บทที่ 7 คำตอบที่น่าผิดหวัง

1349 คำ
บทที่ 7 คำตอบที่น่าผิดหวัง เวลา 10.30 น. หมิงเผิงขับรถซีดานสีบรอนซ์เงินคันหรู ปราดแล่นเข้ามาจอดยังฟ็อกซี่บาร์ สถานบันเทิงเป็นทั้งผับ คาสิโน ตลอดจนให้บริการเป็นโรงแรมให้เช่าค้างคืนชั่วคราว ทันทีที่สองเท้าหนาก้าวเข้าสู่บริเวณฟ็อกซี่บาร์ พนักงานแผนกต้อนรับ รีบเดินเข้ามาขวางทางเอาไว้ทันที เนื่องจากสถานบันเทิงยังไม่เปิดให้บริการ “เอ่อ คุณลูกค้าคะ ตอนนี้ร้านของเรายังไม่เปิดค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระหรือมาจองโต๊ะ จองห้องล่วงหน้าไหมคะ” “ไม่ครับ ผมมาหาเจ้าของร้าน” “เจ้หยาดน่ะเหรอคะ” พนักงานหญิงทวนถาม โดยที่ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นแขก VIP “แล้วที่นี่มีผู้จัดการกี่คนล่ะครับ” หมิงเผิงถามกลับด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ ทำเอาพนักงานหญิงหน้าเจื่อนไปชั่วขณะ น้ำเสียงเยือกเย็นจนน่าขนลุก ขัดกับใบหน้าหล่อ ๆ นั่น “มีคนเดียวค่ะ เจ้อยู่ทางด้านใน ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ ฉันจะได้ไปแจ้งเจ้หยาดให้” ทางด้านหมิงเผิงคร้านที่จะตอบคำถามจึงหยิบบัตรที่ร้านให้ไว้ยื่นให้กับพนักงาน “ค่ะ คุณคือแขกคนสำคัญของร้าน ถ้าอย่างนั้นเชิญทาง นี้ค่ะ ฉันจะพาไปหาเจ้หยาดเอง” พนักงานพูดเสียงอ่อน ก่อนจะโค้งศีรษะเล็กน้อย พร้อมกับผายมือเชิญให้ชายหนุ่มตามเธอไป แอด... พนักงานหญิงเคาะประตูสองครั้ง ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไปหาผู้จัดการร้าน ตอนนี้กำลังนั่งทำงาน จมอยู่กับกองเอกสารรายรับ รายจ่ายของร้าน “มีอะไรอย่างนั้นเหรอเกล” เสียงเข้ม ๆ ของเจ้หยาดพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง “มีคนมาหาค่ะ” “ใครงั้นหรือ” เจ้ถามก่อนจะวางปากกาในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมา “ผมเองครับ” “อ้าว คุณหมิงเผิง นึกยังไงมาที่นี่ ตั้งแต่ยังไม่ค่ำมืดคะเนี่ย หรือว่ามาหาเจ้เอ่ย” เจ้หยาดพูดจีบปากจีบคอ พลางยกนิ้วยาวมาทัดหู โดยปกติผู้จัดการร้านมักจะหยอกล้อกับหมิงเผิงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตัว ชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ถือสาอะไร “มีเรื่องจะสอบถามนิดหน่อยครับ” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลา พูดเข้าประเด็นด้วยเสียงเรียบนิ่ง “ถ้าอย่างนั้นนั่งโซฟาก่อนสิคะ” เจ้พูดก่อนจะหันไปบอกลูกน้องว่า “เกลไปเอาน้ำมาให้คุณหมิงเผิงหน่อยสิ” “ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ไม่นาน ไม่ต้องการ” คุณชายตระกูลดัง ปฏิเสธทันควัน เขามาที่นี่ไม่ได้ต้องการอยู่นาน เพราะมีเอกสารที่บริษัทต้องทำความเข้าใจอีกเยอะ ไม่รอช้า ร่างสูงโปร่งที่มีหุ่นราวกับนายแบบหลุดออกมาจาก ปกนิตยาสาร ได้เข้ามานั่งโซฟาในห้องทำงานของเจ้หยาด โดยมีผู้จัดการร้านเดินมานั่งตรงข้ามเช่นกัน “ค่ะ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอคะ” “ผู้หญิงวันนั้นที่นอนกับผมคือใครครับ” “ทำไมเหรอคะเด็กเจ้บริการไม่ดีหรือว่าอะไร” ผู้จัดการร้านเอ่ยปากถาม เพราะโดยปกติแล้วชายตรงหน้าไม่เคยเอ่ยถึงใคร “เปล่าครับ ผมแค่อยากรู้ อีกอย่างคืนนั้นผู้หญิงคนนั้นยังบริสุทธิ์ ผมแค่จะรับผิดชอบและให้เงินเธอเยอะหน่อย” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด เขาจะไม่ยอมให้ใครรู้เด็ดขาดว่าลูกชายคนเดียวของตระกูลไพศาล จะไม่สามารถมีทายาทได้อีก “อะไรนะคะ เดี๋ยวนะ หญิงสาวบริสุทธิ์งั้นเหรอ เจ้งงไปหมดแล้ว วันนั้นเจ้ส่งน้องโบตั๋นไปนี่นา ไม่มีทางที่จะเป็นสาวบริสุทธิ์ได้ งั้นสักครู่นะคะ” เจ้หยาดร่ายยาวเหยียด ก่อนจะขอออกไปโทรถามเด็กที่ให้บริการชายหนุ่มตรงหน้าในคืนวันนั้น เพื่อความแน่ใจ ผู้จัดการร้านขอตัวออกไปโทรศัพท์มือถือเพียงชั่วครู่ สักพักก็กลับมาด้วยสีหน้าที่เริ่มกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะโบตั๋นได้บอกกับเจ้หยาดว่า คืนวันนั้นตนได้ไปยังห้องที่เจ้ได้บอกไว้ตามเวลาเป๊ะ ๆ ทว่าเมื่อจะเปิดประตูเข้าไปพบว่าด้านในถูกล๊อคเอาไว้ ซึ่งเจ้หยาดพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ รวมถึงเรื่องที่น้ำค้างได้เล่าให้ฟัง ก็รู้ได้ในทันทีว่าสาวบริสุทธิ์ที่หมิงเผิงได้เอ่ยถึงคือ น้ำค้าง พนักงานสาวที่น่าสงสารคนนั้น “เจ้พอจะรู้แล้วค่ะ ว่าคนที่นอนกับคุณหมิงเผิงคือใคร” “ใครครับ” “คือเจ้เองค่ะ ได้โปรดรับผิดชอบเจ้ด้วยนะคะ” เจ้หยาดพูดจีบปากจีบคอ พร้อมกับอ้าแขนรอให้คนตรงหน้ามาสวมกอด “...!!” คุณชายตระกูลดังที่ได้ยินประโยคนั้น ถึงกับพูดไม่ออกได้แต่ปั้นหน้าตึงใส่เจ้ในร่างชายกำยำนั่น “เจ้ล้อเล่นค่ะ แหม คุณหมิงเผิงอย่าซีเรียสสิคะ” “คำตอบผมล่ะครับ” ชายหนุ่มเร่งเร้าคนตรงหน้า เนื่องจากมันกินเวลาทำงานเขามามากแล้ว “เด็กคนนั้นชื่อน้ำค้างค่ะ วันนั้นน้ำค้างถูกวางยา เดินเข้าห้องผิด ไปหาคุณแหละค่ะ จะเชื่อหรือไม่แล้วแต่คุณนะคะ แต่เด็กคนนั้นไม่ได้ขายบริการ” ครั้งนี้เจ้หยาดพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ยืนยันว่าน้ำค้างไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น หากคนตรงหน้าสนใจ เผลอ ๆ อาจจะคิดแต่งงานกับน้ำค้างไปด้วย อีกอย่างน้ำค้างเป็นเด็กกตัญญู หากเธอได้ดี ก็ไม่มีทางที่จะลืมเจ้หยาด การที่พูดความจริงออกไป มันมีแต่ผลดีทั้งต่อตัวเองและเด็กสาวคนนั้นด้วย “เด็กคนนั้นอยู่ไหนครับ” “ลาออกไปแล้วค่ะ เมื่อวานนี้เอง” “อะไรนะครับ เหตุผลที่ลาออกคืออะไร” “เห็นบอกว่าท้องค่ะ จะไปหางานใหม่ทำ” “ท้องเหรอครับ” “ค่ะ เมื่อวานยังมานั่งตรวจครรภ์กับเจ้อยู่เลย ที่ตรวจสองอัน ผลเป็นบวกทั้งคู่” “บ้านเธออยู่ที่ไหนครับ” “ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ เจ้ไม่เคยไปเยี่ยมเลยค่ะ” “มีเบอร์โทรไหมครับ” “มีนะคะ นี่ค่ะแต่ไม่รู้ว่าจะรับไหม ลองโทรดูค่ะ” เจ้หยาดพูดแล้วยื่นกระดาษที่เขียนเบอร์โทรศัพท์มือถือของน้ำค้างเอาไว้ “ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว” ชายหนุ่มรับกระดาษจากมือผู้จัดการร้าน ไม่รอช้ารีบลุกออกไป หลังจากที่เสร็จธุระแล้ว เมื่อถึงรถซีดานสีบรอนซ์เงินคันหรู หมิงเผิงก็กดโทรหาน้ำค้างในทันที ทว่าคนปลายสายไม่รับสายแต่อย่างใด อีกด้านของยี่หวา ~ ครืด ครืด ~ เสียงโทรศัพท์ของยี่หวากำลังส่งเสียงสั่น ก่อนที่จะมาทำงานหญิงสาวได้ส่งคนไปดูหมิงเผิงว่าเขาไปที่ไหน ทำไมถึงดูร้อนรนแปลก ๆ จนการรอคอยได้มาถึง เธอจะได้รู้เสียทีว่าคนที่เธอรักไปไหน แล้วทำอะไรอยู่ “ฮัลโหลพูดมา” เสียงหวานออกคำสั่งกร้าวกับลูกน้องที่ว่าจ้างไปสังเกตการณ์ ให้พูดเข้าประเด็นทันที [ครับ คุณหมิงเผิงไปที่ฟ็อกซี่บาร์ ไปหาคน ๆ หนึ่งซึ่งผมไม่ทราบว่าเป็นใคร เหมือนตามหาผู้หญิงคนหนึ่งครับ ชื่อน้ำค้าง] “โอเค แล้วพี่เขามีท่าทีอะไรบ้างไหม” [มีกดโทรหา เหมือนกังวลใจอยู่ครับ] “ตามสืบต่อไป ว่าเรื่องอะไรกันแน่” เรียวปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดพูด ก่อนจะกดตัดสายไป จากนั้นพึมพำเบา ๆ ออกมาว่า “น้ำค้างงั้นเหรอ หวังว่ายัยนี่จะไม่มาเป็นมารหัวใจของฉันนะ” ยี่หวาพูดด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง เมื่อครู่ที่ยังอารมณ์ดีอยู่ เปลี่ยนเป็นหงุดหงิดในระยะเวลาเพียงชั่วพริบตา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม