ตอนที่ 4 งานแต่งครั้งนี้เลี่ยงไม่ได้
ผ่านไปแค่สามเดือนงานแต่งสุดแสนยิ่งใหญ่ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมสาขาหลักของเดอะคิงส์กรุ๊ป บรรดาแขกเหรื่อต่างมาร่วมงานแต่งท่ามกลางรอยยิ้มดูสาแก่ใจอีกตระกูล แต่ทางฝั่งเจ้าบ่าวทำได้เพียงฝืนยิ้มรับคำอวยพรจากบรรดาแขกเท่านั้น
หลังจากงานพิธีเสร็จสิ้นไปแล้วเจ้าสาวซึ่งรู้ว่าเจ้าบ่าวจงใจหนีออกจากห้องหอ ไม่นานเธอก็ถูกเรียกพบโดยผู้นำของตระกูลหลิน หรือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของตัวเอง
“แกรู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ได้ส่งแกมาที่นี่เพื่อให้เสวยสุขบนกองเงินกองทองของตระกูลหวังเฉย ๆ” มู่หยางนั่งหน้าบานตวัดสายตาไปมองคนที่ตัวเองก็ยังไม่เคยพบหน้ามาก่อน ถ้าให้นับบรรดาลูกจากภรรยาเล็กภรรยาน้อยเขาจำไม่ได้หมดหรอกและคงไม่ต้องจำ “ฉันเลือกแกเพราะเห็นหน้าซื่อ ๆ รู้ใช่ไหมว่าถ้าหักหลังฉันแม่แกจะเป็นยังไง”
ใบหน้าสวยหวานค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า ในตอนนี้ตัวเองนั่งทับขาอยู่กับพื้น คนที่ได้ชื่อว่าพ่อแต่ไม่เคยมาเหลียวแลดูสักครั้ง แต่ตอนนี้กำลังเรียกร้องให้เธอภักดีแบบนั้นสินะ แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อจับแม่เธอเป็นตัวประกัน
“รับทราบค่ะ” วิวาห์ค่อย ๆ ก้มหน้าลงเหมือนเดิม
“ถ้าเธอกล้าหักหลังฉันแล้วไปเข้าพวกกับมันอย่าว่าแต่แม่เธอที่ต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ ฉันให้คนจับตาดูแกอยู่เหมือนกัน อีกอย่างอย่าได้ใจคิดว่าคนตระกูลหวังจะชอบน้ำหน้าลูกศัตรูอย่างแกล่ะ อยู่ข้างฉันทำงานให้ฉันดีที่สุด”
มู่หยางกระตุกยิ้มพึงพอใจ อีกไม่นานความแค้นที่อยู่ในใจมาตั้งแต่รุ่นพ่อคงจะคลี่คลายลงไปบ้าง เขาต้องได้ข้อมูลที่พวกมันปกปิดไว้แล้วโค่นล้มตระกูลนี้ทิ้งซะ
“อันดับแรกไปหามาซะ ว่ารายชื่อพนักงานที่มันคัดออกในโรงแรมเดอะคิงส์มีใครบ้าง ฉันต้องการทำให้มันแตกแยกกับทุกคน ฉันรู้มาว่าคนที่ดูแลเรื่องนี้คือสามีแกใช้ความสวยของแกให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไปซะ!”
“ทราบค่ะ” วิวาห์กำมือแน่น ไหล่เล็กสั่นไหวเพราะความกลัว สายตาล่อกแล่กไม่กล้าสบตาคนน่ากลัวตรงหน้าแม้จะยืนยันด้วยผลเลือดว่าเขาเป็นพ่อของเธอก็ตามแต่
“จำไว้ ถ้าหักหลังฉันเมื่อไหร่แกจะไม่มีแม่คุ้มกะลาหัวแกแล้ว”
“ค่ะ”
ปัจจุบัน
ปัง!
ด้วยความกลัวและตกใจทำให้เธอหลับตาปี๋เมื่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีพึ่งจดทะเบียนกันหมาด ๆ กล้ายิงจริง ๆ สองขาก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ แต่พอหลังจากเสียงปืนสิ้นสุดลงวิวาห์ก็ยกมือสั่น ๆ ขึ้นมาตรงหน้าก่อนจะลืมตาดู ดวงตากลมโตอ่อนลงไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ ช้อนตาขึ้นไปมองมัจจุราชหน้านิ่ง
นำทัพเมื่อเห็นว่าภรรยาของตนไม่มีฝีมือในเรื่องอย่างว่าจึงลดปืนลง แล้วทำไมไอ้มู่หยางมันส่งคนนี้มาหรือว่าเธอจะฝึกอย่างอื่นมาแทน เมื่อสักครู่เขาเล็งไว้แล้วถ้าคนมันเกิดความกลัวต้องถอยก้าวถอยหลังเร็ว ๆ และมันก็เป็นอย่างนั้นคนตรงหน้าก้าวถอยหลังจนเหยียบชายกระโปรงตัวเองล้มลงก่อนกระสุนจะเจาะกบาล
วิวาห์หอบหายใจหนัก ๆ ก่อนจะเอี้ยวหน้าไปมองบริเวณที่กระสุนเหล็กเจาะเข้าไปที่ฝาผนัง ถ้าเมื่อกี้เธอไม่หงายหลังล้มมันคงเจาะที่หน้าผากเธอแทน ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้ว!
“ทำไม ไม่พอใจหรืออยากฆ่าฉันล่ะ?” นำทัพสืบเท้าช้า ๆ เข้ามาใกล้ ตายังแดงก่ำทั้งโกรธทั้งโมโหยังมีความเกลียดเข้ามาปนแทรกไม่รู้จะเป็นบ้าเรื่องไหนก่อนดี “อย่าคิดว่าจะมาหาข้อมูลอะไรจากฉัน เพราะถ้าเธอได้มันออกไปไม่เกินรั้วประตูหรอกฉันจะส่งเธอไปวิ่งเล่นที่สวรรค์แทน”
เฮือก! วิวาห์สะดุ้งเมื่อปลายกระบอกปืนจ่ออยู่ที่ปลายคาง ก่อนที่มันจะเพิ่มแรงเสยปลายคางให้เธอเงยหน้าขึ้นไปสบตาหวั่น ๆ กับผู้ที่เป็นสามี เธอไม่เคยเจอผู้ชายเลือดเย็นขนาดนี้มาก่อนในชีวิตและไม่ปรารถนาที่จะเจอด้วยซ้ำ ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับชีวิตเธอแบบนี้กัน
“ไม่เชื่อ ก็ลองดู”
“ชะ...เชื่อค่ะ”
“สิ่งที่เธอจะเอาออกไปจากที่นี่ได้คือคำพูดฉัน ฝากบอกพ่อเธอด้วย อยู่นิ่ง ๆ อย่างสงบเหมือนคนอื่นไม่เป็นเดี๋ยวจะได้ไปเริงสวาทกับยมบาลแทน!”
“อึก!” เธอขอลงความเห็นว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัวมากจริง ๆ
เขาไม่สบอารมณ์อย่างมากแต่ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ถ้ามีข่าวผู้หญิงคนนี้ตายพวกผู้ถือหุ้นยำรวมตระกูลเขาแน่ เอาสิ! เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้มู่หยางมันวางแผนอะไรอยู่กันแน่
ในจังหวะที่ผู้เป็นสามีหันหลังให้ดวงตาสั่นระริกแปรเปลี่ยนมาเป็นแข็งกร้าวอย่างรวดเร็ว มุมปากบางยกยิ้มเหยียดก่อนจะปรับเป็นสีหน้าเศร้าดังเดิมเมื่อนำทัพหันกลับมาอีกครั้ง
“บางทีถ้าเธอยอมบอกมาว่าพ่อเธอส่งมาสืบอะไรกันแน่ ฉันอาจจะปล่อยเธอใช้ชีวิตดี ๆ”
“ฉันไม่ทราบค่ะ” วิวาห์ตอบออกไปเสียงแผ่ว ไม่สบตา ไม่เงยหน้ามอง ก้มมองต่ำสายตาเจาะจงอยู่ที่พื้น
นำทัพเหยียดยิ้มไม่มีคนจริงใจคนไหนบนโลกตอบคำถามแล้วไม่กล้าสบตาหรอก
“ฉันยอมไม่มีเมียแต่งไปทั้งชีวิตก็ได้นะวิวาห์”
เจ้าของชื่อหลับตาลงแน่นพยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจ ก่อนจะค่อย ๆ เอี้ยวตัวไปมองในทางที่นำทัพเดินออกไป ความหมายของประโยคเมื่อครู่ก็คือ ทายาทสายตรงแต่งเมียได้แค่ครั้งเดียวแต่ถ้ามีเหตุให้เมียแต่งตายฝ่ายชายจะไม่สามารถแต่งเมียจดทะเบียนได้อีก แต่สามารถมีภรรยาเล็กภรรยาน้อยได้ตามสบาย
ความหมายแท้จริงคือ เขาปรารถนาให้เธอตาย!
@คฤหาสน์ตระกูลหวัง, ฮ่องกง
เสื้อคลุมขนแกะสั่งทำแบบพิเศษค่อย ๆ วางลงบนลาดไหล่ของภรรยา ไต้คุณวาดแขนอีกข้างโอบรอบตัวภรรยาไว้พร้อมกับดึงเข้ามากอดแน่น คีย์ตะวันเห็นว่าเป็นสามีตัวเองเดินเอาเสื้อมาคลุมให้ในตอนที่อากาศแทบจะติดลบแบบนี้ก็คลี่ยิ้มออกมา
“ฉันเดาทางไม่ออกเลย เมื่อคืนลูกชายคุณยิงปืนใส่เมียไปแล้ว”
“เหอะ” ไต้คุณหัวเราะออกมาเบา ๆ นึกไปถึงตัวเองเมื่อตอนนั้น เชื้อไม่ทิ้งแถวจริง ๆ แต่เพียงแค่เขาไม่รู้ว่าการแต่งงานของลูกชายจะสมหวังเจอภรรยาที่รักและจริงใจแบบเขาหรือเปล่า สิ่งที่เคยทำไว้กับคีย์ตะวันไม่รู้ว่าจะไถ่โทษยังไงดี ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเขาเลยพยายามทำดีกับเธอมาก ๆ ดีเท่าไหร่วันต่อไปต้องดียิ่งกว่า
“ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นไม่มีประวัติการฝึกต่อสู้มา แต่เธอคือสายเลือดโดยตรงของมู่หยาง ฉันปวดหัวเหลือเกิน” คีย์ตะวันเหลือบตาไปมองรถลีมูซีนวิ่งเข้ามาในรั้วคฤหาสน์ตามด้วยรถผู้ติดตามอีกหลายคัน ตามทำเนียมประเพณีเก่าแก่ของตระกูลบ่าวสาวต้องมาทำความเคารพพ่อแม่ฝ่ายสามี
“ฉันรู้ว่าเธอร้ายกับลูกสะใภ้ไม่ได้ ไม่เป็นไรคีย์เราค่อย ๆ แก้ปัญหาไปทีละจุด อีกอย่างลูกชายเราไม่ใช่คนโง่”
คีย์ตะวันเงยหน้ามองสามีเข้าใจในความหมาย เพราะเธอเองก็เคยผ่านวันเวลาแบบนี้มาได้ ในตอนนั้นครอบครัวของไต้คุณก็ไม่มีใครต้อนรับเธอแบบนี้ และเธอก็ไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนต้องเจอเหตุการณ์แบบนั้นเหมือนตัวเอง แม้จะไม่ชอบและเป็นปรปักษ์ในใจไปแล้ว แต่ในหัวอกความเป็นผู้หญิงด้วยกันเธอก็ยังเห็นใจลูกสะใภ้คนนี้อยู่มาก
“มันให้เมียนั่งรถผู้ติดตามมา” ไต้คุณทึ่งไม่น้อย ไม่มั่นใจว่ายีนนี้มันได้มาจากใคร
คีย์ตะวันหันไปมองตามก็เห็นว่าหญิงสาวชาวไทยคนนั้นลงมาจากตำแหน่งด้านข้างคนขับคันสุดท้ายของขบวน แต่คนที่ลงมาจากรถลีมูซีนเดินตัวปลิวเข้ามาในบ้านไม่รอเมียสักนิด