ตอนที่ 4
นักมวยของแทร่ !!!
“เชี่ย!” เหมันต์อุทาน เขาปากอ้าตาค้าง เพราะยืนอยู่ติดขอบเชือก ดังนั้นจึงเห็นตอนทอฝันหวดเท้าได้ชัดเจน
เธอตวัดขึ้นก้านคอคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะหลบทัน บนเวทีกรรมการไม่นับก็ชูมือให้ทอฝันชนะ เหมันต์มองภาพเธอดีใจกระโดดโลดเต้น กอดกับเทรนเนอร์ เขาก็รู้สึกถึงรสฝาดปะแล่ม ก่อนจะชักสายตากลับมามองเรียวขาขาว ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยร่องรอยบอบช้ำจากการถูกเตะจนบวมแดง
เหมันต์นึกไปถึงสมัยก่อน ไม่ทราบที่ผ่านมาเขาเคยยกเรียวขาขาวคู่นั้นพาดบ่ากี่ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นความนุ่มนิ่มหรือตอนจับพลิกเปลี่ยนท่วงท่า เธอก็มักจะโอนอ่อนผ่อนตามเขาอย่างว่าง่ายและเชื่อฟัง
ไหนเลยเหมือนกับตอนนี้ซึ่งมีแต่ความเกรี้ยวกราดแข็งกระด้าง โดยเฉพาะตอนเธอเตะก้านคอคู่ชก เขาเห็นกับตาว่าขาเรียวสวยของเธอข้างนั้น มันกระแทกเข้าใส่อีกฝ่ายแทบไม่ต่างจากการใช้ไม้หน้าสามตีท้ายทอย
“…”
ขณะบนเวทีประกาศและมอบรางวัลแก่ผู้ชนะ ด้านล่างเหมันต์ก็ค่อยหมุนกายเดินกลับไปยังประตูทางออก สีหน้าของชายหนุ่มยามนี่บ่งบอกว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์หลากหลาย ดูไม่ออกว่าคิดอะไรในใจ
ก่อนมานี่ ความจริงเหมันต์สืบหาที่อยู่ของทอฝันมาสักระยะหนึ่ง อันที่จริงเขาไม่คิดมาตามเธอด้วยตัวเอง เพียงแต่ทุกครั้งที่โทรหา เธอมักจะตัดสายเขาทิ้ง ไม่ยอมพูดคุยเจรจาข้อตกลงกับเขาเลย
ตอนที่สายสืบส่งข่าวมาว่าเธอเป็นนักมวย เหมันต์ยังแทบไม่เชื่อหู ถึงได้ตามมาดูให้เห็นกับตา
ชายหนุ่มเดินออกจากสนามมวยพร้อมกับความว้าวุ่นใจ นั่นเพราะพอเห็นทอฝันที่เป็นแบบนี้ มันช่างแตกต่างจากที่แม่เขาเล่าให้ฟังเหลือเกิน
ครึ่งปีก่อน เหมันต์เพิ่งกลับจากเมืองนอก แม่ของเขามีอาการป่วยร่างกายไม่ค่อยสู้ดี แต่ขณะที่ตนกำลังวุ่นวายกับการย้ายตำแหน่งงาน ผู้เป็นแม่พลันเรียกเขาให้ไปพบ บอกว่ามีเรื่องสำคัญจำเป็นต้องบอกให้เขารับรู้
เรื่องสำคัญที่ว่าก็คือ? ความจริงแล้วตัวเขานะมีลูก!
คราแรกเมื่อได้ฟังจากปากคุณนายไพลินซึ่งกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล เหมันต์ตกใจกระตุกวูบ เขาไม่ต้องคิดว่าเป็นลูกที่เกิดกับใครก็นึกได้ทันทีว่าเป็นทอฝันแน่ นั่นเพราะตลอดชั่วชีวิต นอกจากเธอแล้ว เขายังไม่เคยหลับนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย
พอนึกถึงทอฝัน เหมันต์ก็มีแต่ความทรงจำเจ็บปวด เนื่องจากตอนเรียนจบมัธยมปลาย ทั้งๆ ที่เขาทำตามสัญญาแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับหลบหน้าเขา ทั้งยังบอกเลิกแบบไม่ยอมคุยกันแม้แต่คำเดียว
ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น?
หลังเรียนจบมัธยมปลาย เหมันต์ก็บอกความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขาและเธอกับคุณนายไพลิน
เขาต้องการให้แม่สู่ขอทอฝันเป็นเมีย ซึ่งอีกฝ่ายก็เห็นด้วย เพียงแต่มีข้อแม้ว่า ทั้งสองต้องไปเรียนมหาลัยต่างประเทศ เหมันต์ก็ไม่ติดขัด เลยเดินทางล่วงหน้าไปจัดเตรียมที่อยู่อาศัยและดูมหาลัยที่จะเข้าเรียน
แต่สิ่งไม่คาดคิดพลันเกิดขึ้น
พอเหมันต์กลับมา เขาก็ต้องพบความจริงที่ว่า แม่ของทอฝันลาออกจากงาน และแน่นอนเธอก็ติดตามไปด้วยเช่นกัน...
เหมันต์เดินออกจากสนามมวย เขาสั่งคนขับรถตรงไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ระหว่างทางก็นึกย้อนความทรงจำในอดีต ตอนที่ทราบข่าวว่าเธอหนีไปกับผู้เป็นแม่เขายังไม่อยากเชื่อ จึงได้ส่งแชตสอบถามเอาความจริงจากปากเธอ
ตอนนั้นเธอส่งข้อความตอบกลับเขาว่ายังไงนะหรือ? “ฉันไม่ได้รักนายแล้ว นายปล่อยฉันไปเถอะ นับจากนี้พวกเราไม่ต้องติดต่อกันอีก ต่างคนต่างก็มีทางเดินของตัวเอง”
“…”
ต่อจากนั้นไม่ว่าเขาจะส่งข้อความอะไรไปเธอก็ไม่อ่าน โทรไปก็ไม่รับสาย จนถึงขั้นเปลี่ยนเบอร์หนี ทั้งยังลบบัญชีออนไลน์ต่างๆ เพื่อหลบหนีเขาทุกช่องทาง
เพียงไม่นาน
เหมันต์ก็นั่งรถมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน ที่แท้สถานที่นี้ก็คือหมู่บ้านที่ทอฝันอาศัยอยู่
ชายหนุ่มลงจากรถ เขาเดินไปหน้าประตูรั้วทาวน์โฮมสองชั้น ถึงจะไม่เคยเหยียบที่นี่มาก่อน แต่เขาก็รู้ดีว่ามันคือบ้านของใคร
นี่เป็นเวลาราวสองทุ่ม เหมันต์กดกริ่งหน้าบ้าน ไม่ถึงสองนาทีก็มีคุณป้าคนหนึ่งเดินออกมา อีกฝ่ายถามว่า
“พ่อหนุ่มมีธุระอะไรหรือ?”
เธอมีชื่อว่าป้าแวว ปกติเวลาทอฝันติดภารกิจหรือมีเรื่องเร่งด่วนไม่สามารถอยู่กับลูก เธอจะจ้างป้าแววซึ่งเป็นภรรยาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านมาดูแลคิมหันต์แทน
อีกฟาก ทางด้านทอฝัน
บนรถอีโคคาร์คันเดิม กว่าเธอจะออกจากสนามมวยก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่ม ใบหน้าสวยมีร่องรอยปูดบวมไม่น้อย
เนื่องจากแผนการชกของเธอวันนี้ คือการเอาตัวเข้าแลก ยอมให้อีกฝ่ายถล่มจนหมดแรง แล้วค่อยหาจังหวะปิดบัญชี
ยอมโดนต่อย?
ใช่แล้ว เมื่อครู่ตอนอยู่บนเวที ทอฝันตั้งใจแสดงอาการเพลี่ยงพล้ำ ตั้งแต่ระฆังดังต้นยก เธอก็เป็นฝ่ายถอยหลังหนีตลอด หรือไม่ก็แกล้งทำเป็นเซถลาเข้ามุมหลังพิงเชือก ให้คู่ชกอัดหมัดเท้าเข่าศอกใส่ตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว
ลูกล่อลูกชนเหล่านี้เธอล้วนศึกษามาจากนักมวยชั้นนำในประเทศ เธอชอบดูเทปบันทึกเกี่ยวกับชั้นเชิงมวยรูปแบบต่างๆ บางคราถึงขั้นคิดว่า ถ้าหากเกิดเป็นผู้ชาย ไม่แน่ตอนนี้เธออาจจะกลายเป็นแชมป์โลกสักสถาบันไปแล้ว
“…”
ชัยชนะครั้งนี้ทอฝันได้เงินมาไม่น้อย ดังนั้นระหว่างขับรถเธอจึงลืมความเจ็บปวดบนร่างกายและใบหน้า เปิดเพลงฟังพร้อมกำฮัมทำนองตามตลอดทาง
กระทั่งกลับถึงบ้าน มองจากด้านนอกไฟในห้องที่สมควรเปิดอยู่กลับปิดลง ทอฝันเดินลงจากรถมาเปิดประตูรั่วหน้าบ้าน เพียงคิดในใจสงสัยป้าแววจะกล่อมเจ้าตัวเล็กของตนเข้านอนแล้ว ถึงได้ปิดบ้านเงียบขนาดนี้
เมื่อถอยรถจอดเสร็จ หญิงสาวจึงหยิบกุญแจเพื่อไขประตู แต่เธอพลันพบว่ามันไม่ได้ล็อก หว่างคิ้วเรียวกระตุก แม้ในใจจะนึกสงสัย แต่ก็เพียงคิดว่าป้าแววคงลืม
ผลักประตูเข้ามา ชั้นล่างเป็นโถงกว้างสำหรับนั่งเล่น ในความมืดสลัวทอฝันยังจดจำตำแหน่งของโต๊ะและโซฟาที่ตนจัดวางไว้ได้ ดังนั้นจึงคลำทางในเงามืดเพื่อเดินไปเปิดไฟส่องสว่างภายในห้อง
อีกราวห้าเมตรจะถึงสวิตช์ไฟ
เพียงแต่ว่า...
จู่ๆ หางตาเธอเห็นเงาดำไหววูบ ปฏิกิริยาป้องกันตัวทำงานอัตโนมัติ เธอไม่ทันคิดก็ถีบเท้ากลับหลังเต็มแรง
“ใคร!” ทอฝันกระแทกเสียงพร้อมกับชักเท้ากลับ แต่คิดไม่ถึงจะถูกบุคคลปริศนาจับไว้ เธอจึงใช้ท่ากระโดดหมุนตัวเตะสลับเท้า ภายในใจก็ร่ำร้องว่าแย่แล้ว!
ในความมืดเกิดเสียงดังตุบๆ ตับๆ เพียงแต่ไม่นานก็สงบลง
***