วันหยุดเหลืออีกหนึ่งวัน แพรดาวไม่กล้าออกจากห้องไปไหนเลย หญิงสาวนอนร้องไห้เงียบ ๆ ให้กับความโง่ของตัวเอง ร้องไห้ที่ต้องสูญเสียสิ่งรักไปแบบไม่มีวันได้คืน ในช่วงเวลานี้เธอไม่ได้นึกถึงความรักที่มีต่อภัทรดลเลย แต่เธอแค้นเขาแทน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเธอคงไม่ต้องไปเมา จนเกิดเรื่องแบบนี้แน่ อยู่แบบนี้ไปจนกระทั่งได้เริ่มต้นทำงานวันแรกของสัปดาห์
แพรดาวเดินทางไปทำงาน ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นประจำทุกวัน เพราะคอนโดมิเนียมของเธออยู่ใกล้กับสถานี หญิงสาวในวัยยี่สิบหกปีคนนี้ ทำงานในตำแหน่งพนักงานฝ่ายบริการลูกค้า ในบริษัทผลิตเครื่องจักรอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง แพรดาวทำงานอยู่ในสำนักงานใหญ่ใจกลางเมืองหลวง เจ้าของร่างสมส่วนเดินถือแก้วกาแฟ ตรงไปนั่งที่โต๊ะทำงานอย่างเฉื่อยชา ไม่ร่าเริงสดใสเหมือนเช่นเคย ทุกคนต่างคิดว่าเป็นเพราะการ์ดงานแต่งของภัทรดลเป็นแน่ ที่ทำให้คนน่ารักอย่างแพรดาวเศร้าสร้อยแบบนี้ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าความจริงนั้นมันไม่ใช่เลย
“แพรไหนว่าไม่เป็นไรแล้วไง” ชัญญาเดินมาคุยด้วยเพราะโต๊ะนั่งทำงานอยู่ใกล้กัน อีกทั้งนิสัยใจคอก็ไปด้วยกันได้ เลยทำให้สนิทสนมกันมากกว่าคนอื่นในออฟฟิศ
“ก็ไม่มีอะไรนี่” คนตอบเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเพื่อตรวจดูอีเมลในรอบเช้า ยังไม่กล้ามองสบสายตาของเพื่อน
“อย่ามาบอกว่าไม่มีอะไร ตาแดงช้ำขนาดนี้ ตัดใจไม่ได้ก็บอกมาเถอะ จอมก็บอกแล้วไงว่ามันต้องใช้เวลา”
“จอมน่ะไม่เข้าใจหรอก แต่แพรขอยืนยันตรงนี้นะ เรื่องของพี่ภัทรน่ะ ขี้ ๆ ไปเลย” หลังเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์เสร็จ แพรดาวก็หันมายิ้มฝืน ๆ ให้เพื่อน
“ยัยแพรเป็นอะไรกันแน่ เล่ามาเลยนะ” ชัญญาเห็นท่าทางของเพื่อนแล้ว รู้สึกว่าคงมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ๆ ทำไมดูเครียดหนักกว่าเดิมก็ไม่รู้
“เล่าไม่ได้หรอกจอม เอาไว้วันหนึ่งให้แพรทำใจได้เมื่อไหร่จะเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะ แต่ตอนนี้ซอรี่ไม่ได้จริง ๆ คุณเพื่อนรัก กลับไปเปิดคอมทำงานได้แล้ว หัวหน้าเดินมาโน่นมาแล้ว” แพรดาวโบ้ยหน้าไปยังประตูทางเข้า ซึ่งนายปราณชัยกำลังเดินหน้าตึงเข้าออฟฟิศมา
“หน้าหงิกหน้างอแต่เช้าแบบนี้ งานจะเข้าใครอีกล่ะนี่” ชัญญาเปรยเบา ๆ ระหว่างเลื่อนเก้าอี้ลงนั่งตรงโต๊ะทำงานของตนเอง
สักพักใหญ่ ๆ นายปราณชัยก็โทรภายในมาที่โต๊ะทำงานของแพรดาว สองสาวถึงกับหันไปมองหน้ากันในทันที
“ได้ค่ะหัวหน้า” แพรดาวกรองเสียงอย่างสุภาพ
“โดนแน่ ๆ” ชัญญาทำหน้าล้อเพื่อน ซึ่งตอนนี้ก็หน้างอใส่แบบฝากไว้ก่อน
แพรดาวเดินไปเคาะประตู หน้าห้องทำงานของนายปราณชัย ก่อนจะเปิดเข้าไปภายในอย่างเบามือ เห็นหัวหน้าตัวเองนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะหัวหน้า”
“นั่งลงก่อนสิคุณแพรดาว” ชายสูงวัยผายมือเชิญลูกน้องให้นั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้า
“ค่ะ” แพรดาวทิ้งสะโพกลงนั่งตามคำเชิญ เห็นสีหน้าของหัวหน้าแล้วรู้สึกหวั่นใจ ว่ามีเรื่องยากลำบากเกิดขึ้นแน่นอน
“ลูกค้ารายใหญ่ของเรา บอกว่าเครื่องจักรของเรามีปัญหา ผมอยากให้คุณเข้าไปดูหน่อยว่ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้น เพราะเขากำลังจะสั่งซื้อล็อตใหญ่จากเราเลยนะ ถ้าไม่เคลียร์ปัญหาอันเก่า คาดว่าการซื้อล็อตใหม่นี้จะมีปัญหาเอา” นายปราณชัยอธิบายถึงปัญหาที่บริษัทกำลังพบเจออยู่
“ทำไมเป็นแพรล่ะคะ หัวหน้าช่างหรือการตลาดก็มี งานของเขาไม่ใช่เหรอคะหัวหน้า” แพรดาวไม่ได้เลี่ยงงาน แต่ว่าเรื่องพวกนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับงานของเธอโดยตรง ปกติซื้อขายกันเธอก็ไม่ได้มีส่วนอยู่แล้ว
“คุณเป็นฝ่ายบริการลูกค้านะคุณแพรดาว นี่คืองานบริการลูกค้า การตลาดเขาขายได้แล้ว ส่วนนี้คืองานบริการ” นายปราณชัยอ้อมแอ้มตอบ
“งั้นก็ต้องพาหัวหน้าช่างไปด้วยสิคะ เพราะแพรไม่ได้ถนัดงานซ่อม ส่วนใหญ่ก็แค่ประสานงานให้” มองยังไงก็ยังไกลจากตำแหน่งงานของเธออยู่ดี
“ใช่งานหลักคือซ่อมบำรุงดูแล ส่วนคุณก็ไปดูว่าลูกค้าเขาไม่พอใจอะไรหรือเปล่า ไปบริการลูกน่ะคุณแพรดาว”
“ก็ได้ค่ะ ว่าแต่ไปวันไหนคะ” แพรดาวเคยแต่รับสายบริการลูกค้า กับติดต่อประสานงานให้ฝ่ายช่าง ไม่เคยต้องเข้าไปดูแลลูกค้าระดับใหญ่โตมาก่อน เพราะส่วนใหญ่ระดับผู้บริหารมักจะคุยเรื่องงานกันเอง
“พรุ่งนี้ช่วงสาย ๆ นี่บริษัทที่คุณต้องไปดูแล ดูข้อมูลไปให้ละเอียดล่ะ เหมือนเจ้าของบริษัทคนใหม่จะเขี้ยวลากดินอยู่ไม่น้อย เข้าใจที่ผมพูดนะคุณแพรดาว ผมอยากให้คุณไปกับหัวหน้าช่างด้วย ช่วยพูดจาให้บริษัทเราดูดีในสายตาลูกค้าหน่อยก็แล้วกัน”
“ค่ะหัวหน้า” แพรดาวเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงต้องไปด้วย เพราะหัวหน้าช่างเป็นคนพูดจาโผงผางตรงไปตรงมา ไม่ค่อยรักษาหน้าใครเสียด้วย เกรงว่าเกิดพูดไม่เข้าหูเจ้าของบริษัทลูกค้าคนใหม่เข้า จะเกิดความเสียหายต่อบริษัทได้
หลังคุยเรื่องงานเสร็จ แพรดาวก็เดินออกมาจากห้องทำงานของนายปราณชัย เพื่อนรักก็ตรงเข้ามาถามด้วยความสงสัยในทันที
“มีอะไรร้ายแรงหรือเปล่าแพร”
“เรื่องงานน่ะจอม พรุ่งนี้ต้องไปดูแลลูกค้าคนสำคัญ” แพรดาวชูแฟ้มเอกสารให้เพื่อนดู
“อ้อ บริษัทนี้นี่เอง เรื่องเยอะจริง ๆ ด้วยแหละ เดือนนี้โวยวายเครื่องเรามาหลายรอบแล้ว หัวหน้าช่างนี้ลมแทบออกหูเลย” หลังเห็นชื่อบริษัทลูกค้าหน้าแฟ้มเอกสาร ชัญญาก็เข้าใจในทันทีว่าคงงานสำคัญจริง ๆ
“กรรมทำไมถึงโยนงานหนักมาให้แพรนะ”
“นั่นน่ะ ปกติหัวหน้าไม่น่าจะเอางานสำคัญแบบนี้มาให้แพร ไม่ได้ว่าแพรทำงานไม่ดีนะ แต่ว่าช่วงนี้สภาพจิตใจของแพรไม่ปกติไง จอมก็แค่เป็นห่วง จอมก็ว่างทำไมไม่ใช้จอม งงวุ้ย” ชัญญาทำหน้าไม่เข้าใจหัวหน้าตนเอง
“เอาน่า มีงานก็ต้องทำ ว่าแต่ตอนนี้หัวหน้าช่างอยู่โรงงานหรือออฟฟิศ จอมพอรู้ไหม”
“น่าจะที่โรงงานนะจอมว่า เพราะวันจันทร์ส่วนใหญ่จะไปโรงงานตอนเช้า เข้าออฟฟิศช่วงบ่าย”
“อืม เข้าใจแล้ว”
แพรดาวนั่งดูเอกสารเกี่ยวกับบริษัทของลูกค้า พร้อมกับปัญหาที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึง เกี่ยวกับเครื่องจักรทอผ้าอุตสาหกรรมล้วน ๆ ซึ่งเธอมีความรู้แค่หยิบมือ ต้องพึ่งพาหัวหน้าช่างเท่านั้น นึกไม่ออกว่าทำไมเธอต้องเป็นคนเข้าไปคุยกับทางลูกค้าด้วย
‘คงไม่ใช่ให้แพรไปเป็นด่านหน้าให้เขาด่าหรอกนะหัวหน้า’ หญิงสาวค้อนประตูห้องทำงานของนายปราณชัยเบา ๆ ถ้าเป็นอย่างที่คิดจริง เธอก็ซวยซ้ำซวยซ้อนของจริง