หญิงสาวถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ปกติชื่อของเธอก็ไม่ได้เรียกยาก เพราะซารีน่าก็เรียกได้อย่างชัดเจน แต่ทำไมทั้งเขาและคนของเขาถึงมีปัญหาในการเรียกชื่อเธอนัก
“โอเค โอเค เรียกน้ำผึ้งก็ได้” หญิงสาวตัดปัญหา แต่ดูเหมือนว่าชื่อนี้จะยิ่งเป็นปัญหามากกว่า เพราะเขาได้แต่พยายามอ้าปาก แต่ก็เปล่งเสียงไม่ออกจนหญิงสาวต้องแปล
“ฮันนี่” สิตมนบอกอย่างรำคาญ
ชายหนุ่มพยักหน้าและยิ้มออกมา “ค่อยยังชั่วหน่อย... มายฮันนี่” เขาเรียกชื่อเธอย้ำแล้วผิวปากเดินผ่านออกไปห้องอาบน้ำ หญิงสาวได้แต่อุ้ม เดลล่าและยืนงง
“ฉันไปเป็นของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แม้ซิกแพ็กของคุณจะยั่วยวนให้ฉันอยากเป็นมาก แต่ฉันก็มีมนุษยธรรม ฉันจะไม่ยุ่งกับสามีเพื่อนเด็ดขาด นอกจากแอบมอง” หญิงสาวบอกเบาๆ เหมือนรำพึงอยู่ในลำคอมากกว่า
ความสุขของสาวโสดเลือกมากอย่างเธอคือการได้ส่องอินสตาแกรมของหนุ่มหล่อทั้งไทยและต่างชาติ มันเป็นโลกและความสุขของผู้หญิงหลายๆ คน เพราะฉะนั้น... เมื่อได้เห็นกับตาชัดๆ เธอก็ไม่ลังเลและอายที่จะมองเพื่อหาความสุขทางใจให้กับตัวเอง
แม้ว่าจะมีคนมาจีบหลายคน แต่เมื่อเห็นชีวิตของซารีน่า เธอก็เลือกที่จะครองตัวเป็นโสดและอยู่คนเดียวแบบนี้ดีกว่า ถึงซารีน่าจะมีเหตุผลของเธอ แต่สิตมนก็ไม่เคยเห็นความสุขจริงๆ จากเพื่อนสาวสักที จนกระทั่งถึงตอนนี้เธอก็ต้องแยกจากลูก
แต่ไม่คิดว่าความชอบของตัวเองจะเป็นปัญหาเมื่อโดนจับได้แบบนี้ เธอจำได้ว่าไม่เคยต้องยืนทนอายแบบนี้มาก่อน
หลังจากชายหนุ่มออกไปแล้วหญิงสาวก็พาเดลล่าไปอาบน้ำ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะอาบน้ำ เธอต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม กว่าจะหาเสื้อผ้าของเด็กน้อยเจอก็ทำเอาเธอแทบลมจับ เมื่อต้องเดินหาตามตู้ในขนาดห้องนอนที่ใกล้เคียงกับสนามบาสเกตบอลของเขา
เขาไม่ได้บอกเอาไว้และไม่ได้มองเห็นง่ายเหมือนบริเวณที่ใช้ชงนมของเดลล่า
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงหญิงสาวชูชุดกระโปรงสีแดงขึ้น เธออมยิ้มให้กับความน่ารักของชุดที่เขาเตรียมเอาไว้ คิดถึงหน้าเพื่อนสาวอีกครั้ง ถ้าหากว่าซารีน่ามาอยู่ตรงนี้ เธอเชื่อว่าเพื่อนสาวของเธอคงมีความสุขมากกว่าที่เธอรู้สึกในตอนนี้
หญิงสาวถอนหายใจเมื่อคิดถึงเพื่อนรัก
“เขารักลูกนะซารีน่า เดลล่ามีความสุขดีที่อยู่ที่นี่ เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะดูแลเขาแทนเธอ หวังว่าเราจะได้เจอกันเร็วๆ นี้” หญิงสาวบอกเบาๆ ผ่านสายลมไปถึงเพื่อนที่เธอไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้
สักวันจะต้องหาทางออกจากที่นี่เพื่อไปเจอซารีน่าให้ได้ อย่างน้อยก็ขอให้ได้ส่งสัญลักษณ์บางอย่างเอาไว้ให้เธอได้เห็น
ชายหนุ่มเจ้าของคฤหาสน์ไม่กลับเข้ามาในห้องอีกเลยหลังจากวันนั้น จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นไปนับสัปดาห์ สิตมนยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นนักโทษเข้าไปทุกวัน เพราะเธอไม่ได้ออกไปไหนเลยนอกจากพื้นที่ในห้องกับห้องอาหารที่เคยไปเท่านั้น
จากตอนแรกที่เธอรู้สึกประทับใจชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่าเขาเอ็นดูเดลล่าอยู่ด้วยไม่ห่างกาย แต่ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเกลียดความเผด็จการของเขา ที่ผ่านมาคงดูแลเพราะความจำเป็น หลังจากมีเธอเข้ามาช่วยดูแลเขาไม่เคยเข้ามาหาลูก
“ไอ้ผู้ชายหน้ากบ ไข่แล้วทิ้ง ใครๆ ก็ทำได้ ขาดความรับผิดชอบ อยู่บ้านหลังละหลายร้อยล้านยูโร แต่สันดานสองสลึง ขอให้เป็นหมัน” หญิงสาวแช่งเขาไปด้วย เขย่าขวดนมไปด้วย แต่จังหวะของมันก็ยิ่งแรงขึ้นๆ ตามสภาวะอารมณ์ของเธอ
อารมณ์ของหญิงสาวเหมารวมกับที่เขาขังเธอเอาไว้ในห้องไม่ได้ออกไปไหน ต่อให้เป็นผู้หญิงที่ชอบอยู่คนเดียวก็ยังอยากออกไปไหนบ้างตามประสาผู้หญิง ยิ่งเขายึดโทรศัพท์ของเธอไปด้วยแล้ว เธอก็ยิ่งโกรธมาก
อย่างน้อยก็ขอให้ได้ออกไปสวนดอกไม้ เธอก็ทำได้แค่นั่งมันผ่านกระจก เธออยากได้อากาศบริสุทธิ์ที่นอกจากเครื่องปรับอากาศที่อยู่ภายใน
หลังจากหนูน้อยเดลล่าหลับ สิตมนก็เดินไปนั่งชันเข่าอยู่หน้ากระจกมุมเดิม เหม่อมองออกไปที่สวนดอกไม้ เธอมักมานั่งอยู่ตรงนี้ทุกวันจนกระทั่งฟ้าด้านนอกมืด นั่นหมายถึงเวลาค่อนข้างเย็นในช่วงปลายซัมเมอร์ของที่นี่ แต่ก็มีอากาศหนาวเย็นในช่วงกลางคืน
หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นไปจัดการตัวเองเพื่อเตรียมตัวนอน เธอใช้พื้นที่กว้างของเตียงคนเดียวทั้งหมด และให้เดลล่านอนอยู่บนเตียงเด็กที่เขาสั่งมาหลังจากวันนั้น เธอเองก็กลัวว่าตัวเองจะนอนละเมอเผลอทับตัวเดลล่าแบนเสียก่อนเหมือนกัน
สิตมนทิ้งตัวนอนลงบนเตียงและหลับไปในเวลาไม่นาน เธอเป็นคนนอนหลับง่ายและหลับสนิท แต่จะต้องตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อที่จะได้ตื่นขึ้นมาให้นมเดลล่าเป็นเวลา เผื่อว่าตัวเองจะไม่รู้สึกตัวเมื่อหนูน้อยร้องหิวนม
ซันเซสกลับเข้ามาในห้องในเวลากลางดึก หลังจากผ่านการประชุมและเดินทางมาหลายชั่วโมง เขาเดินไปหาเดลล่าที่เตียงเด็กและหอมแก้มเธอจนหนำใจให้หายคิดถึงจึงหมุนตัวกลับ
เครื่องปรับอากาศในห้องทำงานได้ดี แต่เขากลับร้อนรุ่มในใจเมื่อสายตาคู่คมสีมรกตของเขาหันไปมองเห็นคนบนเตียง ชายชุดนอนของเธอร่นขึ้นไปอยู่บนเนินอก ยังดีที่แพนตี้ลูกไม้ตัวเล็กปกปิดด้านล่างเอาไว้ ตอนนี้เขานึกอยากหักคอคนซื้อชุดนี้มาให้เธอ
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดลึกและพ่นลมออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจใช้ผ้าห่มคลุมตัวเธอเพราะไม่อยากแตะต้องล่วงเกินเธอ หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย กลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า
เปลือกตาหนักอึ้งของหญิงสาวค่อยๆ ปรือขึ้น ภาพเลือนราง ตาพร่ามัวเหมือนกำลังอยู่กับผู้ชายที่เธอแอบหลงรัก ใบหน้าของเขายังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำไม่จางหาย ตอนนี้เขานั่งอยู่ปลายเตียงและกำลังค่อยๆ โน้มตัวลงมาจูบเธอ เธอเผยอปากรอรับสัมผัสของเขาอย่างเต็มใจ
มือหนาของชายคนรักสอดใต้แผ่นหลังของเธอ ค่อยๆ ช้อนอุ้มตัวหญิงสาวขึ้นมา แต่ศีรษะของเขากลับโน้มลง แนบริมฝีปากร้อนบดขยี้ริมฝีปากนุ่มของเธออย่างโหยหาสุดหัวใจ
หญิงสาวใช้แขนโอบรัดและจูบเขาอย่างเต็มใจ มือของชายในฝันที่เธอโหยหาเลื่อนลงจากแผ่นหลังมาจับที่สะโพกของเธอเอาไว้ ตรึงไม่ให้ขยับเขยื้อน หญิงสาวค่อยๆ ปล่อยมือที่โอบรอบลำคอของเขาเลื่อนลงมาตรงหน้าอก เธอสะกิดนิ้วเขี่ยหน้าอกเขาเบาๆ อย่างหยอกเย้า
“คุณจริงๆ ใช่ไหมคะ” หญิงสาวเพ้องึมงำในลำคอทั้งที่ยังหลับตาพริ้ม
ชายหนุ่มที่ถูกหญิงสาวคร่อมเอาไว้ทั้งตัว ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสของเธอ เลือดในตัวร้อนรุ่มพุ่งโชนราวกับน้ำเอ่อในเขื่อนที่พร้อมจะไหลทะลักออกมา เขาพยายามดันตัวเธอออกเพื่อเรียกสติของเธอ
แต่สิตมนก็ทำเสียงฮึดฮัด รั้งคอของชายหนุ่มลง และประทับเรียวปากเล็กได้รูปของเธอประกบจูบกับริมฝีปากหนาของเขาอีกครั้ง อีกทั้งมือของเธอก็ซุกซนปัดป่ายไปทั่ว
“ฮือ... ที่รัก ฉันต้องการคุณ” หญิงสาวเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา
มีหรือว่ามาเฟียผู้ทรงอิทธิพลอย่างเขาจะยอมอ่อนข้อให้ เขากลับยิ่งได้ใจ ค่อยๆ แทรกลิ้นบดเคล้าช่องปากหวานละมุนของเธออย่างอิ่มเอม
“อืม...” หญิงสาวครางลอดไรฟันออกมาเขาก็ยิ่งย่ามใจ ละเลียดแทะเล็มริมฝีปากนุ่ม
มือหนาของเขาค่อยๆ สอดเข้าใต้ชุดนอนของเธอ สองมือของเขาก็ซุกซนไม่ยิ่งหย่อนจากเธอเมื่อครู่ หญิงสาวเบือนหน้าหลบเล็กน้อย
“ณเดช คุณทิ้งญาญ่ากลับมาหาฉันแล้วใช่ไหมคะ” ประโยคที่หลุดออกมาจากปากของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงัก ยกคอขึ้นมอง