“ไว้เฮียคุยกับหมอก่อนแล้วจะเล่าทุกอย่างให้ฟังนะ” เขามองไปทางเพื่อนเชิงไล่พวกมันก็เหมือนรู้ถึงได้บอกลามินนี่แล้วพาเมียเดินออกไปเขาจะเฝ้าเธอเองคืนนี้แต่เดินออกไปส่งเพื่อนด้วยท่าทีหง่อยเหงา ชีวิตแม่งบัดซบฉิบหาย!
เขาเดินลงมาถึงชั้นล่างกะว่าจะซื้ออะไรไปให้มินนี่กินสักหน่อยเพราะตอนนี้มันตีสี่กว่าแล้ว เขากังวลว่าเธอจะลืมหมดแต่ก็ไม่ได้หมด เขาเป็นห่วงมินนี่มากแต่มันเสียใจมากเหมือนกันนะ
“เอาน่ากูว่าน้องคงมึนยาอยู่” เบนซ์ตบบ่าเพื่อนแอบสงสารมันนิดๆทำไมคนมั่นคงในความรักถึงมาเจออะไรแบบนี้ด้วย
“มึนยา? อย่ามาปลอบกูรู้ว่ามันคืออะไร” ความจำเสื่อมไงไอ้สัตว์ยิ่งพูดเหมือนว่ายิ่งตอกย้ำให้เจ็บ
“มึงก็ใช้โอกาสนี้ดูแลน้องมินนี่ไงไอ้เหี้ย เดี๋ยวกูคุยกับเหี้ยโบ๊ทให้ยังไงมันก็กลับมายังไม่ได้อยู่ดี” ก็พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสไปเลยกูทำมาแล้ว ปอร์เช่แนะนำจากประสบการณ์ล้วนๆ
“มึงรู้ใช่ไหมว่ากูรอมาเกือบสามปี”
“กูรู้ เรื่องนี้ไม่มีใครมั่นคงเท่ามึงแล้ว”
“แล้วกูต้องรออีกเมื่อไร?”
“เออ กูเข้าใจ!” ในขณะที่เขากำลังจะแต่งงานแต่เพื่อนพึ่งจะเริ่มต้นเองกูบอกแล้วอย่ามีเมียเด็กเกินเป็นไงล่ะมีแต่คำว่ารอ
“เหี้ยเช่ถ้ามึงคุยกับไอ้โบ๊ทไม่ได้กินตีนกูแน่” กูช่วยมึงไว้เยอะถึงเวลาช่วยกูคืนบ้างแล้ว
“เออ! เดี๋ยวจะอ้างเหตุผลล้านแปดเลย!”
จากัวร์เดินกลับไปห้องพยาบาลพร้อมกับข้าวต้มร้อนๆกับผลไม้เล็กน้อยเขารู้ว่ามินนี่ชอบอะไร เขารู้เรื่องเธอดีหมดทุกอย่างเลยแต่ตอนนี้ที่อยากรู้คือเธอตกบันไดมาเองหรือมีคนทำร้ายกันแน่ ถ้าใครทำเธอเจ็บมันต้องเจ็บกว่าแน่นอน
“นอนรึยัง?”
“ยังค่ะ หู้ย...ข้าวต้มกำลังหิวพอดีเลย” กลิ่นนี้มันใช่เลย
“ออกจากโรงพยาบาลไปอยู่คอนโดเฮียสักพักนะ พอดีหมอบอกว่าสมองมินนี่มีปัญหาเรื่องความจำนิดหน่อย” เขาวินิจฉัยเองเลยเพราะเดาอาการออกอยู่ ความสุขของเขาแม่งโคตรสั้นฉิบหาย! มินนี่ทำหน้างงแต่คงเข้าใจแล้วกำลังจะโทรหาพี่ชายนี่คงจำไม่ได้จริงๆว่าไอ้โบ๊ทไปเบลเยี่ยม
เขาเคยมีลูกค้าประเภทนี้ไม่มากแต่ก็รู้ว่ามันต้องใช้เวลา ตอนนี้ขึ้นกับว่าเป็นจากสมองหรือจิตใจกันแน่ เขากังวลนะถึงจะแสดงออกไม่มากก็ตาม
“ฉันอยู่กับเพื่อนได้” เกรงใจมากแต่กลัวมากกว่านะ
“เพื่อนมีแฟนทุกคนไม่ใช่เหรอ? แล้วไอ้ปอร์เช่ ไอ้เบนซ์มันก็มีเมียกันหมดอยู่กับเฮียนี่แหละดีแล้ว เฮียมั่นใจว่าดูแลดีเท่าไอ้โบ๊ทแน่” พร้อมดูแลมากด้วยตอนนี้แค่รอเธอตกลงแค่นั้นเอง
“ขอถามพี่โบ๊ทก่อนนะ”
“เอาสิ ขออนุญาตพี่ชายก่อนก็ดี”
เธอมองเขาแกะข้าวต้มสองถุงเทใส่ชามพร้อมกับน้ำเปล่านี่ยังมีผลไม้ที่กำลังจะปอกอีกนะ เธอไม่รู้สิว่าทำไมถึงไว้ใจมากขึ้นทั้งที่กลัวเขามากก็ไม่รู้ เธอพิมพ์ข้อความหาพี่ชายทันที
Bote : เป็นไงบ้างเจ็บตรงไหนพูดมาให้หมด
แมวน้อย : เจ็บขาแล้วปวดหัวนิด ทำไมมันงงๆแปลกๆ
Bote : ให้พี่บินกลับเลยไหม?
แมวน้อย : เฮียจากัวร์บอกให้ไปอยู่ด้วยเพราะมีปัญหาทางสมอง คือไรอะ?
Bote : เดี๋ยวพี่คุยกับมันเสร็จแล้วจะบอกนะ รักน้องนะดูแลตัวเองดีๆละ
จากัวร์กำลังจัดการกับผลไม้ที่ซื้อมาให้เรียบร้อยแต่เสียงไลน์มันดังขึ้นมาไม่หยุดไหนจะมีคนโทรมาอีกถ้าให้เดาคงเป็นไอ้โบ๊ทแน่นอน เขามีเหตุผลดีๆให้มันแต่เดี๋ยวไอ้ปอร์เช่กับไอ้เบนซ์คงจะมาช่วยสมทบแน่เพราะมันส่งมาไลน์กลุ่มไม่ใช่ส่วนตัว
Bote : ไหนบอกว่าน้องกูไม่เป็นไรไง
Bote : ตอบดิไอ้เหี้ย!!
Bote : น้องกูมีปัญหาทางสมองคือไรบอกความจริงกู
Bote : อย่าเงียบดิไอ้สัส!!
Bote : อ่านแต่ไม่ตอบ...ควย
Jaguar : กูคิดว่าความจำเสื่อม ขาใส่เผือกอ่อนหนึ่งอาทิตย์
Bote : แล้วมึงบอกน้องกูปรกติเนี่ยนะไอ้สันดานหมา
Porsche : กูกลัวมึงตกใจไง แล้วมึงคุยกับน้องแล้วเหรอ?
Bote : เออ ไอ้จากัวร์ดูน้องกูดีๆห้ามจับทำเมียเด็ดขาด!
Benz : กรรมคนรอ!
Bote : ถ้าแค่นี้รอไม่ได้ก็อย่ามายุ่งกับน้องกู!!
Jaguar : เออ นี่แฟนกูจะไม่ดูแลได้ไง
Bote : ดูแลน้องกูให้ดีห้ามกอดจูบลูบคล้ำ!
Jaguar : แค่กอดก็ไม่ได้เหรอวะ นั่นแฟนกู
Benz : ไอ้โบ๊ทมึงอย่าหวงเกินดิ
Porsche : น้องมึงแต่แฟนเพื่อนนะไอ้สัตว์
Bote : ก็ได้ แต่ถ้ามินนี่เสียใจกูเอามึงตาย
จากัวร์หันไปมองคนรักที่นั่งมองเขาตาปริบๆไอ้โบ๊ทมันคงไลน์มาบอกแล้วแหละว่าให้มาอยู่กับเขาก่อน พรุ่งนี้หมอคงจะให้คำตอบแล้ววางแผนการรักษาได้แน่นอนเพราะลูกชายเพื่อนพ่อเป็นเจ้าของไข้เองแล้วยังเป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาลนี้ด้วย เขาไว้ใจมากพอสมควร
“ทำไมเจ็บคอจังคะ?” เธอกลืนน้ำลายก็เจ็บแล้วซึ่งมันน่าแปลก
“คอช้ำคงจะกระแทกกับขั้นบันได หัวก็แตกขาก็เจ็บจนต้องใส่เผือกอีก เฮียเป็นห่วงมากนะ” คนรักทั้งคนใครไม่เป็นห่วงก็บ้าแล้วล่ะ
“แล้วสมองฉันเป็นอะไรรึเปล่า?”
“ไม่เป็นอะไรเลยแต่พรุ่งนี้คงต้องสแกนสมองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ มินนี่จำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” เขาวางข้าวต้มร้อนๆลงให้เธอคิดว่าคงจะบอกเรื่องของเราเลย
“ไม่ได้ค่ะ ฉันเหมือนกำลังคุยกับใครตรงบันไดอยู่แล้ว…นึกไม่ออก!” ทุกอย่างมันมืดยอดหมดเลยเธอพยายามนึกเท่าไรก็คิดไปออก
“แต่ว่าทำไมฉันถึงไว้ใจเฮียนะทั้งความจริงฉันกลัวเฮียจากัวร์มากๆเลย งงใจตัวเองจัง” ไหนๆก็จะต้องไปอยู่กับเขาแล้วบอกไปเลยจะเป็นไรไปอีกอย่างเฮียจากัวร์คงรู้อยู่แล้วแหละ
“ถ้าเฮียบอกว่าเราเป็นแฟนกันละจะเชื่อไหม?”
“ห๋า!! ฟะ..แฟนงั้นเหรอ?” เธอแทบจะพ่นข้าวต้นใส่หน้าเขาคิดภาพไม่ออกเลยจริงๆ
“อื้ม เรารักกันมากด้วยนะ เรานัดจะไปดูหนังกันไงนี่ตั๋วที่จองยังอยู่เลย” เธองงมากแต่มันก็ดีไม่ใช่เหรอที่บอกไปแบบนี้
“ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมเนี้ย? ฉันเป็นแฟนกับคนที่น่ากลัวเนี่ยนะมันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่!!” เธอโวยออกมาเสียงดังอย่างไม่เชื่อเฮียจากัวร์ต้องหลอกเธอแน่นอน
“คิดสิทำไมไอ้โบ๊ทถึงยอมให้มาอยู่กับเฮีย มันก็รู้ว่าเราคบกันแล้ว!” เขาจะทำให้เธอหายกลัวแล้วรักกันจนได้ เขาจะใช้ประโยชน์จากความจำเสื่อนครั้งนี้ให้มากที่สุดเพื่อได้เธอมา
“เพื่อนฉันรู้ไหม?”
“พึ่งรู้เมื่อเช้านี่เอง มินนี่เฮียพูดจริงๆนะ”
“แต่ว่าฉันยังไม่เป็นของเฮียใช่ไหม?”
“มินนี่เราเป็นผัวเมียกันแล้วนะ แต่มินนี่ยังไม่อยากบอกใครไงนึกสิ” นี่เป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสจริงด้วย เขาโกหกแล้วมินนี่เหมือนจะเชื่อคงเพราะไอ้โบ๊ทให้มาอยู่กับเขาด้วยมั้ง ต่อไปนี้จะนอนกอดมินนี่ทุกคืนแล้วจะจูบกันทุกวันจนกว่าเธอจะพร้อมเป็นเมียเขาจริงๆหรือความรักเรามันมั่นคงพอ
“ฉันจำอะไรไม่ได้เลย” เธอจะบ้าตายให้ได้เลยอยู่ดีๆมามีผัวซะงั้นแล้วไอ้รสชาติการแสดงความรักแบบนั้นมันเป็นยังไง นึกถึงความรู้สึกไม่ออกจริงๆนะ
“กินข้าวเถอะเรายังมีเวลาอีกเยอะ”
“เฮ้อ...นี่เราเป็นผัวเมียจริงๆเหรอทำไมไม่รู้สึกเลย”
“งั้นแบบนี้ละรู้สึกไหม?” ดึงเธอเข้ามาจูบทันทีแล้วรวบมือเล็กที่ตกใจตีเขาเอาไว้เเล้วจูบเธออย่างโหยหาแฝงไปด้วยความหิวกระหายจนแทบบ้าอยู่แล้ว
“คุ้นบ้างไหม?” เขากระซิบถามชิดริมฝีปากเธอ
“คุ้น” เหมือนเคยมีความรู้สึกนี้มาก่อนจริงๆเธอสบตาเขาก่อนจะหลับตารับจูบแสนหวานของเขาอีกครั้งที่เนินนาน
เหมือนเคยจูบกันจริงๆความรู้สึกมันชัดมาก!