“มิน่าอะไรคะ”
“ก็รู้เรื่องสเต๊กดีพอสมควรไงล่ะ ว่าแต่คุณแม่ให้ไปช่วยทำงานอะไรบ้าง”
“ก็หลักๆ จะเป็นงานเอกสารทั่วๆ ไปค่ะ”
“แล้วมันอะไรบ้างล่ะ ที่ว่าทั่วๆ ไป”
อ๋อ
ที่อยากจะกินข้าวด้วย เพราะอยากซักฟอกนี่เอง กลัวยัยแคระจะโกงคุณท่านหรือไงคะคุณปั่น
“ก็เก็บข้อมูลเครื่องประดับ อสังหาริมทรัพย์ เฟอร์นิเจอร์ของเก่าแก่ วิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อยของคนในบ้าน ระบบในบ้าน เรียนรู้งานที่ AV อย่างที่คุณเห็น แล้วก็ต้องทำ SR เพิ่มขึ้นมาอีกค่ะ”
“อือฮึ”
อาชาไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะสเต๊กตรงหน้าค่อนข้างถูกปาก แต่ไม่ได้ยกความดีให้คนทำหรอก นั่นเพราะเขาหิวแล้วก็น้ำเกรวี่ที่คุณน้าแรมทำไว้อร่อยอยู่แล้วต่างหาก
“อ้อ วันอาทิตย์เราจะไปดูที่กันนะคะ ฉันส่งไลน์ไปบอกคุณแล้วตั้งแต่ก่อนเที่ยง เห็นหรือยังคะ”
“อือฮึ”
“คุณสะดวกหรือเปล่าคะ”
“ใครไปบ้างล่ะ”
“คุณนิค คุณแท็ค คุณก้อย คุณลุงไกร แล้วก็คุณท่านค่ะ”
“คุณแม่ไปไหวเหรอ ไหนบอกว่าไม่สบายไง”
“เห็นว่าไหวนะคะ สรุปคุณไปมั้ยคะ”
“ขอเช็กคิวก่อน แล้วจะบอกทีหลัง แต่...ต่อให้ไม่มีฉัน งานก็เดินได้อยู่แล้วนี่ ฉันจะไปหรือไม่ไปก็ไม่เห็นจะสำคัญตรงไหนเลย เธอจะมาคาดคั้นทำไมล่ะ”
ไม่รู้จะแห่กันไปเป็นพรวนทำไม แล้วก็รู้แหละว่าแม่อยากดึงเขาไปใกล้ใคร เรื่องจะให้ช่วยดูแลหรือวิเคราะห์อะไรนั้น แม่คงไม่ได้ต้องการสักเท่าไหร่หรอก เพราะกรกนกคนเดียวแหละที่แม่อยากลากเขาไปแจมด้วย
“คุณท่านให้ถามค่ะ ฉันก็ทำตามหน้าที่ แต่ถ้าคุณไม่สะดวก ฉันก็จะไปเรียนท่านแบบนี้แล้วกันนะคะ”
หมั่นไส้จริงๆ คุยกันได้ดีไม่เกินสองนาที หันมากัดฉันอีกละ
อีคุมปั่นขี้แกล้ง อีคุมปั่นจอมเผด็จการ อีคุมปั่นใจร้าย
“เดี๋ยวให้คำตอบละกัน ว่าแต่เธอเห็นหรือยังล่ะ จุดอ่อน จุดแข็งในบ้านคุณแม่มีอะไรบ้าง”
อันที่จริง อาชามีคำตอบในใจแล้ว แค่อยากลองภูมิเลขาส่วนตัวของแม่เท่านั้น ว่าจะเก่งมากน้อยแค่ไหน
“ก็พอจะเห็นบ้างค่ะ”
“อะไรบ้างล่ะ”
คิดจะล้วงความลับจากฉันเหรอคะคุณปั่น ฝันไปเหอะ
“ขออนุญาตไม่ตอบนะคะ เป็นความลับระหว่างฉันกับคุณท่านเท่านั้นค่ะ”
“กล้ามีความลับกับฉันเหรอยัยแคระขี้ฟ้อง”
ริมฝีปากยกยิ้ม ส่วนมือก็ถือส้อมที่มีเนื้อชิ้นพอดีคำไว้ ตาก็จ้องคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง
“ไม่ได้เรียกว่าความลับค่ะ เรียกว่าจรรยาบรรณในการทำงานมากกว่า ก็นายจ้างไม่ให้เปิดเผย ฉันก็ต้องทำตามคำสั่งสิคะ หรือคุณชอบคะ ถ้าลูกจ้างเอาความลับไปขาย”
“ฉันไม่ใช่นายจ้างเธอหรือไง”
“ไม่ใช่ค่ะ”
“ฉันไม่ได้จ่ายเงินเดือนเธอหรือไง”
“จ่ายค่ะ แต่ไม่ใช่นายจ้าง”
“ไม่ใช่แล้วเรียกว่าอะไร”
“เรียกว่าจำใจต้องจ่ายค่ะ เพราะคุณท่านสั่ง คุณถึงต้องจ่าย ถ้าปกติ คิดเหรอคะว่าคุณจะให้ฉันเข้าไปยุ่งได้ หรือไม่จริงคะ”
“ปากดี เดี๋ยวจะจับจูบสั่งสอนสักวัน”
จ้างให้ก็ไม่กลัว แต่ที่ไม่พูดด้วย เพราะขี้เกียจเถียงต่างหาก กินดีกว่า
เหมือนอาชาเองก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้กลัว แต่ก็ไม่อยากทำให้บรรยากาศมื้ออาหารเสียไปมากกว่านี้ ลำพังถามนั่นนี่ ยัยแคระก็คงคิดว่าเขามาล้วงความลับจะแย่แล้วมั้ง
“อิ่ม อร่อย ขอบใจนะ ที่เลี้ยงมื้อเย็น รถฉันมาละ”
รักศิกาญจน์มองไปหน้าบ้าน ก็เห็นว่ารถจอดรอแล้วจริงๆ เลยไม่ท้วงติง หรือเสนอกาแฟสักแก้วให้เขา ก็อยากไล่ให้กลับตั้งแต่ชั่วโมงก่อนแล้วนี่นา
“แล้วคุณจะบอกฉันเมื่อไหร่คะ เรื่องวันอาทิตย์”
ก็ได้คำสั่งจากเจ้านายมา ว่าจะต้องหิ้วเขาไปด้วยให้ได้ และเดาว่าคงอยากให้เขากับกรกนกได้อยู่ใกล้กันบ่อยๆ เผื่อต่อมอยากสืบพันธุ์ของเขาจะทำงานขึ้นมาบ้าง หลานตัวน้อยๆ จะได้ออกมาวิ่งเล่นในบ้านเร็วๆ
“เธออยากให้ฉันไปจริงๆ เหรอ”
ย้ำถามขนาดนี้ มันต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ๆ
“ฉันเปล่าค่ะ แต่คุณท่านคงอยากให้คุณไปช่วยดูนั่นนี่ด้วยแน่ๆ ค่ะ” มือบางกำลังจะเปิดประตูให้เขา ยังกำลูกบิดค้างไว้ ตาก็จ้องเขาเพื่อยืนยันว่า
“ฉันนี่นะ อยากให้นายไป หึ”
เดินมาส่งเขาเกือบถึงประตูบ้านแล้ว
“เธอเลยต้องทำงานตามคำสั่งให้สำเร็จ เร๊อะ”
“ค่ะ”
“งั้นก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนสิ”
“อะไรคะ”
“หลับตาสิ”
“ฮึ! ต้องหลับด้วยเหรอคะ”
“อยากได้คำตอบหรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่ ฉันจะได้กลับ” คนตัวใหญ่เดินไปยืนจนชิดประตู
“เอาไง หลับหรือไม่หลับ” เห็นยัยแคระยืนคิดหนักอยู่ เลยต้องกดดันนิสสสหนึ่ง
“ก็ได้ค่ะ”
คนอยากช่วยให้งานเจ้านายผ่านไปด้วยดี เลยรีบหลับตา ในใจก็คิดไปด้วยว่า อย่างมากก็คงถูกเขกกระบาลเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้นแหละ ก็นั่นมันนิสัยเสียๆ ของเฮียแกนี่
ซู๊ดดดด
แต่...เปล่าเลย...
เพราะตัวผอมๆ บางๆ ถูกเขาคว้าเข้าไปหาแผงอก แก้มป่องๆ นุ่มๆ ถูกเขาฉกลงมาหอมฟอดใหญ่ หัวใจแทบจะร่วงไปหาพื้น แม้จะจำได้ว่าเมื่อก่อนเคยถูกเขาหอมบ้าง
แต่นั่นมันตอนฉันเป็นเด็กหรือเปล่าวะ
นี่ฉันโตเป็นสาว แล้วก็สวยแล้วนะเว้ย (หลงตัวเองระดับร้อยเต็มสิบ)
“อีคุณปั่น!!!”
เลยส่งหน้างอๆ ใส่เขา มือบางก็ลูบแก้มเบาๆ ผิวขาวๆ ก็เปลี่ยนเป็นแดงราวกับลูกพีช ตาก็จ้องเขอย่างเอาเรื่อง จะไม่ให้เคืองได้ยังไง
นายมีสิทธิ์อะไรมาหอมแก้มชั๊นวะ
“ทำไม ไม่เคยถูกฉันหอมหรือไง”
“ไม่เคย”
“โกหก เมื่อก่อนฉันหอมแก้มเธอออกบ่อยไป ทำเป็นลืมหรือไง”
“ก็ตอนนั้นฉันเด็กนี่”
“แล้วไงล่ะ”
“ก็ตอนนี้ฉันโตแล้วนะ”
“อื๊ม...โตจริงๆ แหละ” ตาคมจ้องมองก้อนโตๆ ตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำเอาสองมือบางต้องรีบยกขึ้นมาปิดไว้อย่างหวงแหน ในใจก็อยากจะยิงอีคุมปั่นทิ้งตรงนี้เล๊ย
“เชื่อแหละว่าโตละ ไม่ต้องย้ำบ่อยๆ ร๊อก ไปละ ฝันดี”
คนขโมยหอมรีบโกยแนบออกประตูไปหารถหรูที่สิรภพจอดรออยู่ ทิ้งให้เจ้าของบ้านยืนมองด้วยสายตาอาฆาตมาดร้าย
“เมื่อไหร่นายจะเลิกแกล้งฉันสักทีนะอีคุมปั่น อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกัน จะเล่นคืนให้หนักสักร้อยเท่าเล๊ย”