หลายปีผ่านไป
เพียงรักใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพมาตลอดหลายปี เธอทำงานมาหลายที่ จนกระทั่งถึงวันที่เธอเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตในเมืองเต็มที
หญิงสาวทำงานอยู่ที่สวนสนุกแห่งหนึ่งได้ไม่นาน แต่เธอก็ทำได้ทุกอย่างตามที่หัวหน้าสั่ง
“ทาง PR ขอคนกับทางเรามา 2 คน วันงานเปิดพิธี ให้ไปแต่งตัวสวยต้อนรับแขกหน่อย”
ผู้จัดการกล่าวขึ้นในช่วงประชุมแผนกในเช้าวันหนึ่ง ก่อนจะมองซ้ายมองขวาแล้วเรียกรุ่นพี่ในแผนกออกไปหนึ่งคน และหันมามองเพียงรัก หญิงสาวที่กำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนจึงไม่ได้สนใจ
“ไอ้รัก”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวแกไปแต่งตัวคู่กับน้ำนะ”
“หนูเหรอ น่าจะสะดุดหัวทิ่มโชว์แขกมากกว่านะ”
“ก็อย่าซุ่มซ่ามดิวะ เอาเป็นว่าเตรียมตัวด้วย”
“ค่ะ ค่ะ”
เมื่อการประชุมเช้าจบลง พนักต่างแยกย้ายไปเข้าจุดประจำวันของตัวเอง รวมทั้งเพียงรักที่เดินเข้าไปวางกระเป๋าที่หลังร้าน ก่อนจะออกมารวมตัวกับซุปเปอร์ไวเซอร์เพื่อรอเวลาสวนสนุกเปิดทำการ
“ไม่ไหวมั้งพี่ ให้หนูไปแต่งตัวเนี่ย”
“แต่งๆไปเหอะ”
“เดี๋ยวน้ำร้อนลวก เดี๋ยวเตะโต๊ะ เดี๋ยวเดินชนตู้เนี่ยนะ”
“เออ นั่นแหละ ไม่รู้จะด่าซื่อบื้อหรือด่าโง่ดีวะเนี่ย”
“อย่างหลังก็ได้นะ หนูยอมรับความจริง”
หลังจากเพียงรักพูดพลางทำหน้างอนใส่ผู้จัดการ เพื่อนร่วมงานที่ยืนคุยอยู่ด้วยกันก็พากันหัวเราะชอบใจ
“เออๆ ไปแล้ว วันนี้ต้องไปทำเอกสาร”
ผู้จัดการพูดจบก็ออกจากร้านไป และหลังจากวันนั้นไม่นาน เมื่อถึงพิธีเปิดงาน เพียงรักกับน้ำก็ไปแต่งหน้าแต่งตัวต้อนรับแขกในพิธีเปิดงาน จนกระทั่งเสร็จพิธี เพียงรักก็กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำงานในจุดของเธอต่อ
การทำงานที่นี่เพียงรักสนุกกับมันเพราะทุกคนพูดคุยกันได้อย่างเป็นกันเอง จนกระทั่งวันที่ทำให้เพียงรักต้องพบเจอกับจุดเปลี่ยนก็มาถึงหญิงสาวดันไปรู้ความลับของใครบางคนที่มีตำแหน่งเข้า ทำให้เธอถูกใส่ร้าย เธอจึงลาออกจากงาน และออกมาทำงานที่ห้าง จนกระทั่ง…..
“ฮัลโหล”
“รัก กลับบ้านไหม ช่วงนี้ยายไม่ค่อยดีนะ”
“เดี๋ยวกลับอาทิตย์นี้แหละ รักเตรียมวันลาไว้แล้ว”
“โอเค”
แต่ก่อนที่หญิงสาวจะได้กลับบ้าน ก็ได้รับข่าวร้ายว่ายายของเธอเสียชีวิตแล้ว หญิงสาวจึงทำเรื่องลางาน 1 อาทิตย์ ก่อนจะรีบขับรถกลับบ้านในวันนั้น
เมื่อมาถึงที่บ้าน ก็พบว่าญาติพี่น้องได้เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว และยายของเธออยู่ที่วัดแล้ว เธอจึงตามที่ไปที่วัด พร้อมกับคนอื่นๆ
การกลับมาในครั้งนี้ทำให้เธอได้กลับมาพบกับกิตติธรอีกครั้งในรอบหลายปี ตัวเธอเองยังคงแอบมองเขาอยู่เหมือนเดิม แต่เธอก็ไม่ได้สนใจเขามากนัก เพราะเธอสำนึกอยู่ในใจลึกๆว่าเขาเป็นสามีของญาติเธอ
ทางด้านกิตติธร เมื่อเขาเห็นหญิงสาวกลับมาก็ยังคงแอบมองเธออยู่เหมือนเดิม เขาไม่แน่ใจว่าเธอจะรู้สึกตัวไหม แต่เขารู้ตัวเองดีว่าเขามองเธอเกือบจะตลอดเวลาที่เธออยู่ในระยะสายตาของเขา
ตลอด 3-4 วันที่จัดงานศพยายของเพียงรัก ภรรยาของเขามาช่วยงานทุกวัน เพราะยังไงก็นับถือว่าเป็นญาติกัน เขาจึงต้องมาด้วย และก็เป็นเวลาที่ทำให้เขาได้แอบมองหญิงสาว เขามองสำรวจว่าเธอยังเหมือนเดิมไหม มีใครหรือเปล่า แต่ตลอดเวลาที่เขาเห็น เธอไม่ได้คุยโทรศัพท์หรือสนใจโทรศัพท์เลยค่อนข้างมั่นใจว่าเธอไม่ได้มีใคร
จนกระทั่งงานศพของยายจบลง และเก็บโกศกระดูกเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินทางกลับไปทำงานเหมือนเดิม โดยไม่ได้รับรู้เลยว่า กิตติธรยังคงคอยมองและเห็นเธออยู่ในสายตาเขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
หลังจากกลับมาทำงานได้ไม่ถึงปี หญิงสาวเกิดความคิดที่จะเขียนนิยายเป็นอาชีพเสริม จึงเริ่มต้นในการเขียนนิยาย เธอเริ่มจากการแต่งจากความรู้สึกของตัวเธอเอง หญิงสาวเป็นคนชอบอ่านหนังสือ อ่านนิยายมาก จนบางครั้งเธอมีความรู้สึกว่าทำไมเธอถึงไม่แต่งนิยายเองเสีย ในเมื่อบางครั้งเธอก็ขัดใจกับบทบาทของนางเอก เธออยากให้นางเอก หรือพระเอก ฉลาด ไม่หูเบาหรืองี่เง่าเกินไป นิยายเรื่องแรกจึงเริ่มต้นขึ้น
และภายในเวลาไม่ถึงเดือนนิยายเรื่องแรกของเธอก็ได้ปิดจบลง และหญิงสาวก็เริ่มมีรายได้จากตรงนี้ เธอจึงตั้งใจจะเอาเป็นอาชีพหลักและกลับไปอยู่บ้าน
“แม่ รักจะกลับไปอยู่บ้านนะ”
“ก็กลับมาสิ ข้างบนก็ยังพออยู่ได้ เอาไว้ค่อยเก็บเงินปลูกบ้านใหม่เอา”
“อือ สิ้นเดือนนี้เดี๋ยวรักกลับไป เคลียร์ให้ด้วยนะ”
“โอเค”
เพียงรักจัดการทำเรื่องลาออกจากที่ทำงานล่วงหน้าหนึ่งเดือน ก่อนจะเริ่มทยอยเคลียร์เก็บข้าวของให้เรียบร้อย เธอออกมาเช่าห้องอยู่คนเดียวนานหลายปี จนชินกับการอยู่คนเดียว การกลับไปอยู่บ้านในครั้งนี้ เหมือนเธอต้องกลับไปเริ่มใหม่อีกครั้ง
เมื่อสิ้นเดือนมาถึง หญิงสาวที่เก็บข้าวของรอไว้เรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมออกเดินทาง เธอขับรถกลับบ้านเองโดยการกลับครั้งนี้ไม่ได้เหลืออะไรทิ้งไว้ เพราะเธอตั้งใจกลับไปเริ่มต้นใหม่อยู่ที่บ้าน โดยไม่ได้คิดว่าการกลับมาอยู่ที่บ้านครั้งนี้ จะเปลี่ยนชีวิตของเธอและเป็นการทำร้ายตัวเธอเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
หญิงสาวใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการขับรถ ก็กลับมาถึงที่บ้าน วันนั้นทั้งวันเธอเสียเวลาไปกับการจัดข้าวของ จึงไม่ทันได้รับรู้ว่ามีใครบางคนกำลังให้ความสนใจกับการกลับมาของเธอ
เป็นอาทิตย์ที่เพียงรักต้องใช้เวลาในการปรับตัว หญิงสาวอยู่แต่ในบ้าน จะออกไปข้างนอกก็ต่อเมื่อเธอไปหาซื้อกับข้าว หรือหาอะไรกิน จนกระทั่งเธอเริ่มปรับตัวได้ จึงเริ่มออกไปพบเจอญาติ พบเจอผู้คนแถวบ้าน
บ้านของเพียงรักตอนนี้มีคนอยู่ไม่เยอะ แม่ของเธอย้ายไปอยู่กับแฟนใหม่ตั้งแต่เธออายุ 15 ปี การกลับมาอยู่บ้านในครั้งนี้ ที่บ้านจึงมีแค่ลุงป้า น้า น้องสาวลูกของลุงกับป้า และตัวเธอเอง
ป้าของเพียงรักเปิดร้านขายอาหารตามสั่งบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นที่ติดถนน จึงถือว่าเป็นทำเลที่ดีพอสมควร ตัวเพียงรักเองตั้งแต่กลับมาก็อยู่แต่ในบ้าน ทำงานของเธอจนกระทั่งเริ่มปรับตัวได้ จึงเริ่มออกมานั่งที่ร้านของป้าบ้างเป็นบางวัน
หลังๆหญิงสาวเริ่มไม่ทำอะไรกินเอง แต่เลือกที่จะออกไปซื้อป้าของเธอ จึงทำให้เธอเริ่มได้กลับมาพบเจอกับเขาอีกครั้ง
ร้านข้าวของป้ามีลูกน้องหนึ่งคน แรกๆเธอก็ไม่ได้พูดคุยกับหล่อน อาจจะด้วยเพราะไม่รู้จัก เลยไม่รู้จะคุยอะไร แต่เมื่อผ่านไปไม่นาน ก็ได้เริ่มทำความรู้จักและเริ่มพูดคุยกัน จนเป็นเหมือนเพื่อนกันไปโดยปริยาย
ผ่านไปไม่นานนัก ทั้งพียงรักและผึ้ง ลูกน้องของป้าก็สนิทกันมากขึ้น เริ่มไปไหนมาไหนด้วยกัน ชวนกันไปเที่ยว เวลาหลังป้าปิดร้าน บางวันก็นั่งคุยนั่งเล่นกันอยู่พักใหญ่ กว่าที่ผึ้งจะกลับบ้านของหล่อน แต่ในบางวันที่ผึ้งกลับบ้านเร็ว เพียงรักก็จะนั่งคุยเล่นกับป้าพักใหญ่ ก่อนจะพากันกลับเข้าบ้าน
การที่เพียงรักออกไปนั่งเล่นอยู่ที่ร้านข้าวของป้า ทำให้เธอรู้ว่ากิตติธรเองก็เดินเข้าเดินออกร้านของป้าเธอเป็นประจำ แรกๆทั้งเธอและเขาต่างก็ไม่ได้พูดคุยกัน แต่ต่างคนต่างรู้อยู่แก่ใจดี ว่าตัวเองกำลังแอบมองอีกฝ่าย และอีกฝ่ายก็แอบมองตัวเองอยู่