หญิงสาวก้าวฉับๆ เข้าไปข้างในบ้านอย่างไม่หวั่นเกรง แม้จะไม่ชอบใจที่ยายเปิดบ่อนไพ่ในบ้าน แต่เมื่อเห็นคนแก่วิ่งกันเหนื่อยหอบเธอก็อดสงสารไม่ได้
“แล่นได้หันปานนี้ บ่เป็นหยังง่ายดอกยายพา” หญิงสาวตอบกลับเป็นภาษาอีสาน เธอพนมมือไหว้ยายและเพื่อนของยายทีละคน
“คือว่าไปอยู่เมืองนอก ได้ผัวกลับมานำบ่ล่ะ” ยายออดขาไพ่ของยายพาถามขึ้น พร้อมกับชะเง้อคอมองหาไปด้วย
หญิงสาวยิ้มแป้น โชว์ฟันขาว “ยังหาคนเหมาะสมกับหนูบ่ได้จ้ะยาย”
“ผู้หญิงอย่างนังผึ้งนี่เหรอจะมีคนเอา ปากหมาก็เท่านั้น นังตัวขัดลาภ” ยายพาว่าหลานสาวแรงๆ
ปกติจะไม่ค่อยถูกกับยายเท่าไหร่เพราะเป็นคนพูดตรงและคำพูดคำจาเหมือนกัน ออกจะแรงๆ และห้วน ทั้งคู่เป็นคู่ปรับกันมาตั้งแต่หญิงสาว ยังเล็ก อีกทั้งมีเรื่องที่สิตมนไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายที่ยายคาดหวัง ขอสินสอดหลักล้านจากหลานเขยฝรั่งวัยใกล้ปลดเกษียณ นางก็เกลียดขี้หน้าหลานสาวคนเล็กมากขึ้น
ผิดกับหลานสาวคนโตที่ตามใจนางทุกอย่าง สร้างบ้านใหญ่โต ส่งเสียเงินทองให้ไม่ขาด อีกทั้งไม่ได้อายชาวบ้านชาวช่องในละแวกตำบล โดยที่นางไม่มีโอกาสได้รู้ว่าเงินส่วนใหญ่ที่ได้มา เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของหลานสาวคนเล็กทั้งนั้น
“ยายจะว่าอะไรก็ช่าง หนูเหนื่อย หนูขอไปนอนก่อนนะ” หญิงสาวตัดปัญหา
“แกจะมาสาระแนกับบ้านของข้าไม่ได้นะนังผึ้ง” ยายพาบอกและยืนขวางเอาไว้ ไม่ยอมให้หลานเข้าบ้าน เพราะถ้าหากสิตมนเห็นว่านางทำอะไร มีหวังหลานปากพล่อยของนางต้องพาตำรวจมาจับแน่ๆ
“หนูขอนอนบ้านยายไม่กี่วัน แล้วหนูก็จะไปทำงาน” หญิงสาวบอกอย่างเหนื่อยหน่าย เธอรู้ว่ายายคงยังโกรธเรื่องที่เธอหักหน้ายาย ไม่ยอมแต่งงานกับเศรษฐีฝรั่งวัยไม้ใกล้ฝั่งคนนั้น ผู้ชายแก่จะลงโลงแต่ยังหน้าหม้อ มาชอบเด็กสาววัยสิบแปดอย่างเธอ
“แกจำคำพูดของแกวันที่ก้าวออกจากบ้านหลังนี้ไม่ได้หรือไง แกบอกข้าว่า... แกจะกลับมาพร้อมกับเงินสองล้าน” ยายพาแบมือขอ “ไหนล่ะเงินสองล้าน”
“วันนี้ยังไม่มีหรอก หนูเพิ่งเรียนจบ ทำงานได้หนูก็ให้ยายหมดนั่นแหละ” หญิงสาวบอก
“วันไหนที่แกมี แกค่อยกลับมาที่นี่ ไอ้ตอนที่ข้าจะหาคนที่สามารถเลี้ยงดูแกได้ไม่ลำบาก แกก็ไม่ยอมเอา” ยายพาลำเลิกความเดิมเมื่อครั้งเก่า
นึกถึงเรื่องราวคราวนั้นเธอก็รู้สึกผิดไม่ได้ ขบวนขันหมากยกมาถึงหน้าบ้าน พร้อมสินสอดสองล้านบาทที่ยายพาไปตกปากรับคำกับเขาเอาไว้ก่อน โดยที่นางคิดว่าจะบังคับเธอได้เหมือนอย่างบังคับพี่สาวของเธอ
เมื่อยายบอกความจริงกับเธอตอนที่ขบวนขันหมากยกมาถึงหน้าบ้าน สิตมนเชิดหน้าตอบยายอย่างไม่ยี่หระ ‘ถ้ายายอยากได้ก็แต่งเองเลย อายุของตาแก่นี่ก็พอๆ กับยาย’
‘นั่นปากแกหรือนังผึ้ง’ ยายพาตวาดเรียกชื่อหลานสาวเสียงดังลั่น
‘ยายจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ หนูไม่แต่งเด็ดขาด’
‘ข้าหาผู้ชายที่ดีพร้อม เขาสามารถดูแลแกได้ไม่ต้องลำบากลำบน’
‘ยายต่างหากที่ไม่ต้องลำบากลำบน มีเงินถลุงในบ่อนไพ่ไม่ขาดใช่ไหม’ หญิงสาวตอบกลับคนเป็นยายอย่างรู้ทัน เมื่อเห็นอย่างนั้นยายพาก็ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ
‘แกจะให้ยายขายหน้าชาวบ้านชาวช่องหรือไง’
หากแต่คนเป็นหลานก็ยืนกรานคำเดิมหนักแน่น ‘แล้วการที่ยายขายหลานกินอย่างนี้ ยายภูมิใจมากหรือไง หนูไม่ใช่พี่น้ำฝนที่จะได้ยอมทำตามความต้องการของยายทุกอย่าง’
‘ยังไงแกก็ต้องแต่ง ข้าจะไม่ยอมขายหน้าเด็ดขาด’
‘พูดดีๆ นะยาย ไม่อยากเสียหน้าหรือไม่อยากชวดเงินสองล้าน’ สิตมนถามกลับ เพราะเธอรู้นิสัยยายของตัวเองดี
‘เออ...’ ยายพาจนมุมหลานสาว
‘หนูเสนอทางเลือกให้ ยายก็ไปแต่งเอง’ หญิงสาวบอกพร้อมกับกระชับกระเป๋าสะพายบนไหล่มนของตัวเองจะก้าวออกจากบ้าน
‘หนูจะไปหาเงินสองล้านมาให้ยาย ถ้าไม่มีเงินสองล้านหนูจะไม่กลับ’ หญิงสาวบอกประโยคสุดท้ายและเดินออกจากบ้านมา ปล่อยให้ยายพ่นวาจาด่าทอตามหลังไม่หยุดทั้งหลานเนรคุณ ไม่รักดี โง่ จนกระทั่งเธอเดินห่างออกมาเสียงของยายก็เบาลงไปเรื่อยๆ จนไม่ได้ยิน
หลายคนอาจจะมองว่าเธอเป็นหลานอกตัญญู แต่มันเป็นชีวิตของเธอ เธอก็ควรจะได้เลือกชีวิตของตัวเอง เธออยากเรียนต่อ ใฝ่ฝันที่จะได้เรียนจบสูงๆ ได้ทำงานดี ไม่ใช่เรียนจบมัธยมปลายและมีสามี กะเตงลูกอยู่ในวงไพ่แบบสังคมที่ยายเป็น จนแล้วจนรอดก็ไปกันไม่ได้ต้องหย่าร้าง อย่างที่เห็นกันอยู่เกลื่อน เพราะวัยวุฒิและวุฒิภาวะไม่สูงพอที่จะประคับประคองชีวิตคู่
ยายของเธอเป็นคนติดสบาย หน้าใหญ่ ใจคะนอง อยากได้เงินโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงทำงาน ซึ่งสิตมนไม่ได้ต้องการมีชีวิตแบบนั้น แต่เมื่อนางเป็นยายเธอก็ไม่สามารถบอกให้ยายหยุดและหันกลับมาทำการทำงานได้ ที่ทำได้ก็เพียงประคับประคองชีวิตของตัวเอง ถีบตัวเองให้ออกห่างจากสังคมที่เป็นอยู่โดยให้การศึกษากับตัวเอง
ซันเซสก้าวเข้าไปในอาณาจักรของคาซ่า เขากวาดตามองสำรวจความเรียบร้อยตามความเคยชินและสัญชาตญาณของบุคคลที่ก้าวเข้าไป ในถิ่นของศัตรูเบอร์หนึ่ง ‘ลูคัส คาซ่า’
คาซ่า กรุ๊ป เป็นธุรกิจครบวงจรเกี่ยวกับความบันเทิง รวมไปถึงบ่อนคาสิโนที่มีชื่อเสียงที่สุดในอิตาลี และพูดได้เต็มปากว่ามีธุรกิจด้านมืดครบ ทุกอย่างในนี้ด้วยเช่นกัน
เมื่อก่อนคาซ่า กรุ๊ปกับคาร์ลอส ปาร์คเป็นพันธมิตรเกื้อกูลซึ่งกันและกัน คาร์ลอส ปาร์คทำธุรกิจเกี่ยวกับคาสิโน ในขณะที่คาซ่า กรุ๊ปทำธุรกิจเกี่ยวกับความบันเทิงครบวงจร หากไม่เกิดเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อน พวกเขาคงจะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน
ธุรกิจที่มีชื่อเสียงของคาซ่า กรุ๊ปก็คือการค้าประเวณีข้ามชาติตาม ออร์เดอร์ของเศรษฐีเงินหนามือหนัก ผู้หญิงสวยทั่วโลกที่บุคคลหลงกามเหล่านั้นต้องการ เพียงข้ามคืนพวกเขาก็จะสรรหามาให้ โดยไม่ยึดถือศีลธรรมและความเดือดร้อนของใครนอกจากเงิน
เหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อน หลังจากบิดาของเขาถูกลอบสังหาร คาซ่า กรุ๊ปก็เปิดตัวคาสิโนที่เป็นคอมเพล็กซ์ครบวงจรขนาดใหญ่ภายในเดือนถัดมา รวมถึงลูกค้ารายใหญ่ของคาร์ลอส ปาร์คก็หลั่งไหลไปที่นั่น นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มยังคลางแคลงใจ ตามสืบเรื่อยมาจนกระทั่งถึงวันนี้ แม้จะรู้ว่ามันเกิดขึ้นจริงแต่เขาก็ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดพวกนั้น
เขาเองไม่ได้ชื่นชอบธุรกิจด้านนี้ของบิดา เตรียมที่จะวางมือและส่งต่อธุรกิจนี้ให้กับผู้ถือหุ้นที่พร้อมจะดำเนินการ ขอเพียงแค่เขาได้แก้แค้นให้บิดาสำเร็จ เขาจะหันหลังให้ธุรกิจมืดและกลับไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเขาดังเดิม
เธียร์เดินออกมาต้อนรับเขาด้วยตัวเอง เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ ลูคัส คาซ่า กำลังนั่งแท่นเป็นผู้บริหารคาซ่า กรุ๊ปแห่งนี้แทนบิดาที่กำลังจะวางมือ
เธียร์เป็นหนุ่มนักรักที่มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตไม่ซ้ำหน้าในแต่ละคืน ตรงกับธุรกิจที่เขาทำที่สุด ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามานั่งแท่นตีตราเป็นคนของคาซ่า กรุ๊ปจะต้องผ่านมือเขาก่อนทุกครั้ง ก่อนจะส่งออกไปถึงมือลูกค้าวีไอพี
“ไฮ เพื่อนรัก” ลูกชายคนเดียวของเจ้าของอาณาจักรเอ่ยทักทาย พร้อมกับอ้าแขนจะกอดชายหนุ่ม แต่เขารีบเบี่ยงตัวหลบ ในขณะที่อดัมก็ ขยับตามเช่นกัน
“ฉันไม่นิยมนับคู่ค้าธุรกิจเป็นเพื่อนรัก ต้องขอโทษด้วย” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับส่งมือให้ อีกฝ่ายยิ้มแหย แต่ก็ทักทายตามมารยาท