนุ่มก็ทักมาหาเธออีกครั้ง
‘ทำไร’
‘ทำงาน เล่นเกม’
‘อยู่กับใคร’
‘อยู่กับน้าสิ’
‘อ้าว เหรอ คิดว่าอยู่คนเดียว’
‘ทำไม จะมาหาหรือไง’ หญิงสาวแซวเขาเล่นอย่างคนไม่ได้คิดอะไร
‘ไปได้เปล่า’ เจ้าของมือเล็กที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่ชะงักไป เมื่อได้อ่านสิ่งที่เขาตอบมา
‘หืม หมาเห่าอะดิ’ เพียงรักตอบทีเล่นทีจริง เพราะคิดว่าเขาแค่แซวเล่นเหมือนกับปกติ หรือเหมือนที่คุยกับผึ้ง เธอจึงไม่ได้คิดมากอะไร
‘หมาอยู่ข้างนอกเหรอ’
‘อยู่ในห้องข้างล่างอะแหละ แต่มีใครมามันก็เห่าแล้ว’
‘อ่อ’
‘แล้วจะออกมาได้ไง เจ้ไม่บ่นเหรอ’
‘บ่นยังไง’
‘ไม่รู้ ก็เห็นปกติไปไหนไปด้วยกันตลอด’
‘แล้วรักออกมาได้ปะ’
‘ออกไปไหน’
‘ข้างบ้าน แป๊บเดียว’
‘ข้างบ้าน?’
…..ยกเลิกข้อความ…..
‘สายที่ไม่ได้รับ’
เพียงรักเห็นเขาเงียบไป เธอจึงเก็บของและล้มตัวนอน โดยไม่ได้คิดว่าเขาจะโทรมาหาเธอ แต่หญิงสาวเป็นคนที่ปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ตลอด เธอจึงไม่ได้รับการแจ้งเตือน
วันต่อมาหญิงสาวใช้ชีวิตตามปกติ เธอตื่นอาบน้ำแต่งตัวและออกไปกินข้าวที่ร้านป้าแต่เช้า พอสายๆผึ้งก็มาทำงาน ตอนนี้ผึ้งกลับมาพูดคุยกับเธอตามปกติแล้ว หลังจากที่มีอาการตึงเธออยู่เป็นอาทิตย์
“ป้า ปิดก๊อกน้ำที่บ้านตรงไหน ผมจะทำก๊อกน้ำ” ชายหนุ่มตัวสูงเดินเข้ามาในร้าน โดยที่เดินตรงเข้าไปในครัวและไปพูดกับป้าของเพียงรัก โดยที่หญิงสาวไม่ได้สนใจเขา เพราะกำลังนั่งจัดการกับมื้อเช้าอยู่
“ทำอะไร แกก็เข้าไปดูสิ”
“รักพาไปดูหน่อย” เขาพยักหน้ารับ แล้วเดินออกจากประตูร้านไป โดยไม่ลืมเรียกเพียงรักให้ตามไป ส่วนตัวเขาเดินนำเข้าไปในบ้านก่อนแล้ว
“ห๊ะ” หญิงสาวเหวอ มองหน้าป้า สบตาแบบไม่เข้าใจ เพราะอันที่จริงที่เขาโทรหาเธอ หญิงสาวได้บอกป้าเอาไว้แล้ว เพราะถ้าเผื่อมีปัญหาอะไร จะได้มีคนช่วยยืนยันว่าเธอไม่ได้ไปยุ่งกับเขาก่อน
“ไอ้รัก แกไปกับมันหน่อยไป”
เพียงรักทำหน้าตาเหลอหลา เธอพึมพำกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจ เพราะอันที่จริงเธอก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เขาน่าจะรู้มากกว่าเธอด้วยซ้ำ เธอเดินตามหลังเขาที่เดินเข้าบ้านไปก่อนด้วยความไม่เข้าใจ
หญิงสาวไม่ได้พูดอะไรเมื่อเผชิญหน้ากับเขา เห็นเขามองซ้ายมองขวาเธอก็นิ่งไปสักพักก่อนจะเอะใจและเริ่มเดาออก ว่าเขากำลังทำอะไร
“วันนี้ออกข้างนอกเปล่า”
“จะไปไหนล่ะ จะบ้าเหรอ”
ทั้งเพียงรักและกิตติธรต่างเดินรีรอกันอยู่ ก่อนที่หญิงสาวจะสะดุ้งโหยง เมื่อเขาตั้งใจปัดมือมาโดนบั้นท้าย หญิงสาวหันไปตีเขาโดยไม่ได้จริงจังนัก
“ไปนะ…..วันนี้ เดี๋ยวทักมาหา”
“ไปๆ เข้ามานานแล้ว ออกไปได้แล้ว” หญิงสาวไม่ได้ให้คำตอบเขา แต่พาเขาเปลี่ยนเรื่องไปแทน
มือเล็กทั้งสองผลักให้เขาเดินออกไป โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เขาตั้งใจเข้ามาหา มาคุยกับหญิงสาวอยู่แล้ว เพราะรู้ดีว่าถ้าชวนเฉยๆ เธอคงไม่ยอมออกไปกับเขาแน่นอน
เมื่อออกมาจากบ้านเพียงรัก เขาก็ตรงกลับเข้าไปบ้านฝั่งที่เป็นโรงงานเลย หญิงสาวก็เดินกลับเข้าไปที่ร้านป้าไปนั่งกินข้าวต่อ ก่อนจะคุยกับป้ากับผึ้งแบบไม่ค่อยเข้าใจนัก
“มันจะให้พาไปทำไม ในเมื่อมันก็รู้ว่าอยู่ตรงไหน งง”
“เออ มันก็เป็นแบบนั้นแหละ” ป้าตอบก่อนจะสบตากับเพียงรัก อย่างพอจะคาดเดาได้
เพียงรักเองก็นั่งเล่นอยู่สักพัก ก่อนจะกดดูไลน์ เมื่อมีการแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาระหว่างที่เธอกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่
‘เข้าบ้านยัง’
‘ยังนั่งเล่นอยู่ มีอะไรอะ’ มือเล็กชะงักไปเมื่อเธอกำลังจะเก็บจานข้าวที่เพิ่งกินเสร็จพอดี
‘จะโทรหา เดินเข้าบ้านดิ’
‘แป๊บ’ เพียงรักลุกขึ้นเดินไปเก็บจานก่อนจะเดินเข้าบ้านตามที่เขาสั่งเธอ
‘เข้ายัง’
‘แล้ว’
ชายหนุ่มโทรหาหญิงสาว คุยกันอยู่สักพักจึงวางสายไป โดยทิ้งท้ายไว้ก่อนวางสายว่าเดี๋ยวโทรมาหาอีกที