“มึงไปยุ่งอะไรกับเขา พี่ชายมึงขับรถอย่างเดียวเขาก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ได้เงินมาเขาเอาไปใช้ผ่อนคลายสมองบ้างจะเป็นไร”
“แหม ทีพี่วา ทำงานมาได้เท่าไหร่จะเอาหมด รักลูกไม่เท่ากัน”
“อีวา มันลูกรักคนใหม่ของกูโว้ย มึงอย่าว่าพี่มึงให้ระคายหูกูเชียวนะ เมื่อเช้ามันเอาเงินให้กูตั้งห้าพัน จะมีลูกคนไหนประเสริฐได้ครึ่งลูกวาของกู”
พรรณีชะงักมองหน้าขยาดของลูกสาวคนเล็กอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“อยากเป็นลูกรักกูบ้าง รีบเรียนให้จบไปหาเงินให้กูสิโว้ย”
“วิวยอมเป็นลูกชังของแม่ดีกว่า กลัวไม่เหลือเงินซื้อครีมทาหน้าแบบพี่วา ขี่มอไซค์ตากแดดจนหน้าหมองกลัวจะโทรมจนไม่มีผัว!”
ฝีปากวรรณาแรงกล้า สมแล้วกับการเกิดมาเป็นลูกสาวของพรรณี แม่ยกมือค้างแกล้งจะตบอีกรอบ วรรณาหงายหน้าขึ้นสู้เพราะรู้ว่าแม่ไม่ตบจริง แค่บ่นเยอะกับติดการพนันลูกก็เอือมจะแย่ แม่จึงไม่เคยตบตีลูก
“หน้าวิวมีรอยนิดเดียว ระวังเถอะ พี่วาจะโกรธไม่ให้เงินเดือนแม่อีก”
“ไม่ให้ได้ไง ไม่ให้กูจะเอาไหนใช้ ห้าพันที่มันให้มาหมดแล้วเนี่ย”
“หมดแล้ว!”
วรรณาทำหน้าเหวอ เงินห้าพันบางคนใช้ทั้งครอบครัวได้เป็นเดือน แม่เล่นเสียวันเดียวหมดเลยงั้นเหรอ!
“แม่! ยังไม่ทันข้ามวันเลยนะ ถ้าพี่วารู้ พี่วาได้โกรธแม่จนไม่ให้เงินแม่อีกแน่เลย”
“มึงก็อย่าบอกพี่มึงสิ กูไม่ได้จะขอมันอีก กูรู้หรอกน่า ว่าเงินมันออกวันไหน กูรอขอวันนั้นก็ได้ เลิกบ่นแล้วถือกระติกน้ำตามกูมา อากาศร้อนฉิบหาย ตู้เย็นมี แม่งก็ไม่รู้จักกรอกน้ำไว้ กูไม่มีน้ำเย็นกิน ฮีทสโตรกจะกินหัวอยู่แล้ว”
พรรณีบ่นไปตามประสาคนพูดมาก ถลกผ้าถุงเดินลัดสวนมะม่วงไปทางหน้าบ้าน มรดกของสามีที่ตายจากเพราะเส้นเลือดในสมองแตก จากความเครียดสะสมที่เมียคอยแต่จะสร้างหนี้สร้างสินให้ครอบครัวไม่เลิก มีที่ดินตกทอดจากรุ่นปู่รุ่นย่ามากี่แปลงถูกขายนำเงินมาใช้หนี้ให้พรรณีหมดจนไม่เหลือสมบัติติดตัว ที่มีเหลือก็แค่ที่ดินที่ตั้งบ้านมีสวนมะม่วงสี่ห้าต้นให้พอได้เก็บไปขาย ติดกับคอกวัวนม มีอยู่สามตัวให้รีดนมตอนเช้ากับตอนบ่ายไปขายโรงงาน
พรรณีรีดนมวัว ขายมะม่วง ขายผักปลูกเอง พอมีรายได้เล็กๆ น้อยๆ ส่งลูกเรียน ใช้ชีวิตอย่างนี้มาเกือบสิบปีนับจากสามีเสียชีวิต มีลูกถึงสามคน ใช่ว่าจะพอมีพอกิน มีบ้างไปหยิบยืมจากเสี่ยกระเป๋าหนักเจ้าถิ่นโดยใช้โฉนดที่ดินบ้านไปจำนอง
ว่าแต่... วันนี้วันที่เท่าไหร่นะ พรรณีใช้สมองกับการคำนวณเลขในวงไพ่หมดแล้ว สมองว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออก เมื่อเดินพ้นสวนมะม่วงมาพบเจ้าหนี้อ้วนลงพุงที่มากับลูกน้อง
“สะ... เสี่ยไก่ มาถึงบ้านถึงเรือน สวัสดีค่ะ”
วันก่อนเสี่ยไก่ส่งลูกน้องมารอบหนึ่ง แต่พรรณีซ่อนในบ้านเป็นชั่วโมง ลูกน้องเสี่ยขี้เกียจรอจึงขับรถกลับไป
พรรณีหน้าเสีย เงินแค่สี่ซ้าห้าแสนไม่คิดว่าเสี่ยไก่ เจ้าของบ่อนไก่รายใหญ่ในหมวกเหล็กจะมาถึงบ้านหล่อนด้วยตัวเอง
“น้องวิว ไปเอาน้ำมาต้อนรับเสี่ย” พรรณีกวักมือเรียกลูกสาว
“น้ำค่ะเสี่ย” วรรณาพาซื่อ ยกให้เสี่ยไก่ไปทั้งกระติก
“สวัสดี เล่นซ่อนแอบเก่งนักนะพรรณี ลูกน้องเสี่ยมาตามกี่ครั้งก็ไม่เจอ หึหึ เอาไปเก็บไว้รถ” เสี่ยไก่ยึดกระติกน้ำ พรรณีเม้มปาก ยื่นมือออกไปตั้งท่าจะขอคืน แต่กำมือไว้ทัน และหันไปปั้นหน้ายิ้มให้เสี่ยสูงวัย เสียดายกระติกน้อยกว่าน้ำเย็นในนั้น เพิ่งเอาน้ำแข็งลง อดกินเลยเว้ย
“ไม่ได้ซ่อนค่ะเสี่ย ฉันเล่นไพ่ เอ๊ย รีดนมวัวอยู่หลังบ้าน ลูกน้องเสี่ยไม่เดินไปหาฉันตรงนั้น เรียกตรงนี้ ฉันไม่ได้ยินหรอกค่ะ”
“อย่ามาโกหก เหลือแค่พังประตูบ้านเธอเท่านั้นที่พวกมันยังไม่ทำ เพราะเสี่ยไม่ได้สั่ง หึหึหึ แต่ถ้ายังหลบหน้ากันอีก เธอเจอดีแน่!”
“ไม่กล้าหลบหน้าแล้วค่ะเสี่ย แต่... แต่ฉันยัง ยัง... ไม่เงิน”
“เงินต้นไม่เป็นไร แต่ดอกเบี้ยห้ามขาด ขาดเดือนไหน เสี่ยยึดวัวนมของเธอ! นี่ไง เห็นรถข้างหลังไหม พร้อมขนย้าย หึหึ” เสี่ยไก่ชี้นิ้วไปทางรถกระบะมีคอกที่จอดติดเครื่องยนต์ไว้ทางเข้าบ้าน
อีแต๋น อีแตน อีแต๋วลูกแม่! รีดนมได้สามตัวก็จะเอาไปหมดเลยเหรอ! พรรณีกับวรรณาหันมามองตาและส่ายหน้าให้กัน รีบขอร้องเสี่ย
“เอาวัวนมไปแล้วฉันจะมีรายได้จากไหน สงสารฉันกับลูกเถอะ”
“ไม่เอาไปเธอก็ไม่มีรายได้มาจ่ายหนี้เสี่ยอยู่ดีนะ พรรณี”
“ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้ เอาไปไม่ได้ เลยกำหนดจ่ายหนี้เสี่ยมาแล้วใช่ไหม เอาอย่างนี้ไหมเสี่ย ฉันดูละครมาเยอะ ถึงจะแก่ มีลูกสาม แต่ฉันยังสวยอยู่นะ เอาฉันไปขัดดอก ทำเมีย ถ้าเป็นเสี่ย ฉันโอเคเลยจ้า”
“แม่” วรรณาตกใจลักษณะการขยิบตาไปทางเสี่ยไก่ของแม่ “ไม่กลัวเขาตอบรับเหรอ เสี่ยไก่เขาแก่กว่าแม่เกือบยี่สิบปีเลยนะ!”
“เออน่า กูไม่ใช่คนสดคนซิงจะไปกลัวอะไรแค่แก่กว่ายี่สิบปี!”
“เสี่ย-ได้-ยิน”
เสี่ยไก่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ให้สองแม่ลูกวงแตกไปคนละฝั่ง ส่งยิ้มเป็นมิตรไปให้พรรณีที่พูดจาได้เข้าหู แต่ไม่ใช่มัน คนที่เสี่ยไก่ชอบคือนังหนูวา ลูกสาวคนรองของพรรณีต่างหาก เด็กสาวเรียบร้อย พูดน้อย อ่อนหวาน สมัยก่อนเสี่ยกับเมียไปแจกทุนการศึกษาให้โรงเรียนมัธยมบ่อยๆ นังหนูวาความพฤติดีได้รับทุนสม่ำเสมอ เห็นหน้าหลายครั้งนึกเอ็นดู พอเอ็นดูมากๆ ก็อยากเปิดเอ็นให้เด็กมันดู เพราะมีเหตุผลเบื้องลึกเบื้องหลัง ไม่ว่าพรรณีจะยืมเงินเท่าไหร่เสี่ยไก่ก็ให้ เงินต้นห้าแสน รู้เต็มอกดอกร้อยละ 30% พรรณีไม่มีปัญญาจ่าย เขาพอกพูนให้ยอดเงินสูงขึ้นเพื่อจะใช้เป็นยอดเงินหลอกๆ แทนค่าสินสอด
“เสี่ยไม่เอาพรรณีหรอก รุ่นนี้หนังเหนียวเคี้ยวยาก ไม่อร่อย แต่ถ้าเป็นลูกสาวของพรรณี เสี่ยพอจะใจดียกหนี้ทั้งหมดให้ได้อยู่นะ”
เสี่ยไก่ทำหน้าเจ้าชู้สำเพ็ง
วรรณาวิ่งไปซ่อนหลังพรรณี เสี่ยไก่รีบท้วง
“ไม่ใช่น้องวิว เสี่ยหมายถึงน้องวาต่างหาก”
“แม่!” วรรณาได้ยินชื่อพี่สาวดึงแขนแม่ แต่ถูกเอ็ดให้เงียบ
ถ้าเป็นวรรณา ต่อให้พรรณีอยากขายลูกแลกหนี้มากแค่ไหนแต่มันยังไม่จบชั้นมัธยมปลาย คงจะยกให้เสี่ยไม่ได้ จะบอกให้เสี่ยกลับมาขอใหม่หลังมันพ้น 18 แต่พอได้ยินว่าคนที่เสี่ยถูกตาต้องใจคือวริศราลูกสาวคนรอง พรรณีโล่งอก นังวามันโตแล้ว วัยเท่ามันจะมีผัวแม่ก็ไม่หวง
“แม่ห้ามตอบตกลงเชียวนะ ห่างสี่สิบกว่าปีเชียวนะแม่!”