สิตมนเดินเข้ามาข้างๆ เตียง ชะเง้อคอไปมองคนบนเตียงอย่างเอ็นดู รอยยิ้มของเดลล่าทำให้เธอพลอยยิ้มออกมาด้วยเหมือนอย่างชายหนุ่ม เมื่อสัมผัสได้ว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้เขาก็เงยหน้าขึ้นมอง เห็นรอยยิ้มที่ค้างอยู่บนริมฝีปากหญิงสาวพอดี
ชายหนุ่มเผลอมองอยู่นานอย่างลืมตัว เขาเพิ่งได้เห็นรอยยิ้มของเธอเป็นครั้งแรก สิตมนเป็นผู้หญิงที่มีฟันเรียงตัวกันอย่างสวยงาม รับกับรอยยิ้มหวานของเธอ ทำให้คนมองแทบไม่อยากละสายตา ซึ่งไม่แตกต่างจากรอยยิ้มของเดลล่าสักนิด
ริมฝีปากของหญิงสาวค่อยๆ หุบลง เมื่อเห็นสายตาของเขาที่มองอยู่นานจนเธอรู้สึกประหม่า
ครืด...
ลมในช่องท้องของหญิงสาวส่งเสียงออกมาขัดจังหวะ ชายหนุ่มหันกลับมาพร้อมกับเสียงหัวเราะขำ เขาไม่เคยได้ยินท้องของผู้หญิงร้องเสียงดังมากขนาดนี้สักที
“หิวเหรอ”
“ยังจะกล้าถามอีก” หญิงสาวใช้เสียงดังกลบความอายของตัวเอง
“แล้วทำไมไม่กิน”
“ฉันจะออกไปจากห้องนี้ได้ยังไง แล้วจะบอกใคร เพราะฉันไม่รู้จักใครสักคน”
ชายหนุ่มพยักหน้าเหมือนเพิ่งจะนึกได้ เขาลืมไปจริงๆ ว่าไม่ได้บอกเธอเอาไว้ก่อน และงานของเขาก็ยุ่งติดพันหลายชั่วโมงจนลืมเธอไปจริงๆ กว่าจะจัดการเสร็จก็ปาไปหลายชั่วโมง
เขาขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง กดอินเตอร์คอมและสั่งคนด้านนอกสองสามประโยค จากนั้นเขาก็หันมาบอกเธอพร้อมกับชี้มือประกอบ “เดินอ้อมไปด้านซ้าย ห้องรับประทานอาหารของฉันจะอยู่ตรงนั้น อีกสิบนาทีเชฟจะนำอาหารขึ้นมาเสิร์ฟเธอ”
“ขอบคุณ” หญิงสาวบอกก่อนจะเดินไปตรงที่ชายหนุ่มบอก
เดินไปพอสมควรเธอก็ไม่เห็นว่าจะมีห้องอาหารอย่างที่เขาบอก จะมีก็เพียงแต่ผนังสีทึบ แต่พอเธอขยับไปใกล้อีกนิด ผนังก็ค่อยๆ เลื่อนเปิดออก
“อ้าว!” เธอตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นแผ่นผนังที่ไม่มีรอยค่อยๆ แยกออกจากกัน
ด้านในเป็นห้องกระจกโอ่อ่าที่มีสวนดอกไม้จากด้านหน้าทอดยาวมาจนถึงด้านหลัง แม้จะเป็นช่วงเวลากลางคืน แต่สามารถมองเห็นวิวสวนกว้างจากทางด้านหลังของคฤหาสน์ได้อย่างชัดเจนด้วยหลอดไฟที่ติดให้แสงสว่างโดยรอบ ขนาดของมันใกล้เคียงกับคำว่าสวนสาธารณะมากกว่าคำว่าสวน ในบ้าน
นับได้ว่าเป็นสวนที่เนรมิตดอกไม้นานาพรรณมาไว้ที่นี่ ในเวลากลางวันคงจะมองเห็นความสวยงามและสดชื่นได้อย่างชัดเจนมากกว่านี้ สายตาของหญิงสาวไปหยุดอยู่ที่แปลงดอกเบญจมาศหลากสีที่สะท้อนกับแสงไฟ ดูเหมือนว่าจะเป็นดอกไม้ชนิดเดียวที่กินพื้นที่มากที่สุดในสวนแห่งนี้
เมื่อเห็นดอกเบญจมาศสีม่วงเธอก็คิดถึงแววตาเศร้าของเพื่อนสาว ซารีน่าชอบดอกเบญจมาศที่สุด หรือว่าความชอบของเธอจะเป็นเหตุผลให้สวนในคฤหาสน์แห่งนี้มีดอกเบญจมาศทุกสี
“ก็ไม่น่าจะใช่นะ ขนาดลูกในท้องยังไม่ดูดำดูดีเลย พอได้เห็นหน้าถึงได้รักหรอกน่า” หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง ค้านกับความคิดของตัวเองเมื่อครู่
“แต่เดลล่าน่ารักขนาดนั้น ใครไม่หลงรักก็เป็นพวกประสาทผิดปกติแล้ว” หญิงสาวแย้งกับความคิดตัวเองไปมา เธอเหมือนคนบ้าที่กำลังพูดอยู่คนเดียว
หญิงสาวยืนคิดเพลินๆ เธอรีบหมุนตัวกลับอีกทีเมื่อได้กลิ่นอาหาร และต้องตกใจจนร้องอุทานออกมา เมื่อตัวเกือบจะชนกับชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอในระยะห่างไม่ถึงคีบ
“อุ๊ย!” เธอยกมือขึ้นทาบอก ถอยหลังมาหนึ่งก้าว อีกคนรีบขอโทษเธอ เขาอยู่ในชุดสีขาวที่เดาได้ไม่ยากว่าทำหน้าที่อะไรในคฤหาสน์แห่งนี้
“ขอโทษ ผมจะบอกคุณว่าอาหารเสร็จแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณเบาๆ เธอกวาดสายตามองรอบห้องอีกครั้งอย่างแปลกใจ สังเกตว่าไม่มีประตูในบริเวณไหนนอกจากทางที่เธอผ่านมาเมื่อครู่ และมันก็ถูกปิดสนิทไปแล้ว
เชฟหนุ่มยังจับปฏิกิริยาของเธอไม่วางตา เมื่อเห็นอย่างนั้นหญิงสาวจึงปัดความสงสัยออกไป เดินไปที่โต๊ะอาหารเพราะท้องของเธอเริ่มประท้วงหนักขึ้น ชายหนุ่มยังเดินตามเหมือนเธอเป็นนักโทษก็ไม่ปาน เมื่อเธอลงมือรับประทานอาหาร เขาก็ยืนรออยู่ใกล้ๆ
แม้ว่าสิตมนจะเป็นคนเปิดเผยและง่ายๆ แต่เมื่อมีสายตาจับจ้องตอนกำลังรับประทานอาหารก็ทำให้เธออายได้เหมือนกัน
“คุณออกไปก่อนก็ได้นะคะ ฉันอยู่คนเดียวได้”
“มันเป็นหน้าที่ของผม” อีกฝ่ายตอบกลับทันที หญิงสาวยิ้มเก้อๆ
“คุณเข้ามาทางด้านไหนคะ” สิตมนเขาชวนคุย ถามในสิ่งที่เธอสงสัย ในขณะเดียวกันก็ใช้ส้อมหมุนเส้นพาสต้าส่งเข้าปาก
“ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะตอบคำถามของคุณ” อีกคนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนเดิม หญิงสาวแอบคิดในใจว่าคนที่นี่คงทำงานเหมือนหุ่นยนต์ ทำตามคำสั่งเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าตัวเองควรจะเงียบและงดปฏิสัมพันธ์กับใคร หญิงสาวจึงตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหารตรงหน้า เพราะรสชาติและความหิวของเธอทำให้ไม่มีเวลาเหนียมอายอีกต่อไป
หลังจากเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารหญิงสาวก็เดินกลับทางเดิม ประตูถูกเปิดขึ้นอย่างอัตโนมัติเหมือนตอนที่เธอก้าวเข้ามา จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่รู้ว่าเชฟหนุ่มนำอาหารมาเสิร์ฟเธอจากประตูทางด้านไหน
ซันเซสเหยียดตัวนอนบนเตียง เขาตั้งข้อศอกพยุงตัวนอนตะแคงเอียงเข้าด้านใน มือของเขาถือขวดนมป้อนเดลล่า ในขณะที่มือข้างที่ตั้งข้อศอกเอาไว้อยู่บนศีรษะของเดลล่า นิ้วมือใหญ่ของเขาเกลี่ยผมบางเบาของเธอกล่อมให้นอนหลับไปด้วย
หญิงสาวยืนมองอยู่ห่างๆ มองอย่างชื่นชม นึกถึงเพื่อนสาวของตัวเองอีกครั้ง หากเธอได้มาเห็นกับตาของตัวเอง ซารีน่าคงจะมีความสุขไม่น้อย
จากนั้นเธอก็เข้าไปในห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวของตัวเอง หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเดินออกมา เธอก็เห็นว่าเขานอนกอดเดลล่าอยู่ บนเตียง หญิงสาวเดินไปข้างเตียงและชะเง้อคอมอง เมื่อเห็นขวดนมตกอยู่เธอจึงหยิบไปเก็บ
พื้นที่บริเวณชงนมอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นมาก เธอได้มีโอกาสใช้มันเมื่อตอนกลางวัน มันเป็นความลงตัวอย่างบอกไม่ถูก เคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ในห้องนอนของเขากลายเป็นเคาน์เตอร์ชงนมของเดลล่าไปโดยปริยาย
หญิงสาวหาพื้นที่ว่างสำหรับนอนของตัวเอง เมื่อคิดทบทวนไตร่ตรองอย่างดีเธอก็พบว่าข้างเตียงเหมาะสมที่สุด หากแม้เดลล่ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาดื่มนมในกลางดึก เธอจะได้ยินเสียงหนูน้อยชัดและรู้สึกตัวเร็ว พรมชั้นดีในห้องนอนของเขาคงมีคุณภาพมากกว่าที่นอนที่เธอเคยนอนด้วยซ้ำ
แม้จะผ่านการเดินทางมาครึ่งวัน แต่หญิงสาวก็ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ มาถึงตอนนี้เธอยิ่งสับสนในความสัมพันธ์ของพวกเขา ทำไมเขาไม่มีอาการทุกข์ร้อนจากการหายตัวไปของซารีน่าสักนิด หรือว่าเขาคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่
สิตมนแอบเพิ่มหน้าที่ของตัวเอง ไหนๆ เธอก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยบังเอิญตั้งแต่ต้น ฟ้าคงลิขิตมาแล้ว เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องราวระหว่างพวกเขาเป็นอย่างไรกันแน่ และสิ่งสำคัญอันดับแรก เธอจะต้องหาตัวซารีน่าให้เจอเสียก่อน หญิงสาวมั่นใจว่าเพื่อนของเธอยังมีชีวิตอยู่
หลังจากได้มีเวลาคิดทบทวน เธอก็มีข้อสังเกตหลายอย่าง ถ้าหากวันนั้นซารีน่าถูกทำร้าย ไม่มีทางที่หนูน้อยเดลล่าจะรอดมาได้ และก็ไม่มีทางที่ ซารีน่าจะมีเวลาเขียนจดหมายสั่งเสียเธอ ทุกอย่างมันต้องมีการเตรียมตัวมาก่อน เป็นไปได้ว่าอาจมีการจัดฉากให้เข้าใจผิด
ทั้งกับเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้เองก็ตาม ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะถามเธอไม่กี่ประโยค และยอมง่ายๆ เขาไม่มีความทุกข์ร้อนใดๆ ทั้งสิ้น