ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำ เห็นหญิงสาวนอนขดอยู่ข้างเตียง ทั้งที่เขาเผลอเหยียบขาเธอไป แต่หญิงสาวก็ยังนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว คงจะหนาวเพราะอากาศเย็น และพื้นพรมก็ไม่เหมาะสำหรับการนอนหลับเป็นอย่างยิ่ง เขาเผลอหลับจนลืมเธอไปอีกครั้ง
เขาช้อนอุ้มเธอขึ้นไปบนเตียง หญิงสาวก็ยังหลับสนิท หลังจากที่เขาออกมาจากห้องน้ำชายหนุ่มก็เดินเลี่ยงเข้าไปในห้องทำงาน ทำงานของตัวเองต่อ
ปกติเขาเป็นคนทำงานไม่เป็นเวลา ในห้องทำงานของเขามีระบบการสื่อสารที่เชื่อมต่อการทำงานเอาไว้เป็นอย่างดี เขาสร้างมันขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพี่คาร์ลอส ปาร์คโดยไม่จำเป็น เพราะเขาไม่ต้องการที่จะ สานต่อกิจการของบิดามาตั้งแต่ต้น
ในห้องทำงานของเขาเป็นเขตหวงห้ามพิเศษ ไม่มีใครสามารถเดินเข้าไปได้ แม้กระทั่งเลขานุการคนสนิทหรือบอดีการ์ดทุกคนของเขา
ชายหนุ่มเดินออกมาดูเดลล่าเป็นระยะอย่างเป็นกังวล และเขาก็ต้องตกใจแล้วรีบวิ่งมาที่เตียงเมื่อเห็นสิตมนพลิกตัวนอนทับตัวสาวน้อยอยู่ แม้ว่าเตียงของเขาจะมีขนาดกว้างมากกว่าปกติเท่าตัวก็ตาม เธอน่าจะเป็นคนนอนดิ้นพอสมควร และไม่สมควรอย่างยิ่งที่เดลล่าจะนอนร่วมเตียงกับเธอเพียงลำพัง
แต่เมื่อมาถึงเขาก็รีบดันตัวของหญิงสาวออก เขาถอนหายใจอย่าง โล่งอกเมื่อเธอเพียงพาดขาคร่อมทับและผ้าพันตัวของหนูน้อยก็หนามากพอไม่ทำให้เธอเป็นอันตราย
ถึงอย่างนั้นสิตมนก็ยังไม่รู้สึกตัว เขาได้แต่ส่ายหน้าเหนื่อยๆ เพลียหัวใจไปกับตำแหน่งพี่เลี้ยงที่เขาตั้งใจจะให้เธอดูแลเดลล่าแทน เหมือนเขาจะคิดผิดไปถนัด และตอนนี้เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าหญิงสาวต้องไม่เคยมีลูกมาก่อน เธอไม่มีสัญชาตญาณของความเป็นแม่สักนิด
สิ่งที่เขาต้องคิดและต้องค้นหาต่อ เธอเกี่ยวข้องอะไรกับเดลล่ากันแน่
ชายหนุ่มเหลือบมองนาฬิกา เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาที่เดลล่าตื่นขึ้นมาดื่มนม เขาจึงเดินเลี่ยงไปชงนมและพาเธอเข้าไปในห้องทำงานด้วย ในช่วงเวลาที่ต้องดูแลเดลล่าเอง เขาสามารถชงนมได้คล่องแคล่วขึ้น
ซันเซสอุ้มเดลล่าออกมาจากห้องในตอนเช้า ในขณะที่สิตมนก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เธอรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียงเพียงคนเดียวจนกระทั่งเช้า
ชายหนุ่มสั่งคนของเขาให้หาเตียงเด็กมาเสริมในห้องอย่างเร็วที่สุด แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเตียงของเขากว้างขวางมากพอ สามารถจะนอนได้หลายคน เห็นแบบนี้เขาก็ไม่กล้าเสี่ยง
“ไปนอนที่ไหนกันมาคะ” สิตมนเป็นคนถามก่อน เดินไปรับเดลล่าจากมือของเขา
“เมื่อคืนเธอเกือบจะทับเดลล่าตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มบอกอย่างหัวเสีย ถึงตอนนี้หญิงสาวก็ยังไม่รู้ตัว
“ไม่จริง ทำไมฉันไม่รู้สึก” หญิงสาวเถียงกลับ
“แล้วรู้สึกตัวหรือเปล่าว่าทำไมถึงไปนอนบนเตียงได้” ชายหนุ่มถามกลับ สีหน้าของเขาเหนื่อยหน่ายกับเธอเต็มที
“ก็...” หญิงสาวเตรียมตัวปฏิเสธก็อ้าปากค้าง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนอนอยู่ข้างเตียง แต่กลับตื่นขึ้นมาบนเตียง
“ก็อะไร”
“ก็ไม่มีอะไรมาก... อยากบอกว่า ขอบคุณ ถ้าคุณเป็นคนอุ้มฉันขึ้นมา” หญิงสาวบอกเสียงเบาลงในประโยคหลัง เหมือนครางงึมงำในลำคอมากกว่าจะพูดกับเขา
ชายหนุ่มเผลอกระตุกยิ้มตรงมุมปากเล็กๆ แต่เขาก็ต้องรีบเก๊กหน้านิ่งเอาไว้เหมือนเดิม รอยยิ้มที่เขาเก็บเอาไว้คนเดียวมานานนับห้าปี ตอนนี้มีผู้หญิงสองคนที่ทำให้เขาหลุดยิ้มออกมาอย่างเผลอๆ
เดลล่าทำให้เขายิ้มได้เต็มวงปากอย่างเต็มใจ ไม่มีข้อแม้ใดๆ ที่เขาจะสามารถรักษาใบหน้าเรียบนิ่งได้ในเวลาที่อยู่กับเธอ
กับอีกคนคือผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เธอเหมือนผู้หญิงเก่ง ก๋ากั่นไม่เกรงกลัวอะไร แต่ในสายตาของเขา เธอกลับเป็นผู้หญิงอ่อนหัด เฟอะฟะที่สุด ลองได้นอนหลับเป็นตายขนาดนี้ จะมีใครจับปล้ำก็คงไม่รู้ตัว
“เอาล่ะ ฉันต้องไปทำงานแล้ว” เขาตีใบหน้าเรียบนิ่ง บอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่แตกต่างจากใบหน้า
“ฉันก็ไม่ได้อยากรู้ รึเปล่า?” หญิงสาวบอกกวนๆ เมื่อเห็นใบหน้าขี้เก๊กจนชวนกวนประสาทของเขา เธอเห็นเขายิ้มให้กับเดลล่าน่ามองกว่าเป็นไหนๆ ทำไมต้องมาเก๊กหน้านิ่งใส่เธอ
“หน้าที่ของเธอคือเลี้ยงเดลล่าให้ดี ห้ามแตะต้องของในห้อง และห้ามออกไปเกินบริเวณนี้เด็ดขาด อยากได้อะไรก็กดปุ่มตรงนี้และบอกพวกเขาไป”
“ฉันไม่ใช่มด จะได้ไต่ออกไปจากห้องนี้ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม เขารู้ทั้งรู้ว่าที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม แต่กลับทำเป็นสั่งเธอ
“เธอเคยรู้จักฉันมาก่อนหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามเหมือนเพิ่งจะนึกได้
หญิงสาวส่ายหน้าแรงๆ ตอบทันที “ไม่รู้จัก”
ชายหนุ่มหรี่ตามองอย่างจับผิด “เธอแน่ใจหรือ”
“แน่ยิ่งกว่าแน่ ฉันไม่มีวันอยากรู้จักผู้ชายอย่างคุณ”
ชายหนุ่มจ้องตาเธอนิ่ง เตรียบจับผิดคำตอบของเธอจากแววตา “แล้วทำไมในโทรศัพท์ของเธอจึงมีรูปภาพของฉัน”
คำถามของเขาทำให้ใบหน้าของหญิงสาวแดงไปถึงใบหูเพราะความอาย เมื่อความลับของตัวเองหลุด ในโทรศัพท์ของเธอมีภาพผู้ชายนับพันจริงๆ และเธอก็ไม่สามารถจำได้หมดว่าคนในภาพเป็นใครบ้าง บางภาพเธอไม่รู้จักชื่อของเจ้าของภาพด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นต้น
ทำไมเธอไม่รู้จักเขามาก่อน...
จะมีเพียงบางคนที่เธอรู้จักและติดตามในอินสตาแกรม นอกนั้นก็เป็นหนุ่มฮอตแห่งปี นักธุรกิจไฟแรง หรือนักแสดงดาราหนุ่มชื่อดังที่เธอตามเก็บภาพตามสื่อต่างๆ เท่านั้น
จะบอกว่าเป็นความคลั่งดาราของเธอก็ไม่ผิด เธอนิยมมองภาพเรือนร่างสมบูรณ์ของผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายที่มีไรเคราบางๆ เจืออยู่บนใบหน้าคม
“ว่าไง”
“เอ่อ...” เสียงของเธอเหมือนหลุดเข้าไปในลำคอ แต่สายตาคู่คมของเขาก็ยิ่งจ้อง
เธอควรจะบอกเขาว่าอย่างไรดี บอกตามตรง หรือโกหกให้จบเรื่อง แต่ตอนนี้เธออายจนแทบจะมุดลงบนพื้นพรมอยู่แล้ว
‘ไม่น่าเลยยัยน้ำผึ้งเอ๊ย! เพราะความบ้ามองหุ่นแน่นๆ ของผู้ชายของเธอแท้ๆ’ หญิงสาวคิดในใจ
“หืม...” ชายหนุ่มส่งเสียงถามย้ำ สายตาคู่คมก็ยิ่งจ้องอย่างจับผิด
“ฉันเคยแอบชอบคุณ” หญิงสาวโพล่งออกมา
เขามองเธออย่างไม่เชื่อคำพูด เพราะเมื่อครู่เธอเพิ่งบอกว่าไม่เคยรู้จักเขามาก่อน
“คือ... คือ... มันก็แค่ภาพในความฝัน ฉันไม่จำเป็นต้องรู้จักคุณก็ได้ แค่เห็นตามแผงหนังสือแล้วรู้สึกชอบ ก็หาภาพมาเก็บเอาไว้ดูเท่านั้นเอง”
“แล้วเธอชอบผู้ชายได้ทีละเป็นร้อยคนเลยเหรอ”
“แล้วมันผิดปกติตรงไหน ในเมื่อฉันไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ ก็แค่ชอบอยู่ในใจ”
“แต่เธอทำให้ฉันเดือดร้อน”
“เดือดร้อนตรงไหน”
“เพราะเหตุผลนี้หรือเปล่า เธอถึงได้เข้ามาในบ้านของฉัน เพราะต้องการจะเข้าถึงตัวฉัน” เขาถามต่อ
หญิงสาวกลอกตามองบน ในความช่างเข้าข้างตัวเองของเขา คนอะไรจะมั่นหน้าปานนั้น แม้จะหล่อขั้นเทพก็เถอะ
“ฉันพร้อมที่จะออกไปตั้งแต่วินาทีนี้ ถ้าคุณยินยอม”
“เอาล่ะ... ฉันขี้เกียจเถียงกับเธอแล้ว ว่าแต่เธอชื่ออะไร” ชายหนุ่มเหมือนเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ถามชื่อของเธอ ครั้งก่อนอดัมเคยบอกแต่เขาก็ลืม ชื่อภาษาไทยเรียกยากชะมัด
พอชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง หญิงสาวก็แอบถอนลมหายใจอย่างโล่งอก
“ฉันชื่อสิตมน” หญิงสาวบอก
“ซิ-ตาย-โมน” ชายหนุ่มทวนประโยค หญิงสาวหน้าเหวอเมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง
“สิ-ตะ-มน” หญิงสาวทวนย้ำชัดๆ ทีละคำอย่างชัดเจน แต่ชายหนุ่มก็ยังทำหน้างง พูดย้ำคำเดิมที่เขาเคยออกเสียงได้ “ซิ-ตาย-โมน”