ตอนที่ 5
ผัวชั่ว
ถึงจะฝึกมาดี ยังไงเสียทอฝันก็เป็นผู้หญิง เรี่ยวแรงศักยภาพทางกายสู้ผู้ชายวัยเดียวกันไม่ได้อยู่แล้ว บวกกับเพิ่งผ่านการชกมาหนึ่งรอบ ดังนั้นต่อสู้ขัดขืนไม่ถึงหนึ่งนาที เธอก็ถูกเจ้าของเงามืดปริศนาจับพลิกตัวหันหลัง ศีรษะกดแนบไปกับผนัง มือทั้งสองข้างถูกรวบโดยสมบูรณ์
ทอฝันส่งเสียงร้องอู้อี้ น้ำตาไหลอาบแก้ม ในสมองคิดแต่ว่าคนชั่วที่บุกเข้ามาคงเป็นโจรแน่ เธอพยายามขอความช่วยเหลือจากคนภายนอก
แต่มือหยาบของคนด้านหลังก็ปิดปากเธอไว้จนแม้แต่หายใจยังทำแทบไม่ได้
“หยุดดิ้น หยุดร้อง เดี๋ยวลูกตื่น”
ในความมืด นี่เป็นครั้งแรกที่เหมันต์เอ่ยปาก ทอฝันได้ยินเสียงเขาก็จำได้ทันที แต่เธอไม่ดีใจสักนิด เมื่อพบว่าคนที่เล่นงานตนอยู่ตอนนี้ คือผัวเก่าของเธอเอง
เธอตกใจมาก เขารู้ได้ยังไงว่าเธออาศัยอยู่นี่ อีกทั้งยังเข้ามาในบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ก็ยังดีกว่าเป็นโจรแปลกหน้าเล็กน้อย พอคิดไปว่าหากไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่น ไม่แน่เธออาจถูกปล้นทรัพย์หรือข่มขืนไปแล้ว
ทอฝันหุบปากลงทันที ปฏิกิริยายินยอมศิโรราบของเธอจึงทำให้คนด้านหลังปล่อยมือ
“คุณอยู่ในบ้านฉันได้ยังไง?”
นี่เป็นคำถามแรกตอนที่ทอฝันหมุนตัวกลับ เธอหอบหายใจพลางเอื้อมมือไปเปิดไฟ เหมันต์ก็ตอบเธอ
ได้ยินเขาพูดว่า “เธอไม่ยอมรับสายฉัน แล้วจะให้ฉันทำยังไง”
พอไฟติด เหมันต์ก็เดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวหนึ่ง เขามองใบหน้าสวยของทอฝัน ซึ่งยามนี้เต็มไปด้วยรอยบอบช้ำ จากนั้นเสแสร้งพูดราวกับไม่รู้มาก่อน
“หน้าเธอไปโดนอะไรมา?”
“เรื่องของฉัน คุณไม่ต้องมายุ่ง”
ทอฝันเดินพลางตอบพลาง เธอผลักประตูห้องลูกชายเปิดออก ค่อยเห็นว่าเจ้าตัวน้อยหลับอยู่ภายใน
ในรอบหกปี นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพบหน้ากัน เพียงแต่ท่าทีพูดคุยของพวกเขาราวกับว่าเพิ่งพบกันเมื่อวานก็ไม่ปาน แม้แต่ทอฝันที่อยู่ในอารมณ์หงุดหงิด เธอก็ยังไม่ทันรู้สึกตัว
ไม่นานหญิงสาวก็เดินกลับมา ความจริงเธอคิดไล่เขาออกจากบ้าน แต่ยังไม่ทันได้พูด ชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามก็กล่าวขึ้นมาก่อนว่า
“ตั้งแต่บ่ายฉันยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง เธอไปทำข้าวมาให้กินทีสิ”
“…”
ทอฝันงงงัน คิดในใจ ท่าทีโอหังของเขามันช่างเหมือนกับเมื่อก่อนเหลือเกิน
ความจริงเธอคิดปฏิเสธ แต่มิทราบอะไรดลใจ อาจเพราะไม่พบกันนาน ตอนคุยโทรศัพท์ไม่เจอหน้าก็แล้วกันไปเถอะ แต่ตอนนี้เขานั่งห่างแค่เอื้อม ยังไงซะเธอกับเขาก็เคยมีช่วงเวลาหวานชื่นอยู่หลายปี
ตอนออกจากสนามมวย ทอฝันทั้งเหนื่อยและเพลีย แต่ก็ยังเดินเข้าครัว เปิดตู้เย็นค้นหาบางอย่างออกมา
ที่ห้องนั่งเล่น เหมันต์เชิดมุมปาก เขามองแผ่นหลังอีกฝ่ายตาไม่กะพริบ เนื่องจากมุมที่นั่งอยู่เห็นทะลุเข้าไปถึงห้องครัว เลยทำให้สามารถพิจารณาทรวดทรงองเอวเธอ
ในสายตาชายหนุ่ม เธอแทบไม่สูงเปลี่ยนไปจากเดิม จะมีก็แต่ใบหน้าซึ่งดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และเต้านมกะทัดรัดที่เปลี่ยนไป
เมื่อก่อนทอฝันไม่ใหญ่ขนาดนี้
เหมันต์คิดในใจ แต่นึกขึ้นได้ว่าเธอเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งแล้ว เขาก็อดไม่ได้ต้องไล่สายตาต่ำลงมา
"อืม" ชายหนุ่มยิ้มอย่างพึงพอใจ ก้นของเธอยังแทบเหมือนเดิม ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป
ระหว่างพิจารณารูปร่าง ไม่นานทอฝันก็เดินออกจากห้องครัว ในมือของเธอถือบางอย่าง กระทั่งมาหยุดอยู่ที่โต๊ะกลาง เมื่อวางลงค่อยพบว่าเป็นข้าวผัดธรรมดา
“กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็ไปหากินข้างนอกเอาเอง”
ทอฝันกล่าวพลางวางจานกระแทกโต๊ะ เพียงแค่เสียงกระทบก็บ่งบอกได้ทันทีว่าเธอกำลังอารมณ์ไม่ดี
“กินสิ ทำไมจะกินไม่ได้” เหมันต์เอ่ยพร้อมกับรีบคว้าจาน
ไม่มีเสียงพูดคุย มีแต่เสียงเคี้ยวข้าว เหมันต์แก้มป่องเคี้ยวตุ้ยๆ ทอฝันไม่อยากมองหน้าเขาจึงหันแก้มหนีไปอีกทาง
ตามแผนที่วางไว้ เธอคิดว่ารอให้เขากินเสร็จค่อยไล่กลับ คนผู้นี้เธอไม่อยากเสียเวลาเสวนาด้วย เพราะรู้จุดประสงค์ที่เขามาอยู่แล้ว
เขาต้องการลูกของเธอ!
ย้อนเวลากลับไป ครึ่งเดือนก่อนจู่ๆ เหมันต์ก็โทรมา เขาเอาแต่พูดว่าเธอพาลูกเขาหนี ทั้งยังตำหนิว่าเธอเป็นฝ่ายทิ้งเขาไป
ทิ้งเขาไปกับผีสิ! ทอฝันจำได้ วันนั้นเธอโต้เถียงกับเขานานมาก จนเป็นสาเหตุให้เธอไม่รับสายเขาอีกเลย
ราวสิบห้านาทีต่อมา เหมันต์รับประทานข้าวผัดหมดจานแทบไม่เหลือสักเม็ด เขาเหมือนรู้ตัวว่าต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น จึงชิงจังหวะเป็นฝ่ายเปิดฉากพูด
“พรุ่งนี้เธอกับลูกตามฉันกลับกรุงเทพ ตอนนี้แม่ฉันอยู่โรงพยาบาลอยากเห็นหน้าหลานมาก”
“ตามคุณกลับ?”
ทอฝันถามย้อนศร ก่อนหัวเราะหึหึเอ่ยว่า
“คุณเหม นี่ไม่ใช่ลูกคุณ จะให้ฉันตามคุณกลับไปในฐานะอะไร?”
“ทอฝัน อย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน เธอก็รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง!” ชายหนุ่มพูดพลางตบโต๊ะ ทอฝันเห็นเขายังอารมณ์ร้อนเหมือนเมื่อก่อนก็ฉีกยิ้ม พร้อมพูดเหยียดหยาม
“คุณจะตีฉันเหรอ? เอาสิ ตีฉันเหมือนที่แม่คุณทำเมื่อก่อนเลย จะได้รู้กันว่าคุณยังบงการฉันได้หรือไม่ได้”
สมัยก่อนคุณนายไพลินก็มักจะใช้วิธีนี้ ใช้ไม้เรียวฟาดเธอเพื่อให้ทำตามคำสั่งที่ต้องการ
เพียงไม่นาน ภายในห้องนั่งเล่นเกิดเสียงโต้เถียงกันยกใหญ่ เหมันต์คิดไม่ถึงขนาดเขามาด้วยตัวเอง ทอฝันก็ยังคงหัวแข็งไม่ยินยอม
อารามโมโหบวกกับคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนผิดที่ทอดทิ้งตน เขาจึงเอื้อมมือหมายกระชากทอฝันมากอดไว้ แต่ใครจะคาดคิด ขณะไม่ทันสังเกตส่งรอบข้าง คู่ชายหญิงซึ่งกำลังมีปากเสียงกันอยู่บนโซฟาตรงกันข้าม จะได้ยินเสียงเด็กชายพูดขึ้นมาว่า
“มี๊ ตีคนชั่วเลย ตีคนชั่วเลย!”
คิมหันต์ยืนอยู่ตรงประตูหน้าห้อง ชี้นิ้วใส่หน้าเหมันต์ซึ่งกำลังตั้งท่ากระชากทอฝันเข้าหาตัว
***