บังเอิญซวย NC25+
“อาวุธที่ลูกค้าสั่ง lot ต่อไปพร้อมส่งหรือยัง”
(พร้อมแล้วครับนาย)
“พวกมึงคอยดูให้ดีๆ อย่าให้พวกไอ้ดอมมันมาป่วนเราเหมือนรอบที่แล้วอีก”
การขนส่งสินค้ารอบที่แล้วมีปัญหาเพราะคู่แข่งทางการค้าอย่างดอมจอมเจ้าเล่ห์มาป่วนที่ท่าเรือจนเกือบเสียการใหญ่ ครั้งนี้การส่งมอบสินค้าต้องรอบคอบและมีกำลังคุ้มกันแน่นหนากว่าเดิม
(ครั้งที่แล้วน่าจะมีหนอนบ่อนไส้ครับนาย ตอนนี้ผมยังหาตัวไม่เจอ)
“รีบหาตัวให้เจอแล้วฆ่ามันทิ้ง อย่าให้ต้องถึงมือกู”
(ครับนาย)
“ส่วนเรื่องท่าเรือที่จะใช้ส่งของเดี๋ยวกูจัดการเอง มึงไปจัดการไอ้ตัวปัญหาซะอย่าให้มันมีลมหายใจอีก”
พูดจบปริญก็กดปุ่มวางสายทันที เขาหย่อนโทรศัพท์เครื่องหรูลงไปในกระเป๋ากางเกงแสล็คตัวสีดำ พลางหันหน้าออกไปมองนอกกระจกบานใสเหม่อมองออกไปด้านนอกตัวอาคาร ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
แกร๊ก!!
“นั่นใคร!!”
“ปริญ” ชายหนุ่มวัย 31 ปี รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา คิ้วดำขลับรับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน ผมไฮไลน์สีเทาด้านนอกด้านในสีดำรองทรงสั้นเซ็ทเข้ารูปเพิ่มความเท่ให้เขามากยิ่งขึ้น เขาเป็นประธานบริษัทขนส่งสินค้าแห่งนี้ บริษัทที่ติดหนึ่งในสามของประเทศ ปริญก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาเพื่อบังหน้าและไว้ใช้ท่าเรือในการแอบลักลอบขนส่งอาวุธของตัวเอง และยังเป็นเจ้าของผับหรูใจกลางเมืองอีกด้วย เขาทำธุรกิจสีขาวไปยันธุรกิจสีเทาอีกหลายแห่ง
คนที่เพิ่งวางสายขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันอย่างรู้สึกไม่สบอารมณ์ พลางเหลือบสายตามองหาว่าต้นเสียงว่ามาจากทางไหน เพราะเขาไม่รู้ว่าจะมีใครมาได้ยินที่เขาสนทนากับปลายสายเมื่อครู่หรือเปล่า
“กชมน” เลขาฯ สาวสวย วัย 25 ปี เอวบางราวกับนางแบบ แต่กับแต่งตัวเฉิ่มเชย ใส่เสื้อผ้าตัวโข่งกระโปรงยาวคลุมเข่า ใบหน้าที่สวยละมุน ดวงตากลมโตคู่สวยอยู่ภายใต้กรอบแว่นตาสีน้ำตาลที่หนาเตอะ คนนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มตอนนี้แววตาสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว ถึงแม้เธอจะไม่ใช่คนขี้ขลาดแต่พอเจออะไรแบบนี้ก็กลัวไม่น้อย ปากกระจับสีชมพูระเรื่อได้รูปถูกเม้มไว้แน่นเพื่อไม่ให้เสียงของตัวเองเล็ดลอดออกไป มือเรียวกำโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายคลิป VDO เมื่อสักครู่ไว้ มันสั่นเทาไปหมด เธอหลบอยู่อีกมุมของห้องทำงาน กชมนเข้ามาหาแฟ้มเอกสารในห้อง ก่อนที่ปริญจะเดินเข้ามาคุยโทรศัพท์ในห้อง เขาเดินเข้ามาในห้องทำงานโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าเลขาฯ ของตัวเองไม่ได้อยู่หน้าห้อง
คนตัวสูง 188 เซนติเมตร เดินมาตามต้นเสียง เสียงฝีเท้าค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาใกล้กชมน แล้วเขาก็หยุดฝีเท้าอยู่ตรงหน้าเธอ
“เข้ามาตั้งแต่เมื่อไร”
ปริญเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบแววตาเรียบเฉย เย็นชาไร้ความรู้สึก อย่างทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา แค่คำถามสั้นๆ ทำให้คนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งเฮือก ตอบเสียงติดๆ ขัดๆ
“มะ...เมื่อสักครู่ค่ะ”
“ได้ยินอะไรบ้าง”
น้ำเสียงเย็นเฉียบเอ่ยถามคนตัวเล็กที่กำลังสั่นเทาราวกับลูกนก จนคนฟังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“.............”
“ตอบ!!!”
เสียงตวาดดังลั่น แววตาวาวโรจน์ดุจดั่งราชสีห์ที่กำลังจ้องตะครุบเหยื่อมองมาที่กชมน เธอทำอะไรแทบไม่ถูก น้ำตาคลอเบ้าเขาทำเธอตัวสั่นงันงก ยืนกอดแฟ้มเอกสารไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ในมือก็กำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น ปริญดึงโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูออกจากมือเรียวขึ้นมากดดูทันที
“มะ...ไม่...ไม่ได้ยินอะไรค่ะ”
สายตาคมช้อนตามองผู้หญิงที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า เธอก้มหน้าก้มตาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขา มือข้างขวาของปริญยกขึ้นมาบีบคางมน เชยมันให้เชิดขึ้นมาสบตาเขา
“แน่ใจนะ...เพราะฉันไม่ชอบคนโกหก”
ปริญจ้องมองคนนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้น้ำตาเอ่อล้นออกมา ราวกับลูกกวางน้อยที่กำลังจะถูกจับกิน ปริญยังไม่ยอมปล่อยเธอแต่กับเพิ่มแรงบีบมันแรงยิ่งขึ้น
“หึ...ฉันไม่เชื่อ”
“มนไม่ได้ยินอะไรจริงๆ นะคะท่านประธาน”
มือหนาค่อยๆ ถอดแว่นตากรอบสีน้ำตาลออกจากใบหน้าสวย เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่เคยเห็นกชมนที่ใบหน้าไร้กรอบแว่นตา ใบหน้าเธอสวยสะดุดตาจนเขาคิดว่าเป็นคนละคน ปริญใช้นิ้วหัวแม่มือข้างขวาปาดน้ำตาออกจากใบหน้าเธอช้าๆ เขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย็นยะเยือก จนคนที่อยู่ตรงหน้าเสียวสันหลังวาบ แค่เดิมทีที่เธอทำงานกับปริญมาเกือบ 2 ปีเต็ม เขาที่เป็นคนนิ่งเงียบก็น่ากลัวอยู่แล้ว แล้วมาเจอแบบนี้เธอยิ่งกลัวจนตัวสั่น
“แล้วจะร้องไห้ทำไม”
เขาเอียงคอมองผู้หญิงที่กำลังน้ำตานองอยู่ตรงหน้าเขา กชมนปากสั่นระริกพูดอะไรไม่ถูก
“เอ่อ...เอ่อ...มน”
“มนกลัวท่านประธานค่ะ”
เธอตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ใช่ตอนนี้เธอกลัวเขามากจริงๆ แววตาที่แสนดุดันน่าเกรงขาม รังสีอำมหิตแผ่ซ่านไปรอบตัวเขา เขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด ถ้าไม่เช่นนั้นจะสั่งฆ่าคนง่ายๆ แบบนี้ได้อย่างไรกัน
“กลัวทำไมในเมื่อไม่ได้ทำอะไรผิด”
“แล้ว VDO ในโทรศัพท์นี่คืออะไร? ...ใครส่งเธอมา!!”
แรงบีบมือยิ่งเพิ่มมากขึ้น มือเรียวพยายามแกะมือของปริญออกจากใบหน้าเธอแต่มันก็ไร้ผล ปริญใช้นิ้วเรียวกดลบคลิป VDO ทิ้งทันที ก่อนที่คลิปนี้จะสร้างปัญหาให้เขาในภายหลัง
“มะ...ไม่มีค่ะ ไม่มีใครส่งมนมา”
คนตัวเล็กถูกผลักไปที่โซฟารับแขกสีเบจตัวยาว เธอล้มลงไปนอนราบกับพื้นโซฟาตัวนิ่ม กชมนทำตัวไม่ถูกไม่ทันได้ขยับตัวไปไหนกายสูงของปริญก็ขึ้นมาทาบทับบนตัวเธอแล้ว
“รู้ไหมคนที่โกหกฉัน และรู้มากจะต้องโดนอะไร”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นชาจนคนฟังขนลุกไปทั้งตัว มือก็ไม่ได้อยู่นิ่งปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกจนหมดภายในพริบตา ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ซอคอระหง ปริญเห็นรูปร่างที่ซ้อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าตัวโค่งถึงกับตาค้าง เลือดในกายชายพลุ่งพล่านเกินห้ามใจ จากที่คิดแค่จะขู่ให้เธอกลัวตอนนี้เขากลับอยากจะได้ตัวเธอมาครอบครอง เมื่อเห็นหน้าอกที่ใหญ่เกินตัว เอวที่คอดกิ่ว หน้าท้องแบนราบรับกับสะโพกที่ผ่ายผึงกำลังดี เรียวขายาวไร้ไขมันส่วนเกิน ผิวเธอขาวผ่องเป็นยองใย
ปลายลิ้นสากลากเลื่อนลงมาดูดดุนยอดบัวตูมสีชมพูระเรื่อ โลมเลียมันสลับไปมาทั้งสองข้างอย่างไม่ลำเอียง จนคนตัวเล็กสั่นเทิ้มไปทั้งตัวจนหญิงสาวต้องแอ่นหน้าอกรับปลายลิ้นร้อน เมื่อเขาตวัดมันรัวๆ จนเธอเสียวอย่างห้ามไม่ได้ กับรสสัมผัสเรียวลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดมาในแต่ละที
“อื้ออ....ปล่อยนะไอ้ท่านประธานบ้า”
ปริญเงยหน้าขึ้นไปบดจูบสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากอุ่นด้วยความเร่าร้อนรุนแรง ฟันคมกระทบริมฝีปากอิ่ม กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ภายในช่องปาก มือหนาเลื่อนมาเคล้าคลึงหน้าอกอิ่มบีบเคล้นเต็มแรงมือจนผิวขาวใสเกิดรอยแดง
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ยอมดีๆ”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าออกมาจากลำคอ เพราะตอนนี้ความต้องการเขามันพลุ่งพล่านเกินห้ามใจแล้ว เขาไม่ใช่พวกที่ชอบบังคับขืนใจใครให้มาเป็นเมีย แต่ก็ไม่ใช่คนใจดีที่เห็นคนแก้ผ้าอยู่ตรงหน้าแล้วไม่เอา
“ฝันไปเถอะ ไอ้คนชั่ว”
“แล้วจะคอยดูจะ ฉันจะเปลี่ยนเสียงด่าให้เป็นเสียงครางแทน หึๆ”
ใบหน้าคมคลายหันกลับมากดจูบเธอต่อ กชมนพยายามเม้มปากไม่ให้เขาสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปข้างใน แต่ก็ทนความวาบหวามไม่ได้เผลอเผยอปากออก เรียวลิ้นสากรีบสอดแทรกไล่ต้อนลิ้นเล็กเกรียวก่ายพัลวันอย่างดูดดื่ม เพื่อให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัส กชมนรู้สึกวาบหวามไปทั้งตัวเธอไม่เคยได้รับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน
มือข้างขวาของปริญเลื่อนลงมาลูบไล้เนินเนื้ออูม ที่ยังมีแพนตี้ตัวจิ๋วปิดบังอยู่ เขาเกี่ยวมันล้นลงสู่ด้านล่างอย่างไว แล้วค่อยๆ ลากเลื่อนฝ่ามือขึ้นมาตรงกลางติ่งเกสร ถูไถไปมาจนน้ำสีใสไหลเยิ้มอาบท่วมมือหนา ส่วนอีกข้างบีบเคล้นเต้านมคู่ใหญ่เต็มแรงมือ ความเสียวสะท้านแล่นผ่านกายสาวเมื่อปลายนิ้วเขี่ยปุ่มกระสัน มันไม่อาจต้านทานสัญชาตญาณมนุษย์ได้ เขาอาศัยประสบการณ์ที่ช่ำชอง หลอกล่อให้สาวน้อยคล้อยตามอย่างง่ายดาย
“อื้อ...ท่านประธาน หยุด”
“แน่ใจนะว่าอยากให้หยุด”
มือเรียวจากที่เคยปัดป้องกลับยกขึ้นมาคล้องคอของปริญ ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างรู้สึกพอใจ ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาค่อยๆ เลื่อนลงมากลางกายสาว ปลายลิ้นร้อนตวัดแตะตรงกลางติ่งสวรรค์ทำเอากชมนสะดุ้งเล็กน้อย เธอต้องแอ่นสะโพกขึ้นรับเรียวลิ้นร้อนเพราะความเสียวสยิว มือเรียวเผลอสอดเข้าไปที่กลุ่มผมของปริญกดเขาไว้ไม่ให้ละใบหน้าออกมาจากตรงนั้น
“อ๊ะ อร้า...ท่านประธาน อย่า”
“เยิ้มขนาดนี้อยากให้หยุดจริงๆ เหรอ?”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเงยขึ้นมองคนใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราที่กำลังจ้องตาประสานเชื่อมกับเขาด้วยแรงปรารถนา นิ้วกลางข้างขวาถูกสอดแทรกเข้าไปในร่องรักที่คับแน่น แต่มันกลับเข้าไปได้อย่างยากลำบาก
“แค่นิ้วยังจะเข้าแทบไม่ได้เลย แน่นชิบ”
ปริญเร่งใช้ลิ้นสำรวจกลีบกุหลาบสีสวยทั่วทุกซอกมุม เพื่อให้มันขับน้ำหวานออกมาอาบชโลมไปทั่วนิ้วของเขา แล้วค่อยๆ ชักมันเข้าออก เขาค่อยๆ เพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปช้าๆ เล่นทำเอากชมนเสียวซาบซ่านไปทั้งตัว เหมือนมวลหมู่ผีเสื้อนับร้อยบินวนรอบกายเธอ หน้าท้องปั่นป่วน สมองเธอรู้สึกขาวโพลนราวกับว่ากำลังจะขึ้นสู่ประตูสวรรค์เมื่อถูกลิ้นและนิ้วของปริญเล่นงานเป็นการใหญ่
“อร๊ายยยยยย ไม่ไหวแล้วท่านประธาน มนทนไม่ไหว”
ร่างบางกระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำหวานสีใสออกมาเต็มไปหมด เขาใช้ลิ้นกวาดดูดเลียมันจนหมดทุกหยาดหยดอย่างไม่รังเกียจ
“ถึงตาฉันบ้าง”
ปริญรีบปลดเข็มขัดเส้นหรูและกางเกงแสล็คตัวสีดำออกทันทีเผยให้เห็นแก่นกายชายที่แข็งขืน กชมนรีบล้นตัวหนีเมื่อเห็นแก่นกายชายที่ผงาดอยู่ตรงหน้า มันใหญ่ยาวเกินมาตรฐานจนเธอเองคิดว่าไม่น่าจะเข้าไปข้างในของเธอได้
“อย่าเข้ามานะ...หยุดอย่าทำมน”
คนตัวเล็กหน้าเสียทันทีที่เห็นปริญกำลังจะเข้ามา ใบหน้าสวยซีดเผือด น้ำตาเริ่มเอ่อคลอเบ้าอย่างห้ามไม่ได้
“คิดจะเสร็จคนเดียวรึไง”
ปริญจ้องมองร่างบางที่นอนแก้ผ้าอยู่ตรงหน้าที่กำลังขยับตัวหนีเขา มือหนารีบล็อกสะโพกเธอเอาไว้แน่น แก่นกายเขาตอนนี้ปวดหนึบแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ เขาดึงรั้งร่างบางเข้ามาประชิดแนบแน่น แล้วแทรกกายเข้าตรงกลางหว่างขาเรียว ก่อนที่จะชักเอ็นดุ้นใหญ่ของตัวเองไปมาสองสามที แล้วเอาหัวเห็ดสีชมพูถูวนตรงกลางร่องรักที่ปล่อยน้ำหวานออกมาไม่ยอมหยุด
“อ๊ะ เจ็บอย่าเอามันเข้ามานะ”
“อย่าเกร็งสิจะได้ไม่เจ็บ”
น้ำเสียงแหบแบบมีเสน่ห์เอ่ยขึ้น แค่เพียงปริญกดเข้าไปแค่หัวเธอก็รู้สึกเจ็บเหมือนร่างจะแหลกแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาเลยโน้มใบหน้าไปจูบริมฝีปากอวบอิ่ม ส่งลิ้นเข้าไปทักทายในโพรงปาก ตวัดเกรียวก่ายควานหารสหวานให้เธอรู้สึกผ่อนคลายกว่าเดิม แล้วค่อยๆ กดตัวตนที่ใหญ่โตเข้าไปทีละนิด ทีละนิด
“แน่นชิบ ไม่ไหวแล้ว อร้า~”
ความเสียวซ่านแล่นผ่านกายชาย แก่นกายที่แข็งตัวเต็มที่มันปวดหนึบจนแทบทนไม่ไหว เขากระแทกแก่นกายเข้าไปพรวดเดียวจนมิดสุดลำ เยื่อพรหมจรรย์ขาดวิ่น กชมนกรีดร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด ปริญกดแก่นกายตัวเองแช่ไว้สักพักแล้วค่อยๆ แล้วขยับตัวตนที่แข็งขืนเข้าออกเบาๆ เพื่อไม่ให้กชมนรู้สึกเจ็บ เธอใบหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวดเกินจะบรรยาย
“อร๊ายยยย เจ็บ ท่านประธานเอาออกไป มนเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว”
“ทนหน่อยเดี๋ยวสักพักมันจะเสียว อื้มมม...ฟัค!!...แน่นชิบ”
เขาก้มหน้ามองทางเชื่อมต่อระหว่างกายของทั้งสอง ท่อนเอ็นพลุบเข้าพลุบออก ปริญมองเลือดที่ผสมกับน้ำหล่อลื่นสีใสอย่างรู้สึกพอใจ คนตัวเล็กผวาขึ้นกอดปริญเมื่อเขากระแทกแก่นกายเข้าออกเร็วและแรงขึ้น กระหน่ำกระแทกกระทั้นอย่างลืมตัว ตอนนี้ปริญไม่สามารถควบคุมความดิบเถื่อนในกายชายของตัวเองได้อีกต่อไป
ดวงตาสะท้อนภาพของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ายิ่งทำให้เขาวาบหวาม อยากจะจ้วงแทงให้มิดสุดลำกายขย่มโยกให้เธอลุกไปไหนไม่ไหวเลยทีเดียว หยาดเหงื่อผุดตามใบหน้าและผิวกาย แม้ภายในห้องจะปรับแอร์ไว้ที่ 20 องศา แต่ก็ไม่สามารถดับความร้อนของทั้งสองได้เลย ความเสียวซ่านแผ่ขยายเล่นงานคนตัวใหญ่รูปร่างกำยำ
“เสียว อื้ออออ ท่านประธานพอได้แล้ว”
คนตัวเล็กร่องรักกระตุกถี่ๆ อีกครั้ง เธอดิ้นเร้าราวใจจะขาด เมื่อปริญรับรู้ว่ากชมนกำลังจะถึงฝั่งฝันเขารีบเร่งจังหวะให้เธอและรีบตามเธอไป กระหน่ำกระแทกแก่นกายเข้าไปในกายสาวอย่างหนักหน่วงอยู่สักพัก ความรุ่มร้อนแผ่ซ่านกายของทั้งสอง กชมนเชิดรั้งใบหน้าครวญครางออกมาอย่างลืมอาย สร้างความวาบหวามให้ปริญเป็นอย่างมาก
“พร้อมกัน”
“อร๊ายยยย / โอ้ววววว”
น้ำขาวขุ่นพุ่งสู่ร่องรักที่แสนคับแน่นคนตัวใหญ่ล้มกายฟุบลงหายใจหอบถี่ไม่เป็นจังหวะ เขารับรู้ได้ถึงความอุ่นร้อนและฉ่ำแฉะ ก่อนที่จะดึงแก่นกายออกมารูดรั้ง มองน้ำรักที่ของตัวเองที่ผสมกับเธอไหลออกมาจากช่องทางรักอย่างรู้สึกพอใจ ปริญชักสาวแก่นกายอีกครั้งเพื่อเปิดศึกราคะรอบต่อไป
“บทลงโทษของเธอยังไม่จบแค่นี้ วันนี้ฉันจะเอาให้เธอคลานลงมาจากเตียงไม่ได้เลย”
พูดจบเขาก็ช้อนกายหญิงสาวขึ้นสู่อ้อมอกพาเธอเข้าไปในห้องนอนเล็กๆ ที่แบ่งเป็นสัดส่วนอยู่มุมหนึ่งของห้องทำงานของเขาทันที