ตอนที่ 19
1 วันต่อมา
มิลินเรียนเสร็จได้แยกตัวกับเมษาเพื่อจะกลับบ้าน แต่ทว่า มิลินเห็นปราการกับเมษาพลอดรักกัน ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ทำให้มิลินเม้มปากเข้าหากันแน่น เมื่อไหร่จะลืมได้เสียที
“หึ” มิลินขำแห้ง ยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย มิลินเดินมาร้านสะดวกซื้อใกล้มหาวิทยาลัย ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ถือไปเต็มมือ มิลินไม่รู้จะไปที่ไหน นึกขึ้นแต่สะพานแห่งนั้น มือนึงโบกรถแท็กซี่ มือนึงถือถุงเครื่องดื่มไว้
เมื่อมาถึงสะพาน มิลินก็กระดกเหล้าเข้าไปในปากทันที กลิ่นเหล้าแรงจนบาดคอ ทำให้ใบหน้าของมิลินเหยเก หลับตาปี๋เพราะรสชาติของมัน
“ไม่เห็นอร่อยเลยอ่ะ” มิลินที่มองไปยังแม่น้ำ ก้มลงมาดูขวดเหล้าในมือ ปากบอกไม่อร่อย แต่กลับกระดกขึ้นดื่มเหมือนน้ำเปล่า นั่งไปซักพัก มิลินเริ่มรู้สึกว่าสติของตนเองเริ่มพร่าเลือน จึงโบกแท็กซี่กลับไปยังบ้านของฟ้าใส มิลินเค้นหัวเราะเยาะตัวเอง เธอยังลืมปราการไม่ได้ วันนี้มันก็ชัดเจนแล้ว
เมื่อมาถึงประตูบ้านอันคุ้นตา ตอนนี้บรรยากาศภายนอกเริ่มมืดแล้ว มิลินจึงเอื้อมมือไปกดกริ่งหน้าบ้านสองครั้ง ตอนนี้ร่างกายของเธอโซซัดโซเซเล็กน้อย แต่ค่อยๆประคับประคองให้ทรงตัวให้อยู่จนกว่าจะได้เข้าบ้าน
ภาคินที่นั่งทำงานอยู่ในบ้านขมวดคิ้วเล็กน้อย เป็นเพราะแม่บ้านไม่อยู่คงเป็นเขาที่ต้องออกไปรับ ใครกัน ถ้าเป็นฟ้าใส มีกุญแจคงเข้ามาแล้ว ภาคินก้าวขาออกมาหน้าบ้านเพื่อดูว่าใครมา กดกริ่งที่หน้าบ้าน เขาเปิดประตูออกไป พบมิลินที่ใบหน้าแดงก่ำ ส่งยิ้มให้เขาน้อยๆ แล้วเดินเข้ามาข้างใน
“มิลิน” ภาคินพึมพัมออกมาเบาๆ
มิลินเดินปรี่เข้าไปอย่างทุลักทุเล ทำไมฤทธิ์เหล้า มันแรงจัง เมื่อก้าวขาเข้ามาพ้นประตูบ้านเพียงเล็กน้อย ร่างของมิลินฟุบลงไปกับพื้นทันที
ภาคินที่เห็นมิลินล้มลงไปกับพื้น เขารีบวิ่งไปพยุงมิลินให้ลุกขึ้นทันที
“นี่กินเหล้ามาหรอ” กลิ่นเหล้าบวกกับกลิ่นกายที่หอมหวานของมิลินคละคลุ้งมาตีจมูกของเขา เขาจับมิลินให้ลุกขึ้น แต่ร่างกายของมิลินกลับอ่อนปวกเปียก
“หืม หลับไปแล้วหรอ” ภาคินเลิกคิ้ว แล้วอุ้มมิลินมายังห้องนอนของฟ้าใส ภาคินอุ้มมิลินมายังเตียงอันหนานุ่ม วางลงบนเตียงอย่างเบามือ มิลินที่ไม่ได้สติกลับ เอามือไปโอบรัดต้นคอของภาคิน
“ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับมิลิน ไม่รักมิลินหรอ” มิลินพูดทั้งๆที่หลับตาอยู่ ริมฝีปากของมิลินจูบหนักหน่วงไปที่ปากของภาคิน
“อย่าทำแบบนี้ ผมจะอดใจไม่ไหวนะ” ภาคินพยายามผลักใสร่างบางออก แต่กลับโดนร่างบางรัดแน่นขึ้น ภาคินโดนไฟราคะเข้าควบคุม จูบตอบร่างบางอย่างดุเดือด แล้วผลักเธอลงบนเตียง ให้อยู่ใต้ร่าง ของเขา มือของเขาปลดกระดุมเสื้ออย่างชำนาญ ถอดเสื้อผ้าของมิลินทิ้งไว้ข้างๆเตียงอย่างรวดเร็ว เขาลูบไล้มือไปยังเอวคอดบาง หน้าท้องแบนรา ภาคินเองถอดเสื้อผ้าโยนทิ้งไว้ข้างๆเตียง เตรียมที่จะทำขั้นตอนต่อไป
“ตื่นมาเธอคงไม่โกรธนะมิลิน เธอยั่วผมเอง” ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า กดจูบหนักๆไปที่เนินเนื้ออันนุ่มนิ่มของมิลิน
“อื้อ” มิลินครางออกมาเบาๆ
เสียงเล็กๆของมิลินส่งผลให้อารมณ์ของภาคินประทุขึ้น
“ปราการ” มิลินคิดว่าเขาคือปราการ สติของภาคินกลับมาทันควัน ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าทันที ถึงแม้ว่าอารมณ์ของเขาตอนนี้แทบจะกลั้นไม่ไหวแล้วก็ตาม
“เธอรักมันมากเลยหรอมิลิน” ภาคินถามมิลินออกไป ถึงแม้จะไม่ได้คำตอบอะไรกลับมา
ภาคินเลือกที่จะใส่เสื้อผ้าให้มิลิน ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเธอไว้ ก่อนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แม้จะรู้สึกหัวเสียไม่น้อย แต่ภาคินก็พยายามควบคุมตัวเองแล้วกลับมานั่งทำงานเหมือนเดิม
ช่วงนี้ภาคินเอางานกลับมาทำที่บ้านตลอด เพียงเพื่อต้องการจะเจอหน้ามิลิน เมื่อเขาทำงานอยู่ที่บริษัทไม่มีสมาธิจดจ่อกับงานแม้แต่น้อย ใบหน้าหวานๆของมิลินแทรกเข้ามาในหัวอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้จะรู้ว่ามิลินเคยตกเป็นของปราการมาก่อน แต่เขาไม่ได้รังเกียจมิลินแม้แต่น้อย เมื่อเขาได้พบกับมิลินเป็นครั้งที่สาม เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมปล่อยมิลินไป
ฟ้าใสกลับมาจากมหาวิทยาลัย เห็นสภาพมิลินที่มีแต่กลิ่นเหล้าหึ่ง ฟ้าใสถอนหายใจเฮือกนึง “มิลินยังรักปราการอยู่สินะ” ฟ้าใสมองไปยังใบหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง แอบบ่น มิลินเล็กน้อย
“ดีนะที่ยังกลับบ้านถูก” ฟ้าใสบ่นพร้อมลงไปเอากะละมังกับผ้าสะอาดมาเช็ดตัวให้มิลิน
“เฮ้อ มิลิน ไม่ต้องห่วงนะ มีฉันอยู่ ฉันจะไม่ปล่อยให้มิลินเป็นอะไรแน่นอน”ฟ้าใสบอกมิลินด้วยน้ำเสียงอันแน่วแน่ แต่เมื่อฟ้าใสเช็ดตัวให้มิลิน สายตาก็ไปโฟกัส หน้าอกของมิลิน
“หืมนี่มันรอยอะไร” ฟ้าใสผงะเล็กน้อย รอยแบบนี้ ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่ามันคือรอยอะไร คงไม่มีใครทำอะไรมิลิน นอกจาก พี่ภาคิน ฟ้าใสวางผ้าเช็ดตัวใส่กะละมัง แล้วเดินออกมาหาพี่ชายของตนด้านล่างทันที
“พี่ภาคิน!!!” ฟ้าใสตะโกนเสียงดังลงมาจากชั้นบน
“หืม มีอะไร” ภาคินเลิกคิ้ว
“พี่ทำอะไรมิลินหรือเปล่า” ฟ้าใสถามออกมาตรงๆ
“อืม ทำ” ภาคินตอบฟ้าใสอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน
“ทำไมพี่ทำแบบนี้ พี่รู้ไหมมิลินไม่มีพ่อแม่ มิลินเองไว้ใจแล้วมาอยู่กับฟ้าใส พี่ทำแบบนี้กับเพื่อนของฟ้าใสได้ยังไง ” ฟ้าใสดุพี่ชายของตัวเอง ไม่คิดว่าจะมีพี่ชายที่ฉวยโอกาสผู้หญิงตอนเมาแบบนี้
“พี่จะรับผิดชอบเพื่อนของเราเอง” ภาคินพูดอย่างแน่วแน่ ทำให้ฟ้าใสอารมณ์เบาลง
“พี่รู้สึกชอบมิลินจริงๆหรอ” ฟ้าใสถามออกไปเพราะยังไม่วางใจ พี่ชายของเธอไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน หรือชอบอย่างเป็นจริงเป็นจัง
“ชอบสิ พี่ชอบตั้งแต่หลายเดือนก่อน ตอนที่เธอจะฆ่าตัวตายบนสะพานนั่นอ่ะ”
“พี่รู้จักมิลินมาก่อน” ฟ้าใสถามออกไป
“อืม” ภาคินพยักหน้า ฟ้าใสจ้องมองไปยังดวงตาของพี่ชาย ไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกหก
ภาคินหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม แต่ฟ้าใสกลับมองภาคินไม่วางตา ก่อนจะถามขึ้น
“พี่มีอะไรกันยัง” ฟ้าใสถามออกมาตรงๆ น้ำที่ดื่มเมื่อกี้แทบพุ่งออกมาจากปากของภาคิน นิสัยเป็นคนตรงๆของน้องสาว มันจะตรงเกินไปแล้ว
“ยัง แค่เกือบหลายครั้ง” ภาคินตอบออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“หลายครั้ง?” ฟ้าใสทวนคำ นี่เธอแทบจะช็อค หลายครั้งเลย ทำไมน้องสาวแท้ๆถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“อืม” ภาคินตอบอย่างไม่แยแส ราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ
“ฟ้าใสบอกพี่ไว้ตรงนี้เลยนะ ห้ามทำให้มิลินเสียใจเด็ดขาด เรื่องนี้ฟ้าใสเปิดทางให้ถ้าพี่ชอบมิลินจริงๆ แต่พี่ได้โปรดเคลียร์กับว่าที่คู่หมั้นของพี่ให้เรียบร้อยด้วย ซึ่งถ้ามิลินรู้มิลินไม่เอาพี่ชายแน่นอนค่ะ” ฟ้าใสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อืม เดี๋ยวพี่จัดการเอง”
“ถ้าพี่ทำให้มิลินเสียใจ บอกเลยฟ้าใสไม่ยอม ฟ้าใสพร้อมจะเสยใบหน้าหล่อๆของพี่ให้มีเลือดซิบออกมา” ฟ้าใสพูดพร้อมกับกำหมัดต่อยกลางอากาศ
“ครับๆ ไปดูเพื่อนของเราเถอะ”
“รักก็บอกว่ารักสิ จะเก็บไว้ทำไม” ฟ้าใสพูดคนเดียวบ่นอุบอิบขึ้นห้องของตัวเองไป