ตอนที่ 5 ไม่มีใครต้อนรับ
ตามกฎและทำเนียมเก่าแก่ของตระกูลหวังสะใภ้ที่ได้แต่งเข้ามาในบ้านต้องทำการยกน้ำชาแสดงความเคารพพ่อแม่ของสามีตามขนบธรรมเนียมที่ปฏิบัติมายาวนาน เพื่อให้คนในตระกูลเคารพซึ่งกันและกัน
วิวาห์ขบเม้มริมฝีปากไว้แน่น ไม่ทราบได้เลยว่าเธอยกน้ำชาแก้วแล้วแก้วเล่าเนื่องจากมันเย็นจนชืดแก้วที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลซึ่งมีชื่อเสียงเรียงนาม ทั้งในความเก่ง ฉลาด ไหนจะฝึกการต่อสู้มาจนได้เป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดหญิง
“ฉันหวังเหลือเกินว่าเธอจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง” คีย์ตะวันจ้องมองลูกสะใภ้คนแรกของตระกูลด้วยทีท่านิ่งสงบ “การหักหลังสามีไม่ใช่ทางเลือกที่ดีหรอกนะ ลูกฉันมีหัวใจบางทีเธอเลือกฝั่งถูกจะเป็นผลดีกับตัวเธอเอง”
วิวาห์ปวดร้าวไปทั้งแขนแต่ไม่สามารถชักแขนกลับได้ เธอนั่งทับขามาเป็นเวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว ทราบดีว่าทำไมทุกคนในตระกูลหวัง พ่อแม่ พี่น้อง ของสามีไม่มีใครต้อนรับเธอเลย
แม้เบื้องหน้าสองตระกูลเป็นผู้นำระดับสูงเหมือนกัน แต่คนเก่งและมีอำนาจกว่าดันประสบความสำเร็จแค่ตระกูลเดียว ฉากหน้าตระกูลหลินดูเหมือนจะน่าเกรงขาม มีคนเคารพนับถือมากมาย แต่ข้างในมันกลวงจนศัตรูสามารถแทรกแซงเข้ามาได้ง่าย ๆ ทรัพย์สมบัติที่เคยมั่งคั่งเริ่มร่อยหรอเมื่อผู้นำเอาแต่มีบ้านเล็กบ้านน้อยไม่ค่อยสนใจธุรกิจ ทั้งที่ทำตัวเองแต่หวังจะแย่งทรัพย์สมบัติของตระกูลอื่น
การส่งเธอมาเป็นสปายในครั้งนี้ตระกูลหวังไม่ได้โง่ อีกอย่างพ่อเธอก็ไม่ได้คิดว่าจะส่งเธอมาแบบลับ ๆ การที่ให้ทายาทสายตรงแต่งงานกับลูกเมียน้อยนั่นหมายความว่าพ่อจงใจหักหน้านายใหญ่กับนายหญิงจัง ๆ
เธอก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของตระกูลหลินโดยมีมารดาเป็นตัวประกัน!
วิวาห์เป็นสาวชาวไทยเติบโตมาที่นั่น ร่ำเรียนมาที่นั่น และทำงานอยู่ที่นั่น แรกเริ่มเดิมทีสามเดือนก่อนเธอยังใช้ชีวิตเป็นคนไม่มีพ่อ เติบโตมากับมารดาทำงานเลี้ยงชีพกันสองชีวิต แต่เมื่อสามเดือนก่อนเราถูกจับตัวมาที่ฮ่องกง พร้อมกับภารกิจอันยิ่งใหญ่ซึ่งต้องทำถ้าอยากให้มารดามีชีวิตอยู่รอด
เธอต้องหักหลังสามีในทะเบียนของตัวเอง!
วิวาห์ตอบนายหญิงใหญ่ไม่ได้แต่พอถ้วยน้ำชาถูกหยิบจากมือตัวเองไปหลังจากเปลี่ยนไปสิบกว่ารอบเพื่อให้น้ำชายังคงความหอมและยังอุ่นดีอยู่ วางมือสั่น ๆ แขนปวดหนึบลงข้างลำตัวช้า ๆ
“ทุกคนต่างต้องปกป้องคนของตัวเอง”
สะใภ้คนกลางค่อย ๆ ช้อนดวงตากลมโตขึ้นมองนายหญิงคีย์ตะวัน คนที่ได้ชื่อว่า สวย โหด ฉายาที่คนในหมู่เกาะฮ่องกงตั้งให้เธอคือ ‘สวยสังหาร’ คนที่สามารถขึ้นมายืนเคียงข้างนายใหญ่ไต้คุณอย่างเต็มภาคภูมิไม่มีใครกล้าปริปากค้านสักคน และเป็นคนกุมบังเ**ยนรองมาจากนายใหญ่ สามารถสั่งเป็นตายได้เท่าเทียมผู้เป็นสามี เพราะทั้งสองได้ชื่อว่าปกป้องตระกูลหวังมาด้วยกัน
“เพราะฉะนั้นฉันไม่อยากทำร้ายใครเหมือนกัน” คีย์ตะวันอยากจะสื่อให้ลูกสะใภ้เข้าใจ ไม่รู้ว่าหน้าตาซื่อ ๆ แววตาเหมือนลูกแมวน้อยหวาดกลัวทุกอย่างรอบตัวในตอนนี้คือความจริงหรือแค่แสร้งเล่นละครต่อหน้าเธอ
‘ขอโทษนะคะ หนูก็มีคนที่ต้องปกป้องเหมือนกัน’
“เอาเถอะ กลับไปอยู่ไทยด้วยกันดี ๆ หนักเบาเอาสู้ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป ฉันจับตาดูเธออยู่”
อีกหนึ่งอย่างที่คีย์ตะวันปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือคนที่แต่งเข้ามาเป็นนายหญิงเล็กจะต้องค่อย ๆ เรียนรู้ธุรกิจของตระกูลหวัง ซึ่งหมายความว่าตระกูลหลินสามารถเข้ามาแทรกแซงถ้ารู้ความลับของเราเข้า แบบนั้นทุกคนในตระกูลถึงเครียดไม่แพ้กัน แต่เหมือนทุกอย่างมันถูกกำหนดมาให้เป็นแบบนี้ แล้วเธอกับสามีจะทำยังไงได้นอกจากวางแผนรับมือในเรื่องที่อาจเกิดขึ้นให้ดีที่สุด คนที่น่าสงสารก็ไม่พ้นลูกชายนอกจากถูกมองแรงจากคนฝั่งเดียวกันแล้ว คนในตระกูลด้วยกันเองบางคนยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแต่งงานกับลูกสาวศัตรู
นายหญิงเดินออกไปแล้วเธอจึงค่อย ๆ พลิกตัวลงมานั่งที่พื้นราวกับคนหมดแรง สายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มอยู่มุมหนึ่งคงเป็นตามที่นายหญิงพูด ‘ทุกคนกำลังจับตาดูเธออยู่’ หมายความว่าถ้าเธอพลาดขึ้นมาสักทางจุดจบก็คือยมโลก
แล้วฉันคนนี้เลือกอะไรสักอย่างได้ไหม ไม่เลย เหมือนใช้ชีวิตไปวัน ๆ รอจุดจบก็เท่านั้น
เล่นละครมันก็ต้องเล่นกันให้สุดฝีมือ หญิงสาวกระตุกยิ้มมุมปากราวกับผู้ร้ายแต่มันแค่แวบเดียวก็แปรเปลี่ยนมาเป็นปกติหลังจากเงาดำ ๆ หายไปแล้ว
@ประเทศไทย
ใบหน้าหล่อเหลานั่งเครียดอยู่ที่หน้าบาร์หลังจากผ่านวันแต่งงานมาได้เพียงหนึ่งอาทิตย์เพียงเท่านั้น มือเรียวแกร่งสวยไม่แพ้ผู้หญิงวางท้องนิ้วทั้งห้าลูบไปตามท้องแก้ว
“กูไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำว่าขอบคุณและขอโทษด้วย” นักรบหย่อนกายนั่งลงข้าง ๆ แฝดพี่ของตัวเองพร้อมกับตบบ่ามันหนัก ๆ ถ้าวันนั้นเขาไม่ประสบอุบัติเหตุอาจเป็นเขาหรือมันเหมือนเดิมที่จะต้องแต่ง อย่างน้อยที่สุดมันจะไม่ต้องรู้สึกกดดันเพราะเหลือมันคนเดียวที่จะแก้สถานการณ์ได้ในตอนนั้น “ขอโทษด้วย”
“มึงก็น้องกูไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร” หมายความว่าเขาเป็นพี่หน้าที่นี้หลีกเลี่ยงไม่ได้
“เอาสาว ๆ ไหม” นักรบหันไปยักคิ้วให้พี่ชาย
“มึงก็รู้ว่าเรียกมากูก็มีแต่จะเครียดกว่าเดิม”
นักรบสบตากับพี่ชายก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักเข้าใจ ตอนนี้ทำได้เพียงเป็นผู้เป็นคนแล้วเข้าไปช่วยงานพี่ชายที่บริษัทบ้างในยามที่มันเอาแต่พึ่งแอลกอฮอล์ย้อมใจ
“หนึ่งสัปดาห์ที่อยู่ด้วยกันมา เป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่รู้สิ” เขาไม่รู้จริง ๆ เพราะมีแต่เมามีแต่เหล้าที่ย้อมใจ ในชีวิตผู้ชายหนึ่งคนเขาแค่คาดหวังว่าจะได้ยืนเคียงข้างกับผู้หญิงที่รักเขาและเขารักเหมือนนายใหญ่และนายหญิง
พ่อกับแม่ทำให้เขาอยากใช้ชีวิตเพื่อรอใครสักคนที่จะมายืนเคียงข้างไม่หวั่นต่ออุปสรรคต่าง ๆ เขาอยากเจอผู้หญิงในมุมมองความรักเหมือนแม่ แต่ไม่ใช่นิสัย! เขาชอบผู้หญิงอ่อนหวาน พูดเพราะ ไม่ใช่ทำผิดก็เอาเขาไปถ่วงน้ำเหมือนไม่ใช่ลูก แต่ก็นั่นแหละต้องขอบคุณการสั่งสอนมาแบบนั้นทำให้เขาใช้ชีวิตง่ายขึ้นในสังคมที่พัวพันอยู่
“แบบนั้นไม่ได้สิ เธอเข้ามาอยู่ในบ้านเราแล้ว หน้าต่างมีหูประตูมีช่องนะไอ้ทัพ”
นำทัพเงยหน้าขึ้นจากแก้วเหล้าก่อนจะตวัดสายตาไปมองหน้าพิมพ์เดียวกับตัวเอง ม่านตาขยายขึ้นเล็กน้อยเหมือนคนพึ่งนึกอะไรขึ้นได้
“กูไม่เคยเห็นหูประตูเลยว่ะ”
คนรอฟังอย่างตั้งอกตั้งใจนึกว่ามันจะไปเจออะไรมา แต่พอได้ยินแบบนั้นก็ต้องยกขวดเหล้าขึ้นมาแย่งแก้วในมือมันออกยัดขวดเหล้าใส่มือมันแทน
“มึงกินทั้งขวดกลับไปได้เห็นหูประตูแน่นอน เชื่อกู”
“เหรอ กูอยากเห็นหูประตูนะ”
นักรบสั่นหัวเอือม ๆ ถ้าไอ้มู่หย่างมันส่งนักฆ่ามาจริง ๆ ไม่ได้เรียบร้อยใสซื่อเหมือนที่แสดงออกมา เขารู้แล้วล่ะศพต่อไปจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้คนซื่อตรงหน้าตัวเองในตอนนี้ ขอเถอะมันจะโง่กับอะไรก็ได้แต่อย่าไปโง่กับเมียตัวเองที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังแบบนั้นเลย ไม่งั้นก็เตรียมขิตอย่างเขียด!
“ประมาณนี้พอไหม”
นักรบมองปริมาณของน้ำลดลงมาจากเดิมอยู่มากหลังจากเขาบอกให้มันกินในขวดกลับไปจะเห็นหูประตู
บางทีเขาก็ลืมไป มันกับเขาก็เป็นเพียงคนที่พึ่งเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ จะเอาอะไรกับคนที่วัน ๆ เอาแต่ควงสาวสวยมีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ในฮ่องกงทุกวัน
‘ทายาทตระกูลดังเมามายหลับคาอกสาวไซซ์บึ้ม ที่ไหนมีนมที่นั่นมีเสี่ยงคุน’
นายใหญ่เคยสั่งคนไปถล่มหลังจากมีข่าวหน้าหนึ่งพาดหัวข่าวแบบนี้ออกสู่สายตามวลชนอยู่ครั้งหนึ่ง หลัง ๆ มาหัวข้อข่าวก็ดีขึ้นมาตามลำดับ