เลขาฯ คนใหม่

1605 คำ
รถยุโรปคันหรูจอดเทียบที่บริษัทของปริญ เมื่อรถหยุดอยู่กับที่ลูกน้องที่ยืนอยู่ก็รีบเดินมาเปิดประตูให้เขาทันที พนักงานที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันก้มหัวโค้งคำนับ เขาพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปด้านในโดยไม่ได้มองผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียว นิ้วเรียวกดปุ่มลิฟต์สำหรับผู้บริหาร เมื่อประตูลิฟต์ถูกเปิดออกเขาก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านในทันทีพร้อมกับลูกน้องคนสนิท ลิฟต์เลื่อนขึ้นมาถึงชั้นสูงสุด ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก เขาก็เดินก้าวขาออกมาด้านนอกทันที ก่อนเข้าห้องไปเขาเหลือบไปมองโต๊ะทำงานของเลขาฯ สาวจอมเฉิ่มที่เคยนั่งอยู่ประจำ ก็อดคิดถึงไม่ได้และคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงกับเธอต่อดี กายสูงเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ ปริญหย่อนก้นนั่งลงแล้วเอาหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงาน ก่อนที่จะหันหน้าออกไปทางด้านนอกกระจกบานใส มองออกไปอย่างไร้จุดหมายราวกับว่ามีเรื่องให้คิดหนัก “หาเลขาฯ ใหม่ให้กูด้วย” เขาเอ่ยขึ้นกับเพทายลูกน้องมือขวา “แล้วคุณกชมนล่ะครับนาย” “กูจะให้ลายาวจนกว่ากูจะแน่ใจว่าเธอไม่คิดเอาเรื่องของกูไปบอกตำรวจ” “แล้วนายจะเชื่อใจได้ยังไง?” “............” คำถามนี้ทำให้ปริญนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ใช่เขาจะเชื่อใจเธอได้อย่างไรว่ากชมนจะไม่เอาเรื่องของเขาไปบอกตำรวจถ้าเกิดเขาปล่อยตัวเธอมาแล้ว ถึงแม้ว่าปริญจะมีเส้นสายใหญ่โตคอยหนุนหลังอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีตำรวจน้ำดีบางคนคอยจ้องเล่นงานเขาอยู่เหมือนกัน งานนี้เขาเลยไม่อยากที่จะเสี่ยงให้มากนัก แต่จะให้เขาฆ่ากชมนเลยคงจะใจร้ายเกินไป เขาก็เป็นคนคนหนึ่งที่มีหัวใจ ไม่ใช่คนเลวทรามต่ำช้าอะไรขนาดนั้น “กูมีวิธีของกูก็แล้วกัน มึงไปทำตามที่กูสั่งก็พอ” ปริญเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกจ้องมองไปตรงหน้าอย่างยากที่จะคาดเดา “ครับ งั้นเดี๋ยวผมให้คนคัดเลขาฯ ดีๆ มาให้นายนะครับ” “อืม...ไปได้แล้ว” สิ้นคำสั่งเพทายก็โค้งตัวให้ปริญแล้วหันหลังเดินออกไปจากห้องทันที เขานั่งอยู่สักพักก็หันกลับมาโฟกัสกับเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้า ค่อยๆ อ่านมันทีละแฟ้มอย่างละเอียดก่อนที่จะเซ็นอนุมัติ ปริญเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบมาก ผิดนิดเดียวก็ไม่ได้ แถมยังเนี้ยบจัด เรื่องความดุเป็นที่หนึ่ง จึงไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าหาประธานคนนี้เท่าไรนัก ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูจากด้านนอกดังขึ้น ปริญที่กำลังนั่งทำงานอยู่ละสายตาขึ้นมาก่อนที่จะอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามาด้านใน ผู้หญิงสาวสวยรูปร่างเพรียวบางราวกับนางแบบ อกเป็นอก นมเป็นม เอวคอดกิ่วรับกับสะโพกที่ผึ่งผายได้รูป ยืนยิ้มช้อนสายตามองเขาอย่างหยาดเยิ้ม หล่อนมาพร้อมกับเพทาย “นี่ครับเลขาฯ ใหม่ของนาย” ปริญไล่สายตามองผู้หญิงสวยที่อยู่ตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พลางทำสีหน้าเย็นชาเรียบเฉยไม่ได้ยิ้มตอบกลับหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว “นี่มาทำงานหรือมาทำอะไร ชุดบ้าอะไรของเธอเนี่ย” พาขวัญหน้าเจื่อนทันทีที่ได้ยินผู้ชายที่ตัวเองต้องการจะอ่อยพูดขึ้นแบบนี้ หล่อนนึกว่าเขาจะชอบซะอีก “ผมยืมตัวมาจากแผนกการเงินชั่วคราวครับ” “อืม...แน่ใจนะว่าทำงานกับฉันได้” ปริญเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้ม สายตายังคงมองยิ่งสาวด้วยความขัดใจกับกิริยาท่าทางที่หล่อนมีต่อเขา แต่ก็ทำยังไงได้ในเมื่อไม่มีใครทำงานให้เขาก็ต้องเอาคนนี้ไปก่อน “ไปหาโต๊ะมาให้เธอ ห้ามใช้โต๊ะของกชมน” “เธอมาเป็นเลขาฯ ฉันแค่ชั่วคราวเท่านั้นเข้าใจไหม” “ค่ะ” พาขวัญก้มหน้าหลุบต่ำ เมื่อได้ยินเสียงก้องกังวานของชายหนุ่ม ที่แลดูไม่ค่อยสบอารมณ์ในตัวเธอสักเท่าไร แอบรู้สึกไม่พอใจกับคำว่าเลขาฯ ชั่วคราว หล่อนอยากที่จะเป็นเลขาฯ ของเขาตลอดไปต่างหากล่ะ “ไปทำงานสิมัวรออะไร” “ค่ะท่านประธาน” พาขวัญรีบหันหลังแล้วเดินออกมาจากห้องปริญทันทีเมื่อถูกเขาไล่ออกมา “คอยดูเถอะ...ถ้าได้ขึ้นเตียงกับฉันเมื่อไร จะเอาให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลย ชิ!!” หล่อนเอ่ยพึมพำอยู่คนเดียว แต่คำพูดนั้นดันลอยไปเข้าหูของเพทายที่เดินออกมาจากห้องพอดิบพอดี “คิดจะทำอะไร ผมเตือนด้วยความหวังดี อย่ายุ่งกับนายดีกว่า อย่าหาเรื่องใส่ตัว” เพทายกระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ มองพาขวัญตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พลางคิดในใจว่าเลือกเลขาฯ ให้เจ้านายผิดคนรึเปล่าเนี่ย แอร๊ดดดดด~~ เสียงประตูเปิดออกไร้การเคาะเพื่อขออนุญาต พาขวัญเดินเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟ หล่อนค่อยๆ วางกาแฟไว้ที่โต๊ะทำงานของปริญ แล้วเดินไปทางด้านหลังของปริญ มือเล็กถือวิสาสะจับที่บ่าแกร่งนวดเบาๆ เพื่อหวังให้ปริญผ่อนคลาย “เดี๋ยวขวัญนวดให้นะคะ จะได้ผ่อนคลาย” หญิงสาวยื่นหน้ามากระซิบข้างๆ กกหูของปริญ ตอนนี้มือเขากำปากกาแท่งหรูจนเห็นเส้นเลือดปูดนูน ปริญวางปากกาลงแล้วหันหน้าไปทางหล่อน มือหนายกขึ้นมาบีบเข้าที่คอระหงอย่างแรงจนหน้าหล่อนแดงก่ำ พาขวัญพยายามแกะมือใหญ่ที่กำต้นคอของตัวเองเอาไว้ออกแต่พยายามเท่าไรก็ไร้ผล ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของหล่อนกำลังจะหมดลง ปริญจึงคลายมือออกเพื่อปลดปล่อยหล่อนจากพันธนาการ หญิงสาวรีบเอามือจับคอตัวเองอย่างไว หน้าตาหล่อนตอนนี้แดงก่ำไปหมด แคร่ก แคร่ก แคร่ก “มือไม่มีรึไงทำไมไม่เคาะประตู แล้วฉันบอกเธอรึยังว่าให้มานวดให้ฉัน” “ออกไป!!” คนตัวเล็กรีบลนลานวิ่งออกไปจากห้องทำงานของปริญทันที หล่อนไม่คิดว่าเจ้านายตัวเองจะเป็นคนโมโหร้ายได้ขนาดนี้ แต่พาขวัญก็ยังไม่ละความพยายามง่ายๆ แน่ ถ้ายังไม่ได้ตัวปริญมาครอบครอง ในเมื่อหล่อนมีโอกาสได้มานั่งเป็นถึงเลขาฯ ของท่านประธาน หล่อนจะต้องใช้โอกาสนี้จับเขาให้อยู่หมัดให้ได้แน่นอน “ไอ้บ้าเอ๊ย เล่นซะเกือบตาย คอยดูเถอะคนอย่างอีพาขวัญไม่หยุดแค่นี้แน่” หล่อนเดินไปกระแทกก้นลงที่เก้าอี้ทำงานตัวนิ่มอย่างแรง การทำงานวันๆ หนึ่งของเลขาฯ คนใหม่ ไม่ได้ช่วยให้ปริญทำงานได้อย่างราบรื่นเลยแม้แต่น้อย กับสร้างปัญหาให้เขาเพิ่มอีก เอกสารบางอย่างที่จะต้องตรวจเช็คให้ละเอียดก่อนที่จะส่งมาให้เขาอนุมัติ ก็ไม่ได้มีการตรวจเช็คอะไร แม้แต่คำผิดบนหัวข้อโครงการ เธอยังไม่สังเกตเห็นมันเลยเสียด้วยซ้ำ บรรดาหัวหน้าแผนกทั้งหลายต่างพากันบ่นอุบถึงการทำงานของเลขาฯ คนใหม่ ที่ไม่สามารถประสานงานให้พวกเขาได้อย่างราบรื่นเหมือนตอนที่กชมนทำ ตอนนี้ทุกคนเฝ้ารอการกลับมาของกชมน นี่ก็ผ่านไปเดือนนึงแล้วเธอยังไม่กลับมาทำงานเลย สร้างความหนักอกหนักใจให้กับหัวหน้าแผนกที่จะต้องคอยดิลงานกับเลขาฯ คนใหม่ เพื่อส่งเอกสารไปให้ท่านประธานอนุมัติ รวมถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่กชมนเคยทำได้ พาขวัญกับผลักภาระมาให้พวกเขาไม่ยอมช่วยเหลือหรือให้ความร่วมมือเหมือนกชมนเลย “เมื่อไรน้องมนจะกลับมาเนอะ ยัยพาขวัญทำงานไม่ได้เรื่องเลย ท่านประธานให้มาเป็นเลขาฯ ได้ยังไง” เสียงหัวหน้าแผนกบัญชีเอ่ยขึ้น พูดคุยกับหัวหน้าแผนกคนอื่นๆ “จริงมีแต่ความเอ็กซ์เซ็กซี่ นี่น้องมนหายไปไหนเนี่ย ทำไมลานานจัง ไม่ใช่ลาออกไปแล้วเหรอ ถ้าเป็นแบบนี้แย่แน่ๆ” พนักงานสาวเอ่ยขึ้นสมทบ ก่อนที่จะทำสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด เพราะตอนกชมนอยู่เวลามีปัญหาอะไรเธอจะเป็นคนออกหน้าแทนพวกเขาตลอด เพื่อลดแรงปะทะกับท่านประธานจอมโหด “หรือท่านประธานจะชอบเลขาฯ แบบยัยพาขวัญ” “จริงด้วย” แต่ทุกการสนทนาก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อปริญเดินผ่านมา สายตาคมกริบราวกับใบมีดจ้องมองมายังพวกเขา รังสีอำมหิตแผ่ซ่านไปรอบตัวปริญ เหล่าบรรดาพนักงานต่างพากันแยกย้ายออกไปจากตรงนั้นทันที ปริญถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ลิฟต์ผู้บริหาร แล้วกดปุ่มลงไปชั้นล่างทันที โดยมีเพทายเดินตามมาอยู่ข้างกายเขาด้วย “มึงเลือกเลขาฯ อะไรมาให้กูเนี่ย กูล่ะปวดหัว” “ก็มันไม่รู้จะหาใครมาแล้วครับนาย ไม่มีใครกล้ามาเป็นเลขาฯ ให้นาย นอกจากยัยพาขวัญนั่น” เพทายเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมา เพราะเขาหาพนักงานคนอื่นแล้วแต่หลายคนปฏิเสธ แถมยังทั้งอ้อนวอนร้องขอว่าอย่าเอาพวกเธอไปเป็นเลขาฯ ท่านประธานเลย มีแต่พาขวัญเท่านั้นที่เสนอตัวกล้าเสี่ยงตายอยู่คนเดียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม