EP 17

1233 คำ
เพราะเป็นเรื่องถนัดสุดแล้ว ก็ตอนเรียนอยู่อังกฤษไปทำงานพาร์ตไทม์ที่นั่น ได้ความรู้มาบ้าง ส่วนอาหารไทย เป็นที่รู้กันว่าทำในหอพักนักเรียนก็จะเป็นการทำกินแบบกันตายมากกว่า เครื่องปรุง เครื่องเทศอันไหนไม่มีหรือแพงเว่อร์ ก็จะปรับเปลี่ยนไปหาของถูกๆ ทดแทนกัน ต่อให้คุณท่านบอกให้ใช้เงินแบบตามสบายยังไง เธอก็ไม่อยากใช้เยอะอยู่ดี เดี๋ยวตอนใช้คืนจะหน้ามืด “ดี” “แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนะคะ” “ถ้างั้นก็ไวน์แดงมาให้ฉันดื่มรอแล้วกัน” “ค่ะ” จริงๆ ก็ไม่ได้อยากเปลี่ยนชุดสักนิด แค่อยากโทรหาแม่มากกว่า “คุณแม่ลืม ว่าเย็นนี้เป็นรอบต้องไปกินข้าวกับเด็กๆ จ้ะ ถ้าน้องรักกลัวทำไม่อร่อย ก็สั่งร้านประจำเราสิจ๊ะ” “ถ้านายนะ...เอ่อ ถ้าคุณปั่นของคุณแม่ยอมให้สั่งก็ดีสิคะ แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวน้องรักจัดการเอง ยากอะไร ก็แค่สเต๊ก แล้วเจอกันนะคะคุณแม่” วางสายแล้วก็รีบเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ คือกางเกงขากระบอกสีเขียวมะกอก กับเสื้อยืดพอดีตัวสีขาว เห็นแขกนั่งจ้องมือถือ ตรงหน้ามีไวน์พร่องจากขวดไปไม่เท่าไหร่ เลยรีบเข้าครัว “รีบทำให้กิน จะได้รีบกลับ จะได้ไปดูรถบ้าง ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเลย” “ฉันต้องซื้อยาแก้ท้องเสียมารอมั้ยยัยแคระ” คนกำลังง่วนอยู่หน้าตู้แช่เพื่อหาของ ถึงกับหันไปมองตาขวางทันที “ถ้ากลัวก็กลับไปกินบ้านมั้ยล่ะคะ ฉันสั่งร้านให้เองและก็จ่ายเองด้วยยังได้นะคะ” “ความจำสั้นหรือไง บอกแล้วว่าเบื่ออาหารร้าน รีบๆ ทำเข้า ฉันหิว” ดุเจ้าของบ้านเสร็จ ก็เดินไปดูตู้โชว์ทันที เพราะบ้านนี้ได้ยินแว่วๆ มานานแล้ว ว่าแม่ของเขาออกเงินให้ก่อน ให้สองแม่ลูกผ่อนทีหลัง รถก็คงจะเหมือนกันล่ะมั้ง “คุณชอบกินระดับไหนคะ” รักศิกาญจน์ได้ของที่ต้องการมาวางบนเคาน์เตอร์แล้ว ขณะหมักเนื้อ ก็หันไปหาเขาที่กำลังมองดูรูปในตู้โชว์ “ก็...ถ้าแค่กินชั่วครั้งชั่วคราว ขาว สวย หมวย อึ๋ม สูง ยาว เข่าดี แต่ถ้าคบยาวหน่อย ต้องดูนิสัยใจคอประกอบด้วย เธอถามทำไม หรืออยากให้ฉันรับเธอไว้พิจารณาว่าจะกินลงหรือเปล่า” เห็นเขาเงยหน้ามาหา มือข้างหนึ่งมีแก้วไวน์ อีกข้าง มีกรอบรูปเธอกับแม่ถ่ายคู่กัน “ฉันหมายถึงสเต๊กค่ะ คุณชอบกินความสุกระดับไหน” “ก็ไม่บอกให้ละเอียด ฉันก็นึกว่าเธออยากจะเข้าคิวรอให้ฉันกินอีกคนซะอีก” “สรุปสุกระดับไหนคะ เนื้อสุกนะคะ ไม่ใช่เนื้อสด” “ขอเป็น Medium Rare ละกัน เอาแบบตามนี้เป๊ะๆ ด้วยนะ ห้ามเกินไปกว่านั้น ไม่งั้นเธอต้องทำใหม่ให้ฉัน” “เจ้าค่ะ” ถึงอยากจะบอกว่าไม่ให้ยุ่งกับข้าวของยังไง ก็คงบอกไม่ได้ เลยเปลี่ยนใจหันไปวอร์มเตาอบไว้ แล้วรีบหันกลับไปหามันฝรั่งทันที เพราะใช้เวลาค่อนข้างนาน ไหนจะต้องหั่นผักแล้วเอาไปย่างในกระทะอีก “เธอจะใช้น้ำมันอะไรทอดเฟรนช์ฟรายส์ บอกไว้ก่อนนะ ว่าถ้าใช้พวกไขมันทรานส์ เธอจะต้องออกไปซื้อน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวมาก่อน ไม่งั้นฉันไม่กิน” ก็อย่ากินสิอีคุมปั่น เรื่องเยอะนักก็ “ว่าไง ใช้น้ำมันอะไร” “มะพร้าวกับมะกอกค๊า” หมั่นไส้คนเอาแต่สั่งสุดๆ นี่ไม่คิดจะมาช่วยกันเลยหรือไงนะ “แล้วไป ว่าแต่จะทำเฟรนช์ฟรายส์หรือ...” “Scalloped Hasselback Potatoes ค่ะ เฟรนช์ฟรายส์ยุ่งยาก กว่าจะได้กิน เดี๋ยวคุณหิวจนเป็นลมก่อน” จริงๆ กลัวตัวเองจะเป็นลมมากกว่า เพราะขั้นตอนเยอะ คนเดียวหมุนหน้าหมุนหลัง มีหวังลมจับแน่ๆ หวังให้อีคุมปั่นมาช่วยน่ะเร๊อะ ยากส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์ “อย่ามาอ้างว่ากลัวฉันจะเป็นลมเลย ขี้เกียจทำก็บอกมาดีๆ คิดเหรอว่าฉันไม่รู้” เกลียดจริงๆ พวกไม่ทำแต่ดันรู้ทุกเรื่องเนี่ย “เปล่าขี้เกียจนะคะ ฉันเห็นว่าคุณเป็นสาย Healthy ก็เลยไม่อยากทำพวก Deef Fries ให้กินสักเท่าไหร่แค่นั้นเอง หรือจะเฟรนช์ฟรายส์ล่ะคะ ฉันจะได้เปลี่ยน” อย่าเปลี่ยนเลยนะอีคุมปั่น ฉันเหนื่อย “เอาที่เธอถนัดละกัน เดี๋ยวกินไม่อร่อย” เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย “แล้วจะให้ทำเผื่อคุณระด้วยมั้ยคะ” “ไม่ต้องหรอก ไอ้ระไม่กล้ามาเสี่ยงกับเธอหรอก จะมีก็แค่ฉันนี่ล่ะ สงสัยต้องไลน์ให้มันหายาไว้รอละ” กลัวท้องเสียนัก ก็อย่ากินสิคะอิคุมปั่น หมั่นไส้รอบสองละนะ หรือจะรอบสามวะ ชั่วโมงกว่าๆ บนโต๊ะอาหาร รักศิกาญจน์ก็จัดแจงจนพร้อมเสิร์ฟแล้ว เลยรีบเรียกเขาด้วยความดีใจไม่น้อย ที่จะได้ให้รีบกินแล้วรีบกลับ “เสร็จแล้วค่ะ” นี่ขนาดทำสเต๊กที่ว่าง่ายๆ แล้วนะ ยังยุ่งยากแล้วก็นานเลย คิดถึงเมนูอาหารไทยไม่ออกเลยจริงๆ ว่าควรจะทำอะไร แต่จริงๆ น่าทำกะเพราราดข้าวให้กินเหมือนกันนะ ขี้แกล้งอย่างนี้ น่าจะแกล้งกลับด้วยการใส่พริกสักห้าสิบเม็ดเลย “หน้าตาดีนี่ แต่ไม่รู้กินแล้วท้องจะเสียหรือเปล่า” “รู้ว่าเสี่ยง แต่ก็ยังอยากขอลองเหรอคะ” “กลัวอะไร โรงพยาบาลเยอะแยะ แล้วฉันจะได้เทสดูด้วย ว่ายัยแคระขี้ฟ้องทำอาหารเป็นแล้ว เมื่อก่อนไม่เห็นอำอะไรเป็นสักอย่าง ยกเว้นคอยวิ่งไปฟ้องคุณแม่” “ก็ถ้าคุณไม่แกล้ง แล้วฉันจะฟ้องเหรอคะ” “อื๊ม! น้ำเกรวี่ใช้ได้นี่ ทำเองเหรอ” รู้แหละว่าตัวเองน่ะผิด เลยไม่อยากเถียง แต่รีบสำรวจจานสเต๊กตรงหน้าก่อน ดูจากโหงวเฮ้งแล้ว ก็น่าเสี่ยงสักหน่อยอยู่นะ “เปล่าค่ะ คุณแม่ทำไว้ก่อนหน้าแล้วค่ะ” อาชาดีใจที่อีกฝ่ายตอบตามตรง เพราะถ้าทำเองก็เทพเกินละ เวลาแค่ชั่วโมงกว่าๆ เองนี่นา “ก็ยังดีที่ไม่อวดว่าตัวเองทำ” “ฉันไม่ใช่คนชอบอวดค่ะ” รักศิกาญจน์อดส่งเสียงห้วนๆ ให้ไม่ได้ อุตส่าห์ตั้งใจทำสุดฝีมือแล้ว ยังจะมาค่อนขอดอีก น่าไล่กลับนัก “รสชาติดีนี่ Medium Rare อย่างที่บอกไว้ แปลว่าเธอคุ้นกับอาหารพวกนี้ดี” “ฉันทำพาร์ตไทม์ที่ร้านสเต๊ก ตอนเรียนอยู่อังกฤษค่ะ เผื่อคุณไม่รู้” ฉันไม่ได้ใช้เงินทุนคุณท่านแบบล้างผลาญนะยะ รู้จักหางานพิเศษทำย่ะ กันไม่ให้นายเอามาประชดทีหลังไงยะ “มิน่าล่ะ” ดวงตาคมส่งแววเย้าแหย่นิดๆ ประชดหน่อยๆ แต่ก็แฝงความชื่นชมอยู่ในนั้นบ้าง เพราะอย่างน้อย ยัยแคระก็ไม่ได้ตั้งท่ารอใช้เงินแม่ของเขาฝ่ายเดียว ยังรู้จักทำงานเสริมบ้าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม