อีกด้าน
แอด…
เสียงมือหนาของร่างสูงเจ้าของความสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเก้าเดินสาวเท้าตรงเข้าไปยังกลุ่มเพื่อนสนิททั้งสามของตัวเองที่นั่งกันอยู่
“อ้าว หมดคลาสแล้วเหรอวะ” วินเซนต์ ที่เห็นเพื่อนตัวสูงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามปกติของเขาเอ่ยถาม
“อืม” ไคลน์ ที่ได้ยินจึงพยักหน้าตอบกลับพลางล้มตัวนั่งลงยังโซฟาหนังราคาแพงภายในห้องพักพิเศษที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามายังห้องพักนี้ได้
“แล้วไอ้ไซม่อนไปไหน” อีริค ที่นั่งอยู่มองหน้าถามคนที่เข้ามาใหม่ถึงเพื่อนสนิทอีกคนที่ไม่ได้อยู่ภายในห้องแค่คนเดียว
“ไม่รู้”
“ไม่รู้ได้ไงวะ มึงเรียนอยู่วิศวะเหมือนกัน” วินเซนต์พูดขึ้น โดยไคลน์ก็ไม่ได้คิดสนใจอะไรต่อคำถามของเพื่อน ทั้งวินเซนต์กับอีริคที่เห็นจึงไม่เซ้าซี้ถามอะไรเพื่อนต่อ ทว่า…
พรึบ
อยู่ ๆ ร่างสูงของ วิกเตอร์ ที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้น
“กูมีเรียนต่อ ไปก่อน” พูดจบ เจ้าของใบหน้าหล่อดูดีก็สาวเท้าเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าท่าทีราบเรียบปกติ โดยทุกคนที่นั่งอยู่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะพวกเขาก็เป็นแบบนี้ เบื่อเมื่อไหร่ก็จะแวะเข้ามารวมตัวกันที่นี่ พอถึงเวลาเรียนก็ต่างแยกย้ายกันไป ซึ่งที่สามารถมาอยู่ที่ห้องพักสุดหรูในตึกบริหารนี้ได้ก็เพราะ อีริค เป็นลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ พวกเขาจึงค่อนข้างที่จะมีอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่นในการเข้าออก และรวมตัวกัน แต่ว่าก็ไม่ได้มาพบเจอรวมตัวกันครบอะไรกันบ่อยนัก เนื่องจากทั้งหมดไม่ได้เรียนคณะเดียวกัน จะมี อีริค วินเซนต์ วิกเตอร์ ที่อยู่คณะบริหารธุรกิจ แต่คนละสาขา ส่วนไคลน์กับไซม่อนที่ถูกถามถึงนั้นเรียนอยู่คณะวิศวะด้วยกัน แต่ก็คนละสาขาอีกเช่นเดียวกัน และเพราะในตอนนี้พวกเขาอยู่ปีสุดท้าย ทำให้วิชาเรียนไม่ได้หนักหนาอะไรมากนัก จะหนักไปที่การทำธีสิสจบซะมากกว่า เพราะพวกเขาไม่ได้เลือกการเข้ารับฝึกงานเหมือนกับคนอื่น ๆ ซึ่งในขณะที่สามหนุ่มที่เหลือกำลังนั่งกันอยู่ หลังจากที่วิกเตอร์เดินออกไป
“ฮัลโหล~” ก็มีร่างบางในชุดนักศึกษาดูดีเปิดประตูสาวเท้าเดินเข้ามาทักทายบรรดาชายหนุ่มรุ่นพี่ที่นั่งกันอยู่ด้วยท่าทีสดใสอารมณ์ดี
“มาทำไม” อีริคไม่รอช้าที่จะเอ่ยถามคนที่มาใหม่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ทว่า เจนิส ก็ไม่คิดสนใจ หญิงสาวที่เพิ่งเข้าเรียนวันแรกเมินเฉยต่อคำทักทายจากลูกพี่ลูกน้องที่นั่งอยู่พร้อมกับมุ่งตรงไปยังชายอีกคนที่นั่งอยู่
“พี่วินเซนต์ ทำไมไม่ตอบไลน์เจ!” หญิงสาวไอดอลของหญิงสาวหลาย ๆ คนเอ่ยถามเพื่อนพี่แววตาเอาเรื่อง และไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปวอแวยังชายหนุ่มด้วยความรวดเร็ว
“ก็ทักมาแบบนั้น ใครจะอยากตอบ”
“ทำไม มันแปลกยังไง”
“อยากนอนกับเจนิสไหม? …นี่เหรอคำทักทาย” วินเซนต์ถาม
“ใช่ นั่นคือคำทักทายจากว่าที่เจ้าสาวของพี่เอง” ร่างบางที่ค่อนข้างคลั่งรักรุ่นพี่หนุ่มชัดเจนตอบกลับด้วยใบหน้าไม่รู้สึกเขินอายแต่อย่างใดพลางพูดต่อทำตาไขสือ
“ปีนี้ก็อายุสิบเก้าแล้ว เสียซิงได้แล้ว อยากเสียซิงให้พี่แล้ว”
“…” วินเซนต์ที่ได้ยินก็รู้สึกแทบปลงไปกับลูกพี่ลูกน้องเพื่อนที่ตามจีบตามวอแวเขามาตั้งแต่มัธยมต้น หลังจากที่พบเจอกันครั้งแรกที่บ้านของอีริค ขณะที่พวกเขามีทำรายงานด้วยกันช่วงมัธยมปลาย เจนิสตามติดตามจีบเขาอย่างหน้ามึนดื้อรั้นแบบนี้อยู่ตลอด แถมนับวันยิ่งเอาแต่ใจมากขึ้น ใครห้ามก็ไม่ฟัง นิสัยตามประสาลูกคุณหนูที่มาจากครอบครัวตระกูลใหญ่ทรงอิทธิพล เนื่องจากทางบ้านของอีริคไม่ได้ทำแค่ธุรกิจการศึกษา แม่ของเขาเป็นอธิการบดีก็จริง แต่พ่อของเขานั้นเป็นถึงนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจค้าปลีกทั่วโลก ติดอันดับคนทรงอิทธิพลที่มีสินทรัพย์อันดับสามของเอเชีย และอันดับหนึ่งของประเทศ ในส่วนการค้าปลีก
“ว่าไง ตกลงอยากนอนกับเจนิสไหม” เสียงหวานยังคงถาม
“หยุดเล่นสักที”
“ก็ไม่ได้เล่นสักหน่อย เอาจริง”
“เฮ้อ ไปเรียนไป เรียนวันแรกไม่ใช่หรือไง ไหนว่ามีคลาสเช้า?” วินเซนต์เปลี่ยนเรื่องมองหน้าถามร่างเล็ก หญิงสาวที่ถูกถามไถ่ถึงการเรียนในช่วงเช้าที่เธอมาไม่ทันจึงชะงักเงียบไม่ตอบ
“มาไม่ทันสินะ”
“แหะ แต่อย่างน้อยก็มาทันคาบบ่ายนะ”
“งั้นก็ไปเรียน”
“…” เจนิสก็ยืนไม่ยอมทำตามที่อีกคนบอกพร้อมกับเอาแต่จ้องมองยังรุ่นพี่หนุ่มแววตาหวานซึ้ง จนวินเซนต์ต้องกดเสียงเข้มบอก
“ไป”
“ชิ! ก็ได้ แต่ว่า…”
ฟอดดด!~
เจ้าของใบหน้าเรียวสวยใช้จังหวะในตอนที่คนตัวสูงเผลอในการยื่นหน้าเข้าไปกดหอมเข้าที่แก้มหนาด้วยความรวดเร็ว
“เย้! มีกำลังใจแล้ว ไปละ” ว่าแล้ว หญิงสาวปีหนึ่งก็สาวเท้าเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี โดยมีสายตาของวินเซนต์ที่มองตามไปอย่างปลงชินไม่รู้จะทำยังไงกับลูกพี่ลูกน้องเพื่อนคนนี้ ขณะที่อีริคเองก็นั่งนิ่งไม่ได้สนใจอะไรมากนักกับท่าทีของลูกสาวอา จนเมื่อเสียงโทรศัพท์ราคาแพงดังขึ้น มือหนาจึงเอื้อมเข้าไปหยิบขึ้นมามองดู ก่อนจะลุกขึ้นจากที่โซฟา ทว่า…
“เฮ้ย แล้วคืนนี้ยังไง” วินเซนต์ถามขึ้น ทำให้คนที่ทำท่าจะสาวเท้าเดินออกไปเอ่ยบอก
“ร้านเดิม” พูดจบ ชายหนุ่มท่าทางคุณชายหน้านิ่งก็เดินออกจากห้องไป ส่งผลให้วินเซนต์หันไปมองหน้าถามยังเพื่อนอีกคนที่เอาแต่นั่งนิ่งเงียบอยู่
“แล้วมึงล่ะ?”
“อืม เจอที่นั่น” สิ้นเสียงทุ้มเรียบนิ่งตอบกลับ ไคลน์ก็ลุกขึ้นจากโซฟาราคาแพงสาวเท้าเดินออกจากห้องไปเช่นกันด้วยสีหน้าราบเรียบ ก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายออกไปทำธุระเพื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งที่ร้านเหล้าชื่อดังย่านทองหล่อที่ไม่ไกลจากคอนโดพวกเขามากนัก