“คุณผู้หญิงคะ...มีโทรศัพท์ของคุณผู้หญิงค่ะ”
เสียงของแม่บ้านที่ดังแทรกขึ้นทำให้การสนทนานั้นสะดุดลง สีดาหันไปพยักหน้ากับแม่บ้านก่อนหันกลับมายังคนทั้งสอง
“แม่ไปรับโทรศัพท์ก่อนนะจ๊ะ ถ้ายังไงนินคุยกับปราการเรื่องเดินทางพรุ่งนี้ไปพลาง ๆ ก็แล้วกัน”
กล่าวจบเธอก็เดินออกไปจากห้องนั้น เหลือเพียงสิตามนินท์และปราการที่นั่งหันหน้ามองตากัน โดยเฉพาะหญิงสาวที่ใบหน้าเนียนขาวเป็นสีระเรื่อขึ้นมาในทันที
“พี่ปราการกลับมาไม่เห็นบอกนินเลยนะคะ”
หญิงสาวช้อนตามองหนุ่มลูกครึ่งผู้ซึ่งมีฐานะเป็นพี่ชายของเธอตามกฎหมายในตอนนี้ ปราการยิ้มน้อย ๆ เขาเองก็แทบไม่กล้าสบตาสาวน้อยที่เขาเคยติดตามดูแลเหมือนพี่เลี้ยงมาตั้งแต่เธอยังเด็ก
ตอนนี้สิตามนินท์โตขึ้นเป็นสาวแสนสวย เธอสวยมากจริง ๆ วงหน้างดงามใต้กรอบเรือนผมสีน้ำตาลเป็นเกลียวอ่อน ๆ นั้นยังอยู่ในความคิดคำนึงของเขาเสมอ ดวงตาคู่คมกลมโตคู่นั้นเต็มไปด้วยประกายแวววาว จมูกโด่งเล็กและกลีบปากเป็นสีชมพะระเรื่อ น้องสาวของเขาเปล่งประกายและงดงามสะพรั่งในวัยสิบเก้าปี
แต่สำหรับปราการ เขามองเห็นความงามนี้มานานแล้ว และมันยังติดตรึงอยู่ในหัวใจของเขาตลอดมา แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เธอมากกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งที่เขาก็ไปร่ำเรียนไกลถึงต่างประเทศ แต่เขากลับไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ประทับใจและอยากร่วมใช้ชีวิตด้วย
ทั้งที่ตอนนี้เขาก็อายุเข้าวัยเบญจเพสและประสบความสำเร็จในด้านการงานและการทำธุรกิจอย่างมาก แต่เขาก็ยังคงคิดถึงสาวน้อยที่เขาดูแลเธอที่เมืองไทย ปราการดีใจอย่างที่สุดเมื่อได้รับโทรศัพท์จากสีดาให้กลับมาเพื่อช่วยเป็นธุระเรื่องเรียนต่อของน้องสาว
ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่รู้ถึงความนัยที่แอบซ่อนอยู่ลึก แม้แต่สีดาผู้มีพระคุณก็ไม่เคยระแคะระคายถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อสิตามนินท์เลยว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกห่วงหาอาวรณ์แค่พี่ชายกับน้องสาว
เขาอยากกลับเมืองไทย อยากกลับมาอยู่ใกล้เด็กสาวแสนสวยที่นั่งอยู่ตรงหน้า แต่เขาก็พยายามสะกดใจไม่อยากให้สีดาเห็นว่าเขาคิดเช่นไรกับบุตรสาวคนเดียวของผู้มีพระคุณ
“พี่รีบกลับมาตามคำสั่งของคุณแม่น่ะ และพี่ก็กลัวว่านินอาจตกใจกับเรื่องนี้”
ปราการพูดและพยายามสะกดอารมณ์ของตัวเองด้วยการไม่ยอมสบตากับน้องสาวของเขานาน ๆ เกรงว่าเธออาจเห็นอะไรบางอย่างสะท้อนออกมาจากแววตาคู่นั้น
“พี่ปราการสบายดีมั้ยคะ อยู่ที่เยอรมันเป็นยังไงบ้าง แล้ว...พี่ปราการมีแฟนรึยังคะ?”
หญิงสาวถามเขาอย่างไม่ใคร่เต็มเสียง เธอดีใจมาก็จริงที่ปราการกลับมา เธอได้เห็นหน้าของเขาชัด ๆ อีกครั้ง สิตามนินท์รู้ดีว่าพี่ชายของเธอคนนี้เป็นคนเช่นไร ปราการเป็นคนเงียบขรึม สุขุมลุ่มลึก ไม่พูดมาก และออกจะเจียมเนื้อเจียมตัวด้วยซ้ำ ซึ่งบางครั้งการที่เขาเก็บความรู้สึกก็ทำให้เธออดที่จะอึดอัดไม่ได้
“พี่ยังไม่มีแฟน ยังไม่มีใคร”
“นินไม่เชื่อหรอกนะคะ พี่ปราการของนินเป็นหนุ่มหล่อถึงขนาดนี้ แหม่มเมืองนอกจะไม่สนใจพี่ปราการได้ยังไงกัน”
“พี่ไม่ใช่คนโกหกนินก็รู้...อย่าทำหน้าอย่างนั้นซี นินไม่ดีใจหรือที่พี่กลับมา”
ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องพูดเมื่อเห็นท่าทีกระเง้ากระงอดของสิตามนินท์ เธอมักเป็นเช่นนี้เวลาอยู่กับเขา แสนงอน ขี้น้อยใจจนพี่ชายต้องปลอบให้หาย ตอนเธอเด็ก ๆ เขาอาจจะกอดเธอได้
แต่ตอนนี้มันต่างไปจากเมื่อสิบปีที่แล้ว ซึ่งเขาไม่อาจทำอะไรเหมือนเดิมได้อีกต่อไป พอเขาถามออกมาอย่างนั้นหญิงสาวก็นึกได้ว่าเธอกำลังแสดงอารมณ์โกรธกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
“ดีใจสิคะ”
เธอกล่าวขณะนัยน์ตาคู่งามจ้องมองไปยังเขาที่เลื่อนสายตามาสบกับเธอพอดี
“นินดีใจที่สุดเลยค่ะที่พี่ปราการกลับมา นิน...คิดถึงพี่ปราการมาก ๆ เลยค่ะ”
คำว่า มาก ๆ ของสิตามนินท์ตรึงชายหนุ่มให้จ้องมองน้องสาวของเขาอยู่เช่นนั้น มีอะไรบางอย่างอบอวลอยู่รอบคนทั้งสอง มันเป็นบรรยากาศอันลึกซึ้งและจุดความรุ่มร้อนขึ้นภายในสำหรับสองหนุ่มสาว
“พี่ก็...คิดถึงนิน”
“พี่ปราการพูดอีกครั้งซีคะ นินได้ยินไม่ชัด”
สิตามนินท์เว้าวอน ท่าทีน่ารักน่าใคร่ของเธอละลายความเยือกเย็นในใจของเขาได้เสมอ และครั้งนี้เธอก็ทำให้เขาอ่อนยวบ
“พี่...คิดถึงนิน มาก ๆ เลย”
รอยยิ้มอ่อนหวานจุดขึ้นบนริมฝีปากจิ้มลิ้ม หญิงสาวมีท่าทีเหมือนขัดเขิน เธอทำเหมือนตอนนี้กำลังอยู่ต่อหน้าคนรักอย่างไรอย่างนั้น สิตามนินท์งดงามและเปล่งประกายจนเขาอยากกอดเธอไว้หากไม่ยับยั้งชั่งใจว่าเธอคือ น้องสาว ของเขา
“พรุ่งนี้เราจะเดินทางตอนไหนคะ?” เธอถามแก้เก้อ
“เราจะไปไฟลท์ค่ำ พี่จะให้นินพักอยู่กับพี่ที่บ้านในแฟรงค์เฟิร์ต แล้วหลังจากนั้นพี่จะพานินเที่ยวสักวัน”
“แล้วมันจะกระทบกับงานของพี่หรือเปล่าคะ?”
“พี่มีผู้ช่วยอยู่แล้วที่บริษัท แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่างานของพี่ตอนนี้คือนิน”
คำพูดนั้นทำให้สิตามนินท์หน้าแดง ทำไมเธอต้องเขินอายเขามากขนาดนี้ด้วยนะ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอดีใจมากแค่ไหนที่ได้เห็นหน้าของปราการ เธออยากกอดเขาด้วยซ้ำ อยากซบหน้ากับอกกว้างภายใต้เสื้อสูท อยากให้อ้อมแขนของเขาโอบกอดเธอ อยากให้...
“แล้วนินล่ะ โตเป็นสาวแล้ว มีแฟนกับเขาบ้างหรือยัง?”
คำถามของปราบทำให้สิตามนินท์ตาโต ไม่นึกว่าปราการจะถามเธอกลับมาบ้าง หญิงสาวบุ้ยปากก่อนพูด
“ไม่เห็นมีใครน่าสนใจเลยค่ะ นินยังไม่มีใครตอนนี้ ไม่มีใครเหมือนพี่ปราการหรอกค่ะ”
หญิงสาวกล่าวขณะจ้องหน้าเขา ปราการเงียบไปและต่างคนต่างเงียบ มีเพียงสายตาที่สบประสานกันเท่านั้นบอกอะไรบางอย่างที่มีเพียงเขาและเธออ่านความหมายของมันได้ออก