ครั้นชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินมาถึง จั๋วเหรินหาวก็ชะงัก เมื่อเห็นพ่อค้าขายน้ำตาลปั้นในชุดบ่าวรับใช้จวนสกุลฉง มือปราบสายลับหน่วยที่สองไป๋ซิงซวี่ถูกส่งมาที่นี่ก่อนหน้าเขาไม่กี่วัน
“ซิงซวี่นี่ล่ะขอรับทำงานคล่องแคล่ว ช่วงนี้ข้าให้เขาไปทำงานที่เรือนของคุณชายใหญ่ได้รับคำชมมากเลยเทียว”
“ดีๆ” จั๋วเหรินหาวยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันไปหาไป๋ซิงซวี่ “เจ้าช่วยพาข้าไปเดินดูรอบเรือนหน่อยก็แล้วกัน”
เมื่อพ้นจากพ่อบ้านเถา ไป๋ซิงซวี่จึงกระซิบบอกจั๋วเหรินหาวถึงความผิดปกติของเรือนคุณชายใหญ่
“ฮูหยินน้อยของฉงจื่ออี้เพิ่งแต่งงานเข้ามาไม่ถึงปี แต่พวกเขากลับไม่ค่อยร่วมห้องกัน ข้าสังเกตว่าคุณชายใหญ่ฉงไปนอนที่ห้องหนังสืออยู่บ่อยๆ”
“สาวใช้อุ่นเตียงเล่า? คุณชายใหญ่ไม่มีหรอกหรือ?”
“เคยมี แต่นางถูกฮูหยินน้อยขับไล่ออกไปตอนที่นางแต่งเข้ามาสกุลฉงใหม่ๆ ครั้งหนึ่งพวกเขาทะเลาะกัน ฮูหยินน้อยทั้งร่ำไห้และต่อว่าเรื่องที่ฉงจื่ออี้มีใจให้หญิงคณิกา แต่เรื่องนี้พวกเขาไม่กล้าให้เป็นเรื่องใหญ่ ตอนที่อนุหนงถูกนำตัวเข้ามาในจวนฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่ยอมพูดกับใต้เท้าฉงอยู่นาน”
”อนุหนงนับว่ารูปร่างหน้าตางดงามนัก สายลับหน่วยที่หนึ่งสืบความพบว่านางเคยเป็นอดีตดาวเด่นหอคณิกาในเมืองฉู่จิ้ง แท้จริงนางเป็นบุตรสาวของคนรู้จักของใต้เท้าฉง”
ไป๋ซิงซวี่พาคุณชายจั๋วเดินผ่านหน้าเรือนคุณชายใหญ่แล้วก็ไปทางด้านตะวันออกซึ่งเป็นเรือนอนุซูกับอนุกัว
“คนของเราที่มาอยู่เรือนอนุซูบอกว่าคุณหนูสองกับคุณหนูสี่ไม่ถูกกันกับคุณหนูแปด พวกนางทะเลาะกันบ่อยครั้ง ฮูหยินของท่านเป็นคนไม่ยอมผู้ใด สุดท้ายก็เอาชนะพวกนางไปได้ทุกครั้ง”
จั๋วเหรินหาวขมวดคิ้ว “นี่สายลับไป๋! ผู้ใดเป็นฮูหยินของข้ากัน? นางก็เป็นนาง ข้าก็เป็นขา เราก็แค่เล่นงิ้วกันฉากหนึ่งเพื่อจับคนร้าย”
“อู้ววว....” ไป๋ซิงซวี่ส่งเสียงเชิงล้อเลียน เขาแสร้งกลอกตา “นางสวยออกปานนั้น ท่านไม่หวั่นไหวสักหน่อยหรือ? ร่วมห้องอยู่ทุกคืนเช่นนี้ เป็นข้าล่ะก็....คงไม่ปล่อยให้พลาดแน่”
“เหลวไหล! ข้ากับนางก็แค่สามีภรรยาปลอมๆ จะทำให้นางด่างพร้อยไม่ได้” ใบหน้าของจั๋วเหรินหาวเคร่งขรึมจนไป๋ซิงซวี่ไม่กล้าเย้าต่อ
“อะ...ตกลงๆ ท่านช่างเป็นคนซื่อตรงต่อหน้าที่เหลือเกิน”
“อย่านอกเรื่อง...เล่าต่อ”
ยังไม่ทันที่คนทั้งสองจะเดินถึงหัวมุมเรือนฝั่งตะวันตกของอนุฉาน พลันได้ยินเสียงท่องกลอนไพเราะดังลอดออกมาจากหน้าต่าง
“นั่นคงเป็นเสียงของคุณชายเจ็ด เขาอายุเท่ากันกับคุณหนูแปดร่ำเรียนเขียนอ่านขยันขันแข็ง ข้าได้ยินว่าเขาสอบได้ที่หนึ่งในชั้นเรียนสถาบันเค่อเฉิงเสียด้วย เป็นบุตรชายที่ใต้เท้าฉงดูปลื้มใจอยู่ไม่น้อย” ไป๋ซิงซวี่ที่เก็บเรื่องราวภายในจากการค่อยๆ พูดคุยกับบ่าวและสาวใช้ทั่วจวนแล้วเขียนสรุปเพื่อส่งหัวหน้าหน่วย
“อนุฉานมีบุตรชายผู้เดียว คงจะปลาบปลื้มมากเชียว” จั๋วเหรินหาวที่พยายามจดจำคนทั้งเรือนในตอนที่เข้ามาคารวะน้ำชาท่านพ่อตาและท่านแม่ยายที่ห้องโถงใหญ่เมื่อเช้า พอจะจำคุณชายเจ็ดผู้นี้ได้
เขาปรายตาไปทางเรือนอนุหนง คดีที่เรือนนี้ลึกลับยิ่งนัก ทั้งคดีเก่าและคดีใหม่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจับคนร้ายได้เลย คงทำได้เพียงรอจนกว่าคนร้ายคิดจะลงมืออีกครั้ง
“คดีหลินเฉินสรุปว่านางถูกฆ่าแน่ใช่หรือไม่?”
“ข้าค่อนข้างแน่ใจอย่างนั้น หน่วยของท่านก็พบร่องรอยอยู่มิใช่หรือ?”
“อืม...ข้าอ่านรายงานแล้ว ยากจะหาตัวคนร้ายอยู่นะ” จั๋วเหรินหาวพยักหน้าน้อยๆ เมื่ออนุฉานกับสาวใช้ของนางเดินมาถึงหน้าเรือน
“ท่านเขย เดินมาถึงนี่เลยหรือ?”
“อนุฉาน ข้ายังไม่คุ้นจึงให้บ่าวพาออกมาเดินดูรอบๆ ไม่ทราบว่าเป็นการรบกวนท่านหรือไม่?”
“ไม่หรอกเจ้าค่ะ เชิญท่านชมรอบๆ ตามสบาย ข้าก็แค่เห็นว่าท่านผ่านมาจึงได้ออกมาต้อนรับ” ท่าทีดูนอบน้อมของอนุฉานดูแล้วไม่น่าจะเป็นผู้ที่มีเรื่องทะเลาะกับผู้อื่นได้
“ขอบคุณ อนุฉาน” จั๋วเหรินหาวกล่าวขอบคุณตามมารยาทแล้วก็เดินวนกลับไปยังเรือนนอนของฉงหยวนหยวน
ฮูหยินจอมปลอมของเขาอาบน้ำแต่งกายงดงามนั่งรออยู่พร้อมด้วยอาหารบนโต๊ะ นางเหลือบไปเห็นจั๋วเหรินหาวเดินเข้ามาก็ลุกขึ้นยืน ต่อหน้าบ่าวรับใช้ของเขานางต้องเล่นงิ้วเป็นภรรยาผู้แสนดี
“ท่านพี่ ไปอาบน้ำก่อนสิเจ้าคะ น้ำอาบเตรียมไว้ข้างหลังฉาก ข้าจะรอท่านพี่ออกมารับประทานอาหารด้วยกัน”
“อืม...ขอบใจน้องหญิง เช่นนั้นข้าไปอาบน้ำสักครู่”
ไม่นานนักจั๋วเหรินหาวก็แต่งตัวใหม่ออกมาจากห้องนอน เขาผายมือเชิญฉงหยวนหยวนให้เริ่มรับประทานอาหาร ทั้งสองต่างสงวนท่าทีต่างคนต่างรับประทานไปเงียบๆ
ปังฮุ่ยกับปังหมิ่นพยายามกีดกันบ่าวและสาวใช้ผู้อื่นให้ออกไปนอนให้ห่างเรือนเพราะเกรงความลับของเจ้านายจะเปิดเผย แคร่นอนที่จั๋วเหรินหาวให้แอบนำเข้ามาทางประตูเล็กหลังจวนถูกซ่อนไว้ใต้เตียงนอนใหญ่ของฮูหยินแปด เมื่อประตูห้องถูกปิดลง ชายหนุ่มก็ลากเอาแคร่นอนที่ปูฟูกไว้ออกมา แล้วก็ล้มตัวลงนอนพร้อมห่มผ้าโดยนอนหันหลังให้กับสตรีงดงามที่สวมชุดนอนสีชมพูกลีบบัว
“ราตรีสวัสดิ์นะ คุณหนูแปด”
ฉงหยวนหยวนตอบรับด้วยคำเดียวกัน นางเริ่มรู้สึกแล้วว่าคนผู้นี้มิได้ใส่ใจในความงามของนางสักนิด เขามองดูนางไม่ต่างจากมองดูคนทั่วไป คุณหนูแปดผู้เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของปีถึงกับถอนหายใจ นางจ้องมองด้านหลังรองหัวหน้ามือปราบหน่วยที่หนึ่งด้วยความไม่เข้าใจและหงุดหงิดเหลือเกิน
**************************