บทที่ 06 โรคจิต
@คลับหรูใจกลางเมือง
"ไง" เสียงทักทายจากใครบางคนดังขึ้น ในขณะที่ฉันกำลังนั่งมองแก้วไวน์เล่นมาเกือบจะครึ่งชั่วโมง ฉันจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงนั้นนิ่งๆ ก่อนจะทำหน้าหงุดหงิดใส่เมื่อเห็นว่าเสียงนั้นคือ อินทัช โดยที่เขาก็ทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามฉัน
"ได้ข่าวว่านายเป็นคนนัดฉันมาที่นี่ แต่กลับมาช้ากว่าฉันเนี่ยนะ" ฉันวางแก้วไวน์ในมือลงบนโต๊ะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา "นายช้าไปสามสิบนาทีสี่สิบห้าวินาที"
"จับเวลาอย่างกับฉันเป็นผัวเธอเลยนะ" ฉันมองหน้าอินทัชด้วยใบหน้าไม่พอใจ โดยที่อินทัชก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ซึ่งพนักงานก็เดินนำแก้วไวน์มาวางลงตรงหน้าจากนั้นก็เดินออกไป "แค่ล้อเล่น ทำหน้าอย่างกับมีใครตาย"
"เฮ้อ วันอะไรของฉันเนี่ย" ฉันบ่นพึมพำเบาๆ ยกไวน์กระดกเข้าปากพรวดเดียวจนหมดเพื่อดับอารมณ์หงุดหงิดในใจ เมื่อตอนเที่ยงฉันก็ไปรอไอ้บ้ามาร์ตินที่มหา'ลัย แล้วพอตกเย็นยังต้องได้มารออินทัชอีก น่าเบื่อชะมัด
"เป็นอะไร" อินทัชเอ่ยขึ้น หยิบขวดไวน์มารินใส่แก้ว ก่อนจะมองหน้าฉันนิ่งๆ พร้อมขมวดคิ้วเพื่อรอคำตอบ
"เปล่า แค่เจอพวกปัญญาอ่อน" ฉันตอบปัดๆ พ่นลมหายใจออกมาเพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิด หยิบไวน์ขึ้นจิบเบาๆ
"งั้นก็อย่าไปคิด รกสมอง"
"อือ" ฉันพยักหน้าเบาๆ วางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ "ว่าแต่ทำไมมาช้า ปกติไม่เห็นปล่อยให้ฉันรอนานขนาดนี้?"
"งานเรทนิดหน่อย"
"นายควรโทรบอกฉันหน่อยไหม ไม่ใช่ให้ฉันมานั่งอยู่คนเดียวแบบนี้" ฉันบ่นออกมาด้วยใบหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
"ทำไมเธอไม่ขึ้นไปนั่งห้องวีไอพี"
"เคยบอกแล้วไหม ไม่ชอบ มันอึดอัด" ฉันไม่ชอบการนั่งในห้องสี่เหลี่ยม มันอึดอัดยังไงไม่รู้ อีกอย่างอยู่ในคลับแบบนี้ไม่ค่อยมีใครสนใจหรอก เลยไม่ค่อยเป็นที่จับตามองให้น่าอึดอัดจนเกินไป
"ฉันได้ข่าวว่าเธอจะเซ็นสัญญาเป็นนางแบบในสังกัด MTT เหรอ?" อินทัชเลิกคิ้วถาม ก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบช้าๆ แล้ววางมันลงในนาทีต่อมา
"อือ" ฉันพยักหน้าเบาๆ ตอนนี้พี่อิงฟ้าก็คงกำลังคุยกับทางนั้นจริงจังนั่นแหละ คงอีกไม่นานฉันก็ต้องไปเซ็นสัญญา
"กี่ปี?"
"หนึ่งปี ทำไม?"
"แค่ถาม เพราะต่อไปเธอคงได้เจอฉันบ่อยๆ" อินทัชกระตุกยิ้มออกมาบางๆ
"อะไร อย่าบอกนะว่านายก็เซ็นสัญญาของบริษัทนี้?"
"แน่นอน คนหล่อๆ ดังๆ อย่างฉัน ใครๆ ก็อยากทำงานด้วยทั้งนั้น" ฉันเบะปากใส่อย่างนึกหมั่นไส้ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ คลับที่ถูกแบ่งเป็นโซนอย่างดี โดยมีชายชุดดำนับหลายชีวิตยืนอยู่ตามจุดต่างๆ เหมือนรักษาความปลอดภัย
"ฉันรู้มาว่าที่นี่มีคาสิโนด้วยเหรอ?" ฉันเบือนสายตากลับมามองหน้าอินทัชพร้อมเลิกคิ้วถาม ฉันมาเที่ยวที่นี่บ่อยนะ แต่ก็ไม่รู้อะไรมากหรอก เคยมานั่งแค่ตรงนี้ และชั้นวีไอพี เวลาที่ผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ จัดงานเลี้ยง แล้วเชิญฉันไปร่วม
"สนใจทำไม จะเล่น?" อินทัชเลิกคิ้วถาม ยกไวน์ขึ้นจิบช้าๆ
"เปล่า แค่อยากรู้"
"เธอเลิกอยากรู้ แล้วหันไปมองโต๊ะที่อยู่ห่างจากเราสี่โต๊ะ"
"ทำไม?" ฉันเอ่ยถามแต่ยังไม่ได้หันไปมองตามอินทัชว่าแต่อย่างใด
"ฉันเห็นพวกมันมองเธอนานแล้ว มองเหมือนรู้จัก"
ฟรึ่บ!
"..." ฉันนิ่งไปทันทีเมื่อฉันหันไปมองตามที่อินทัชบอก ก็เจอผู้ชายสามคนนั่งอยู่ตรงนั้น และหนึ่งในนั้นคือมาร์ติน ตอนนี้มาร์ตินกำลังมองหน้าฉันอยู่ ก่อนที่ฉันจะเบือนหน้าหนี ทำเชิงไม่สนใจ พึมพำออกมาเบาๆ ยกไวน์ขึ้นจิบ "โลกจะกลมไปไหนวะ"
"รู้จัก?" อินทัชเอ่ยถามเสียงเรียบ
"อย่าใช้คำว่ารู้จักเลย แค่บังเอิญเดินไปเหยียบหางนิดหน่อย" ฉันกระตุกยิ้มมุมปากวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ ทำให้อินทัชหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
"เธอนี่มัน" อินทัชส่ายหน้าไปมา ยกไวน์ขึ้นจิบ โดยที่ฉันก็ยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน
[Martin Talk]
"เห็นไหม กูบอกแล้วว่านางแบบคนนี้หยิ่ง" ไอ้ฟาโรห์เอ่ยขึ้น คว้ามือไปหยิบแก้วเหล้าตรงหน้ากระดกเข้าปากพรวดเดียวจนหมด ก่อนจะวางลงบนโต๊ะอย่างแรง
"แต่เมื่อกี้สายตาเธอเหมือนมองไอ้ติน มึงมีไรกับเธอรึเปล่าวะ" ไอ้รันเวย์หันมาเอ่ยถามผม ซึ่งผมก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป ยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากพรวดเดียวจนหมด
"เฮ้ย ตอบ! หรือมึงรวบหัวรวบหางนางแบบคนนี้แล้ว?" ไอ้ฟาโรห์เค้นเอาคำตอบจากผม โดยที่ผมก็มองหน้ามันนิ่งๆ อย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
"ที่ชวนกูมานั่งตรงนี้เพราะเธอ?" ผมไม่ตอบคำถามมัน แต่กลับเอ่ยถามออกไป เพราะปกติผมไม่ค่อยได้มานั่งตรงนี้หรอก ส่วนมากจะขึ้นไปนั่งที่โซนห้องวีไอพี หรือไม่ก็ไปเล่นสนุกเกอร์ที่ห้องใต้ดิน แต่วันนั้นพวกมันสองตัวนี่แหละที่บังคับผมมานั่งที่นี่ แล้วก็มาแอบมองยัยนางแบบน่ารำคาญคนนั้น
"มึงไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง มึงกับเธอยังไง?" ไอ้ฟาโรห์ยังคงจ้องหน้าผมเพื่อเอาคำตอบ
"ไม่ยังไง" ผมตอบนิ่งๆ
"มึงจะไปเค้นเอาคำตอบจากมันทำไม มึงดูคนที่มึงพูดถึงดิ๊ ท่าทางหยิ่งขนาดนั้น อย่าว่าแต่ไอ้ตินเลย ผู้ชายทั้งโลกก็คงไม่มีใครได้เธอ" ไอ้รันเวย์เอ่ยขึ้น คว้าแก้วเหล้ากระดกเข้าปากพรวดเดียวจนหมด
"ถ้ากูจะปราบผู้หญิงแบบนั้น พ่อเธอจะฆ่ากูไหมวะ" ไอ้ฟาโรห์เอ่ยขึ้น ซึ่งผมก็เบือนสายตาหันไปมองผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง ก่อนจะเบือนสายตาหันมามองหน้าไอ้ฟาโรห์
"พ่อเธอเป็นใครนะ"
"มาเฟีย กูเคยได้ยินประวัติมาคร่าวๆ ว่าโหดมาก และหวงลูกสาวมากเช่นกัน"
"งั้นเหรอ?" ผมกระตุกยิ้มมุมปาก ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มช้าๆ อย่างใจเย็น
"ทำไม ถามแบบนี้มึงสนใจแล้วว่างั้น?"
"มึงคิดดีๆ ไอ้ติน เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่มึงลากเข้าโรงแรมนะเว้ย" ไอ้รันเวย์เอ่ยเตือนผมด้วยใบหน้าที่จริงจัง
"กูขอประกาศตรงนี้เลย ถ้าเธอไม่ใช่ลูกมาเฟียนะ กูไม่ปล่อยไว้แบบนี้หรอก" ไอ้ฟาโรห์เอ่ยขึ้น
"น่าสนุกไปอีกแบบ" ผมเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ซึ่งพวกมันก็หันมามองหน้าผมทันที ก่อนที่ผมจะดันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"มึงหมายความว่ายังไงไอ้ติน" ไอ้ฟาโรห์เงยหน้าขึ้นมองหน้าผม
"มึงอย่าบอกนะ มึงจะเล่นนางแบบคนนี้?" ไอ้รันเวย์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนัก
"..." ผมก็เงียบ กำลังจะก้าวขาเดินออกไปจากโต๊ะ แต่ไอ้ฟาโรห์ก็มาดึงแขนผมไว้ ทำให้ผมหันไปมองหน้ามัน ก่อนที่มันจะปล่อยแขนผมพร้อมเอ่ยขึ้น
"ตอบคำถามกูก่อน"
"กูจะไปเข้าห้องน้ำ" ว่าจบผมก็ก้าวขาเดินไปที่ห้องน้ำทันที ไม่ได้สนใจพวกมันที่กำลังสงสัย หรืออยากรู้อะไร
"ขอโทษนะคะ" ผมหยุดชะงักเมื่อกำลังจะก้าวขาเข้าไปในห้องน้ำชาย อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาหาผม ด้วยใบหน้าที่มึนแอลกอฮอล์เล็กน้อย
"..." ผมปรายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนจะไล่สายตาขึ้นไปมองใบหน้าหยาดเยิ้มของเธอ
"พอดี เพื่อนบอกจะรอตรงนี้ แต่ออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เจอแล้วค่ะ เลยอยากจะขอยืมโทรศัพท์โทรหาเพื่อนหน่อยค่ะ" เธอส่งยิ้มหวานมาให้ผม ซึ่งผมก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพราะผมรู้ว่าเธอต้องการอะไร ผมจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ เธอ โดยที่เธอเหมือนรู้จึงก้าวขาถอยหลังไปชนกับกำแพงห้องน้ำ ผมจึงก้าวขาไปยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ยกแขนขึ้นวางไว้ที่ผนังเหนือศีรษะเธอ มองหน้าเธอนิ่งๆ
"อยากได้โทรศัพท์?" ผมเอ่ยถามเสียงเรียบ
"ถ้าบอกว่าอยากได้เบอร์เจ้าของคำถามนี่จะว่ายังไงคะ?" ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสด คลี่ยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ
"เอาเบอร์ไปก็ไม่ได้อะไร"
"แล้วต้องเอาอะไรอะคะ?" เธอใช้มือมาสัมผัสที่หน้าอกของผมอย่างแผ่วเบา
"โทษนะคะ" ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรเธอ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้ผมหันไปมอง ก็เจอผู้หญิงน่ารำคาญคนนั้นยืนกอดอก ยกยิ้มร้ายกาจมองมาที่เราสองคน
"..." ผมผลักตัวออกจากเธอ หันไปมองหน้าผู้หญิงน่ารำคาญคนนั้นนิ่งๆ
"ไม่มีเงินไปเปิดโรงแรมเหรอคะ ถึงมายืนนัวเนียกันอยู่ที่ห้องน้ำ"
"อยากร่วมด้วย?" ผมเอ่ยถามผู้หญิงน่ารำคาญคนนี้ออกไปด้วยท่าทางนิ่งๆ
"เหอะ ฉันไม่ลดตัวลงไปเล่นกับของสกปรกหรอก" เฟรย่าแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ อย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ไม่รอช้าผมก็รีบก้าวขาเดินตามเข้าไปติดๆ
ปึก!
"เฮ้ย จะทำอะไร!" เธอหันมามองหน้าผมพร้อมอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นผมก้าวขาเข้ามาในห้องน้ำหญิง พร้อมปิดประตูกดล็อกกลอนเรียบร้อย
"หึ" ผมกระตุกยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของผู้หญิงตรงหน้า สองขาของผมก็ก้าวเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ จนเธอต้องรีบถอยหลังหนี
"นายจะทำอะไรมาร์ติน! ออกไปนะ นี่ห้องน้ำหญิงนะ...อ๊ะ!" เธอร้องอุทานออกมาเมื่อร่างกายของเธอไปชนกับผนังห้องน้ำอย่างแรง ไม่รอช้าผมรีบก้าวขาเข้าไปประกบตัวเธอไว้ทันที สองมือเล็กยกขึ้นมาผลักดันหน้าอกผมให้ถอยห่าง
"ฉันจำได้ว่ายังไม่ได้แนะนำตัวให้เธอรู้จัก" รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นมาที่ใบหน้าของผม "แต่ดูเหมือนเธอจะสนใจในตัวฉันนะ"
"มั่นหน้า! ฉันไม่สนใจเด็กอย่างนายหรอก"
"เคยโดนอวัยวะเบื้องล่างตบปากแตกไหม?"
"นี่นาย!" เธอมองหน้าผมตาเขียว พร้อมกระแทกเสียงใส่ "ถอยไป อย่ามายุ่งกับฉัน!"
"ได้ข่าวว่าเธอเป็นคนเดินเข้ามายุ่งกับฉันเองนะ" ผมเบือนสายตามองต่ำลงมาที่หน้าอกอวบอิ่มที่มันโผล่ออกมาจากเดรสรัดรูปเกือบจะครึ่งเต้า โดยที่เธอเห็นแบบนั้นก็รีบยกมือขึ้นปกปิดเอาไว้
"โรคจิต!"
"ฉันสักจะสนใจในตัวเธอแล้วสิ" ผมเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ เธอ
"อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ นายไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร ฉันสามารถสั่งคนมาฆ่านายได้สบาย"
"หึ" ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ อย่างเย้ยหยัน อย่างไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวอะไรในคำขู่ของเธอ "ก่อนจะถึงวันนั้น เธอคงได้ฉันเป็นผัวก่อน"
"ฝันไปเถอะ ถอยไป!" เธอออกแรงผลักผมอย่างแรง แต่แรงเธอมันสู้แรงของผมไม่ได้หรอก ผมรวบมือเล็กทั้งสองข้างด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนจะยกขึ้นเหนือศีรษะเธอ "ปล่อยนะมาร์ติน ปล่อยฉัน!"
"เธอหาเรื่องใส่ตัวเองนะ เฟรย่า" ว่าจบผมก็ใช้มืออีกข้างไปลูบที่ขาของเธอเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาเรื่อยๆ จนเธอเริ่มมีอาการสั่นเทา
"ขะ..ขอโทษ"
"..." ผมหยุดชะงักมือ มองหน้าเธอนิ่งๆ "จะเก่งกับใครก็เก่งไป แต่อย่าเก่งกับฉัน!"
"..." เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น โดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
"จะฟ้องพ่อก็เชิญ เพราะดูจากท่าทางคงโตแค่อายุ และ..." ผมเว้นคำพูดก้มลงมองที่หน้าอกอันใหญ่โตเกินขนาดของเธอ พร้อมยกยิ้มมุมปาก ปล่อยมือออกจากมือของเธอ พร้อมก้าวขาเดินออกไปจากห้องน้ำ
"ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต!" เสียงของเฟรย่าตะโกนร้องตามหลังผมมา ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจนอกจากเปิดประตูเดินออกมา แต่ก็เจอผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำ
"เรา..."
"ไม่มีอารมณ์" ผมว่าจบก็ก้าวขาเดินออกไปจากตรงนั้นทันที