มือปราบจั๋วตื่นแต่เช้าไปเดินวนเวียนอยู่บริเวณห้องโถงใหญ่เพื่อรอการรับประทานอาหารเช้าพร้อมฮูหยินผู้เฒ่า ท่านพ่อตาและท่านแม่ยาย เขามองเห็นฉงจื่ออี้ คุณชายใหญ่เดินนำหน้าภรรยาเข้ามาในห้องโถงก็รีบแสดงคารวะ
“เป็นอย่างไรบ้างน้องเขย? เรือนสกุลจั๋วน่าอยู่หรือไม่?”
“ที่นี่กว้างขวางน่าอยู่ขอรับ”
ฉงหยวนหยวนก้าวเข้ามาสมทบ นางต้องแสดงตนเป็นภรรยาที่ดีเพื่อให้ทุกคนตายใจ เมื่อครั้งมารดาของนางแต่งเข้ามาในจวนสกุลฉง คุณชายใหญ่ก็แสดงท่าทีไม่ยอมรับ ด้วยความที่ฮูหยินผู้เฒ่ารักใคร่โปรดปรานหลานชายคนโตยิ่งนักจึงมิได้ให้ความเอ็นดูหลานคนอื่นๆ
“ท่านพี่ ไปนั่งรอที่โต๊ะเถิดเจ้าค่ะ ท่านย่ามาแล้ว” ฉงหยวนหยวนมาจับแขนของจั๋วเหรินหาวอย่างสนิทสนม
ชายหนุ่มสะดุ้ง เขาเกร็งตัวเล็กน้อยปล่อยให้นางประคองเดินไปนั่งโต๊ะรับประทานอาหารเช้า ฮูหยินผู้เฒ่าเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้สองคน ใต้เท้าฉงกับอวี๋ฮูหยินก็เข้ามาสมทบ
“เสี่ยวหาวเจ้านอนหลับสบายหรือไม่?”
“สบายขอรับ ขอบพระคุณฮูหยินผู้เฒ่าที่ห่วงใย”
ฉงจื่ออี้รับประทานอาหารโดยมีโซว่ฮูหยินคอยดูแลแต่เขาก็ดูเหมือนไม่ค่อยสนใจภรรยานัก คุณชายใหญ่ก้มหน้าก้มหน้าคีบอาหารใส่ปาก
“โอ๊ะ! ท่านพี่ ข้าขออภัยเจ้าค่ะ” โซว่ฮูหยินภรรยาของฉงจื่ออี้ทำถ้วย น้ำแกงหกเกือบจะเลอะชายแขนเสื้อสามี เขาจึงหันมาทำตาเขียวใส่นาง
“เจ้า! อีกแล้วนะ”
“ต่อไปข้าจะระวังเจ้าค่ะ”
“เสี่ยวอี้ เจ้าก็อย่าเอ็ดนางนักเลย เรื่องเล็กน้อยก็ให้อภัยนางเถอะ” ฮูหยินผู้เฒ่าหันมากล่าวเนิบๆ กับหลานชาย การแต่งงานของฉงจื่ออี้เป็นไปเพื่อช่วยส่งเสริมหน้าที่การงานของเขา ด้วยความเชื่อมั่นในบารมีของใต้เท้าฉงตระกูลโซว่จึงได้ส่งบุตรสาวคนรองมาเชื่อมไมตรี
“ขอรับท่านย่า” ฉงจื่ออี้รับคำเบาๆ
จั๋วเหรินหาวลอบชำเลืองดูอากัปท่าทางของแต่ละคนบนโต๊ะ สิ่งที่เขารู้สึกก็คือ ฉงจื่ออี้กับอูหยินผู้เฒ่าเป็นฝ่ายเดียวกัน ส่วนอวี๋ฮูหยินและใต้เท้าฉงก็เข้ากันได้ดี นับได้ว่าสามีภรรยาใจรวมเป็นหนึ่ง ฉงเจียซินพี่ชายคนโตของฉงหยวนหยวน นับเป็นบุตรคนที่สี่เดินทางไปแคว้นเหลียนได้หกเดือนกว่าแล้ว ส่วนเหล่าอนุภรรยามิได้รับอนุญาตให้มาร่วมบนโต๊ะอาหาร
“อาหารก็ทานกันเสร็จแล้ว หยวนหยวนเจ้าพาสามีไปเดินดูรอบเรือนหน่อยสิ เสี่ยวหาวเพิ่งมาอยู่จะได้คุ้นเคยได้เร็ว”
“เจ้าค่ะ ท่านย่า” ฉงหยวนหยวนผู้เกรงท่านย่าเป็นที่สุดรีบรับคำ
หญิงสาวเดินเคียงคู่ไปกับจั๋วเหรินหาวโดยมีปังฮุ่ยกับปังหมิ่นติดตามมาเพียงสองคน
“คุณหนูแปดท่านรู้ความสัมพันธ์ของคุณชายใหญ่กับโซว่ฮูหยินหรือไม่? ท่าทางพวกเขาไม่ค่อยราบรื่นนัก”
ฉงหยวนหยวนเบะปาก “แน่สิ! สาวใช้เรือนพี่ใหญ่ซุบซิบกันว่าเขามักจะแอบไปเที่ยวหอคณิกาจนทะเลาะกับภรรยาอยู่บ่อยๆ แต่พักหลังเขาไม่ค่อยออกไปข้างนอก แต่ก็ยังไม่ร่วมห้องกับนางอยู่ดี”
จั๋วเหรินหาวขมวดคิ้ว หันมามองหน้าหญิงสาวที่ใช้น้ำเสียงเยาะเย้ย ถากถางพี่ชายต่างมารดา “ดูท่า คุณหนูแปดรู้เรื่องราวภายในจวนละเอียดนัก”
“ท่านไม่รู้หรือว่า? ในจวนแห่งนี้แต่ละคนอาจจะวางสายสืบเอาไว้ในเรือนของผู้อื่น อย่างในเรือนของเราสาวใช้ที่มิใช่ปังฮุ่ยกับปังหมิ่น อาจจะเป็นคนของผู้อื่นส่งมาสืบข่าวในเรือนข้า”
“หือ...ถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?”
“ไม่เช่นนั้นจะมีคนตายในเรือนนี้หรือ? ที่ท่านพ่อต้องให้ท่านมาช่วยเป็นสามีให้ข้าก็เพราะเกรงว่าคนต่อไปอาจจะเป็นข้าก็ได้”
“พวกเขารู้แล้วว่าข้าเป็นมือปราบ ไม่น่าจะกล้ามาทำอันตรายท่าน แต่ยังไม่แน่ว่าอาจจะคิดลงมือกับผู้อื่น ข้ายังมองไม่เห็นเลยว่าความขัดแย้งในจวนท่านที่ถึงขั้นจะฆ่าจะแกงกันคือเรื่องใด?”
ฉงหยวนหยวนเห็นว่าจั๋วเหรินหาวดูเป็นคนวางใจได้ นางจึงตัดสินใจบอกสิ่งที่ตนสงสัย “ข้าเคยไปแอบสังเกตบริเวณริมสระน้ำที่หลินเฉินตาย มีร่องรอยการลากลงน้ำ เพราะกอกกแถวนั้นราบเป็นทางลงไป ข้าจึงไม่เชื่อว่านางกระโดดน้ำตาย”
“เจ้าสงสัยผู้ใด?”
“ข้าเคยเห็นพี่ใหญ่พูดคุยกับอนุหนงหนหนึ่งที่ศาลาในคืนเดือนมืด แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาพูดคุยกันเรื่องใด?”
“เรื่องนี้ไม่เคยมีในบันทึกการสอบสวน เหตุใดท่านจึงไม่บอกต่อหัวหน้าโหยว?”
“จะพูดได้อย่างไรเล่า? จะว่าไปคืนนั้นก็มีแต่ข้าที่เห็นพวกเขา หากพูดไปแล้วพวกเขาแก้ต่างได้ ข้าก็กลายเป็นคนให้ร้ายพวกเขาสิ”
“แล้วที่คุณหนูแปดบอกกับข้า ท่านไม่กลัวข้าไม่เชื่อท่านหรอกหรือ?”
ฉงหยวนหยวนเม้มริมฝีปากแน่น “ข้าเชื่อว่าท่านน่าจะพยายามสืบเรื่องนี้ต่อให้ข้า อีกอย่างท่านอุตส่าห์ยอมมาแต่งงานกับข้าเพื่อสืบคดี เห็นได้ว่าท่านเป็นคนจริงจังในเรื่องงานอย่างมาก” นางอยากจะพูดต่อไปว่า ไม่เพียงแต่เขาตั้งใจสืบคดีเท่านั้น แม้แต่ตัวนางเขาก็ยังไม่คิดจะสนใจด้วย
“อืม...ขอบคุณที่ท่านเชื่อใจข้า”
“ข้าเองก็กลัวมิใช่น้อยเพราะยังไม่รู้ว่าสาเหตุการตายของพี่สามคืออะไร? การตายของนางทำให้ข้าหวาดกลัว หากว่าในเรือนพักของข้ายามนี้ไม่มีท่าน ข้าก็คงจะไม่กล้ากลับมาพักแล้ว”
สีหน้าและแววตาที่แสดงออกมายามนี้ทำให้จั๋วเหรินหาวเพิ่งจะรู้ว่าคุณหนูแปดที่มักจะทำหน้าเชิดหยิ่งและนิ่งอย่างที่เขาเคยคิดนั้น แท้จริงก็เป็นเพียงสตรีธรรมดาที่รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน
****************************