สามวันผ่านไป…
@ห้องพัก
“ครับ ผมกำลังลงไป…” เสียงทุ้มของอีริคกรอกเสียงบอกยังปลายสายผู้เป็นแม่ที่โทรมาวานให้เขาลงไปดูการประชุมรับน้องเพื่อเป็นการช่วยโพรโมตอีกช่องทางหนึ่งในกิจกรรมรับน้องที่หลัง ๆ นั้น นักศึกษาไม่ค่อยเข้าร่วมเท่าที่ควร ทำให้หนุ่มบริหารปีสี่อย่างเขาและกลุ่มเพื่อนที่ค่อนข้างเป็นที่สนใจต่อรุ่นน้องนั้นจำเป็นต้องไปให้เห็นหน้าบ้างในบางครั้ง
“ต้องลงไปอีกแล้วเหรอวะ” วินเซนต์ถามขึ้นหลังจากที่เห็นเพื่อนกดวางสายแล้ว อีริคที่ได้ยินจึงพยักหน้าตอบกลับ
“ถ้าพวกมึงไม่อยาก ก็ไม่ต้อง” เขาไม่ได้ประชดประชันแต่อย่างใด ก่อนจะสาวเท้าเดินนำออกจากห้องพักหรูไปด้วยท่าทีปกติ ทว่าวินเซนต์กับวิกเตอร์ที่ยืนอยู่ก็เลือกที่จะเดินตามเพื่อนไป เหลือไว้แต่ไซม่อนกับไคลน์ที่นั่งกันอยู่ภายในห้อง แต่แล้ว
พรึบ
ก็เป็นไซม่อนที่ลุกขึ้น
“ไปช่วยมันหน่อยแล้วกัน นาน ๆ ทีจะได้อยู่ครบกลุ่ม” ปากหนาบอกร่างสูงที่นั่งอยู่ ก่อนจะพูดต่อ
“เผลอ ๆ อาจจะได้เจอน้องเขาด้วยก็ได้นะ นี่ก็ไม่ได้เจอหลายวันแล้ว ไม่รีบทำคะแนนหน่อยเหรอ” หนุ่มวิศวะเพลย์บอยมองหน้าถามเพื่อนสนิทด้วยโทนเสียงติดกวนเหมือนเคย ไคลน์ที่ได้ยินก็ลุกขึ้นตอบกลับเสียงเรียบ
“ไม่ใช่เรื่องของมึง” พูดจบ สองเท้าหนักก็สาวเท้าเดินนำตามกลุ่มเพื่อนออกไป โดยก็มีไซม่อนที่หัวเราะเดินตามไปอย่างอารมณ์ดีตามประสาของเขา ใช้เวลาไม่นาน ทั้งห้าหนุ่มก็ปรากฏตัวอยู่ที่ใต้ตึกคณะบริหารพร้อมกับสายตาของคนมากมายที่จ้องมองยังแก๊งหนุ่มหล่อคนดังประจำมหาวิทยาลัย
“หล่อมาก ตัวจริงดีสุด ๆ โอ๊ย”
“คิดไม่ผิดเลยที่วันนี้เข้าประชุม”
“พี่อีริคคือเรียบหรูอลังการ”
“นั่นพี่ไคลน์กับพี่ไซม่อน วิศวะด้วยปะ อ๊ายย ไม่คิดว่าจะได้เจอ เจอตัวจริงกันยากมาก…” เสียงบรรดานักศึกษาปีหนึ่งที่ได้เห็นทั้งห้าหนุ่มต่างเอ่ยออกมาด้วยความชอบใจที่ได้เจอสักครั้ง ซึ่งในตอนนั้นเอง
“พี่วินเซนต์” ร่างสวยของเจนิสที่เพิ่งเลิกเรียนมาก็ไม่รอช้าที่จะโผเข้าหารุ่นพี่หนุ่มด้วยความคลั่งรักไม่คิดสนใจอะไรเหมือนทุกครั้ง โดยลูกหว้ากับใบข้าวที่เดินตามเข้ามาก็ไม่รอช้าที่จะก้มหน้าทักทายรุ่นพี่หนุ่มทั้งห้า แน่นอนว่าเมื่อถึงไคลน์ที่ยืนคนสุดท้าย ใบข้าวก็ยังคงมีความประหม่าอยู่เหมือนเคย ทว่า…มันไม่ได้เยอะเท่ากับช่วงแรก ๆ ดวงตากลมยังคงลอบมองยังคนตัวสูงอย่างไม่กล้าที่จะสบสายตากับเขาตรง ๆ กระทั่ง…
“รบกวนน้องปีหนึ่งมานั่งตามเลขประจำตัวตัวเองกันหน่อยนะครับ พอดีวันนี้เราจะมาเฉลยพี่รหัสกัน ซึ่งจะเป็นสายรหัสที่จะต้องดูแลกันไปจนจบการศึกษาเลยนะครับ” รุ่นพี่ปีสามที่เป็นคนช่วยดูแลเรื่องการประชุมพูดขึ้น ทำให้ใบข้าวกับลูกหว้าหันบอกเจนิสให้เดินไปนั่งด้วยกันก่อน แม้จะมีท่าทีอิดออดอยู่บ้าง แต่สุดท้ายเจนิสก็ยอมเดินไปอย่างว่าง่าย ซึ่งขณะที่กำลังเดินไปนั่งลง สายตาของใบข้าวก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองยังรุ่นพี่ที่ตัวเองแอบชอบอยู่อีกครั้ง และมันดันเป็นจังหวะเดียวกันกับสายตาคมที่จ้องมองมายังเธอพอดี ทำให้ทั้งสองต่างฝ่ายต่างสบสายตาเข้าหากัน แล้วก็ต้องเป็นใบข้าวที่ผละสายตานั้นไปอย่างรู้สึกเขินปนประหม่าอย่างบอกไม่ถูก
“มานั่งได้แล้ว” เสียงลูกหว้าที่เห็นท่าทีของเพื่อนยิ้มบอก ใบข้าวก็รีบพยักหน้าตอบกลับเดินเข้าไปนั่งลง ด้านไคลน์เองก็ยืนมองรุ่นน้องตัวเล็กนิ่งอยู่อย่างนั้น จนไซม่อนที่เห็นอดไม่ได้
“หึ ไม่ละสายตาหน่อยเหรอวะ เดี๋ยวน้องก็เขินจนทำอะไรไม่ถูกหรอก”
“หุบปาก”
“ไอ้เวรนี่ เย็นชากับกูจังนะ” ไซม่อนเอ่ยด้วยท่าทีเอาเรื่องไม่จริงจังใส่เพื่อน ก่อนที่การประชุมในครั้งนี้จะเริ่มขึ้นจากการบอกวันที่จะจัดกิจกรรมรับน้องอย่างเป็นทางการที่มหาวิทยาลัย รวมถึงการเฉลยบอกสายรหัสที่หลายคนรอคอย
“ขอให้ได้พี่สายรหัสใจดี ๆ ด้วยเถอะ” เสียงใบข้าวพึมพำอย่างรู้สึกลุ้นอยู่ไม่น้อย กระทั่ง…
“รบกวนน้องปีหนึ่งหลับตาก่อนนะครับ ส่วนพี่สายรหัสที่รู้ว่าน้องคนไหนก็เดินไปหาได้เลย เราจะมานับถอยหลังพร้อมกัน” สิ้นเสียงรุ่นพี่หนุ่มปีสามบอก รุ่นพี่ตัวแทนสายรหัสก็ต่างพากันเดินไปยังรุ่นน้องของตัวเอง โดยใบข้าวก็หลับตาพริ้มด้วยความรู้สึกลุ้น จนในที่สุด
“ลืมตาได้ครับ” ทันทีที่รุ่นพี่บอก ดวงตากลมโตก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบเข้ากับร่างสูงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“สวัสดีครับ” คนที่ยืนอยู่ยิ้มทักทายรุ่นน้องสายรหัสของตัวเอง และค่อนข้างโชคดีเป็นอย่างมากที่เจนิสกับลูกหว้าเองก็อยู่ในสายรหัสเดียวกันกับใบข้าวที่มีรุ่นพี่มายืนคนเดียวกัน
“พี่เป็นตัวแทนสายรหัสของพวกเรานะ”
“…” ทั้งสามที่ได้ยินก็ต่างมองหน้ากันด้วยความรู้สึกดีใจ
“พี่ขอแนะนำตัวก่อนแล้วกันนะ พี่ชื่อ ทู นะครับ เป็นสายรหัสของพวกเรา แล้วก็เป็นพี่รหัสของ…น้องโดยตรง” นักศึกษาหนุ่มปีสามบอกกับลูกหว้าที่ยืนอยู่ เจ้าของใบหน้าเล็กที่ได้ยินจึงพยักหน้ายิ้มรับรู้ ซึ่งในตอนนั้นเอง ก็มีสองเท้าหนักของใครบางคนเดินเข้ามา
“หวัดดี น้องใบข้าวใช่ไหม” เสียงชายที่มาใหม่พูดขึ้น ทำให้คนที่ถูกถามพยักหน้าตอบ
“พี่อเล็กซ์นะ เป็นพี่รหัสของเราโดยตรง” คนที่แนะนำตัวเอ่ยพลางมองยังน้องรหัสหน้าใสที่อยู่ตรงหน้า
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้เป็นน้องรหัสพี่อเล็กซ์นะคะ”
“อืม พี่ก็ยินดีมาก ๆ ที่ได้เรามาเป็นน้องรหัส” คนตัวสูงยิ้มบอก ทำเอาใบข้าวยิ่งส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับรุ่นพี่ที่ดูใจดี ซึ่งลูกหว้ากับเจนิสเองก็ต่างหันไปสนใจทำความรู้จักกับพี่รหัสของตัวเองเช่นกัน
“ได้ข่าวว่าเราเป็นเด็กทุนเหรอ” รุ่นพี่หนุ่มเอ่ยถามร่างเล็ก
“ค่ะ”
“ท่าทางจะเรียนเก่งใช่ไหม”
“แหะ…ก็พอเอาตัวรอดได้ค่ะ”
“ไม่น่าใช่นะ ได้ทุนของควินตันขนาดนี้” อเล็กซ์ยังคงพูดคุยกับรุ่นน้องสาวพร้อมกับดวงตาที่จ้องมองยังใบข้าวไม่หยุด
“^^” ใบข้าวเองก็ได้แต่ส่งยิ้มให้ไปแทนคำตอบ และเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่หนุ่มเอาแต่จ้องมองหน้าตัวเอง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงหวานถามขึ้นตาใส ทำเอาคนที่ได้ยินชะงักเล็กน้อย
“เรา…ถอดแว่นหน่อยได้ไหม”
“คะ?”
“เหมือนพี่จะเห็นอะไรติดอยู่ตรงใต้ตาเราน่ะ มันอยู่ตรงกรอบแว่นพอดี”
“อ๋อ…ได้ค่ะ” ร่างบางที่ไม่คิดอะไรพยักหน้ารับรู้พร้อมกับจัดการถอดแว่นของตัวเองออกอย่างว่าง่าย ซึ่งคนที่ได้เห็นใบหน้าเรียวใสไร้กรอบแว่นก็เอาแต่จ้องมองยังความน่ารักจิ้มลิ้มนั้นพร้อมกับมุมปากหนาลอบยกยิ้มขึ้นมาอย่างรู้สึกชอบใจกับใบหน้าที่ไร้กรอบแว่นให้เห็น เพราะมันยิ่งทำให้อีกคนดูน่ารักขึ้นเป็นอย่างมาก
“ตกลงมีอะไรติดไหมคะ” เสียงหวานของใบข้าวถามขึ้น ทำให้อเล็กซ์ทำเป็นเนียนใช้นิ้วเขี่ยเข้าที่ใบหน้าเล็ก
“อืม ออกแล้ว” สิ้นเสียงชายหนุ่มบอก ใบข้าวก็ยกยิ้มก่อนจะนำแว่นสายตาสั้นของตัวเองเข้ามาสวมใส่ไว้อย่างเดิม โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีแววตาคมของใครอีกคนคอยยืนนิ่งจ้องมองการกระทำของเธอกับร่างสูงรุ่นพี่นั้นอยู่ด้วยแววตาราบเรียบ
“หึ ดูเหมือนว่าเหยื่อมึงจะไม่ได้มีแค่มึงที่อยาก ‘ล่า’ แล้วว่ะ” เสียงไซม่อนที่ยืนมองเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่จงใจพูดขึ้นมาด้วยโทนเสียงชอบใจกับสถานการณ์ตอนนี้ ขณะที่ไคลน์เองก็ยืนเงียบนิ่งไม่พูดอะไรออกมา ทว่าสายตาของเขากลับไม่ละออกจากสองคนที่ยืนพูดคุยกันอยู่เลยแม้แต่น้อย