ตอนที่ 8 ชื่อตอน เจ้าปลาตาย

1479 คำ
และยามเมื่อต้องตกเป็นหมู่ชินขององค์ชายน้อย แม่ทัพเช่นนางจะไปที่ใดก็ได้ในทั้งวันแต่ต้องกลับมาในยามก่อนที่ตะวันจะตกดินและต้องกลับเข้ามาที่วังในทุกๆวัน " ให้ตายเถิดนี่มันเรื่องบ้าบอชัดๆ แม่ทัพหลวงก็มีอยู่และนางนั้นก็มิได้มีตำแหน่งอันใดในวังหลวง แต่ทว่าต้องมาติดแหง็กอยู่ในวังหลวงเฉกเช่นนี้ ช่างน่าเบื่อหน่ายยิ่ง !!! " "แม่ทัพรักษาชายแดนเช่นนางต้องมาเลี้ยงเด็กอมมือ อีกทั้งยังต้องมาทนถูกเจ้าหน้าปลาตายนั้นหาโอกาสคอยลวนลามอีก นี่มันหยามกันชัดๆ บุรุษเหนือบุรุษเช่นนั้นหรือ มารดามันเถอะ!!! " " ท่านพี่..ข้าจะต้องปกป้องชื่อเสียงของท่านพี่ไว้ให้ได้นะเจ้าคะ มิมีทางให้เจ้ารัชทายาทปลาตายนี่ มาทำชื่อเสียงของท่านพี่ผู้เก่งกล้าของข้าให้กลายเป็นบุรุษใต้บุรุษเป็นอันขาด ข้ามิมีทางเป็นฝ่ายรองรับโดยเด็ดขาดเจ้าค่ะ ถึงแม้อีกฝ่ายจะหล่อเหลามากเพียงใดก็ตามที " ร่างบางยินพิงเสาศาลาและทำท่าคล้ายคนสิ้นหวังอย่างรุนแรง ร่างสูงโปร่งขยับเข้าหานางที่ทางด้านหลัง และเอียงหน้าไปกระซิบไต่ถามนางโดยพลัน "คิดอันใดอยู่หรือ..หืม.." ร่างบางสะดุ้งเฮือกจะถอยหลังไปอีกครั้ง แต่มือหนาคว้านางเอาไว้และดึงเข้าไปในอกแกร่งของตนเองในทันใด ดีที่โดยรอบนี้นั้นมิมีผู้ใดแม้ผู้หนึ่ง มิเช่นนั้นนางจะต้องเสื่อมเสียมากไปกว่านี้อีกแน่ๆ ฮือๆ "องค์ไท่จื่ออย่าทรงทำเช่นนี้เลยพะยะค่ะ กระหม่อมมิใช่ต้วนซิ่ว กระหม่อมเป็นชายทั้งกายนะพะยะค่ะ!!! " ใบหน้าคมจดจ้องนางและดันนางไปติดเสาในทันใด ร่างกายแข็งตึงอุ่นร้อนนาบลงกับร่างกายของนางจนกายของนางนั้นมิสบายขึ้นมาพลัน "เจ้าลืมเลือนความรักของเราไปจนสิ้นเสียแล้วจริงๆ หรือว่าเจ้ากำลังโกรธเคืองข้าอยู่กันแน่ สิ่งใดคือความจริงของเจ้ากันแน่ หรือเจ้าเพียงคิดที่จะปั่นหัวของข้าเล่นกัน !!! " ร่างบางตาโตขึ้นมาพลัน นางตื่นตกใจยิ่งนักในครานี้ "คำพูดขององค์ไท่จื่อนั้นชัดเจนยิ่งนัก มิใช่ว่า..ท่านพี่..ท่านพี่..ท่านพี่ของนางมีความสัมพันธ์ลับกันกับคนผู้นี้จริงๆ อ๊าย ม่าย ม่ายนะ ท่านพี่ที่สง่างามของข้า ท่านคงมิใช่ฝ่ายรับ ไอ้หน้าปลาตายนี่ก็รุกเสียเช่นนี้ ท่านพี่ไปชอบคนเช่นนี้ได้เช่นใด อ๊าย ฮือ ท่านพี่ของข้า!!!! " ร่างบางใบหน้าเขียวสลับแดง นางถอยกรูดทำท่าแตกตื่นดวงตาตื่นตกใจยิ่งนัก ดูนางคล้ายสับสน เสมือนคนมิรู้จักกันเลยแม้เพียงนิด จิ่งเฉินไท่จื่อมองดวงตาของนางแล้วในอกนั้นปวดร้าวจนแทบจะขาดใจตาย "ถึงแม้ว่าจะดีใจที่นางยังมิตาย แต่ทว่าท่าทางเช่นนี้ของนางนั้นทำให้พระองค์ทรงเจ็บปวด เสมือนชีวิตนับจากนี้ย่อมตายทั้งเป็นแล้ว จะทรงทนเช่นนี้ได้อีกนานเท่าใดกัน อีกนานเท่าใดที่จะทรงยินยอมรับความเจ็บปวดเช่นนี้ได้ คนรักกันกลับกลายเป็นคนแปลกหน้า เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่มิรู้สึกถึงความรักต่อกันอีกแล้ว" ดวงตาปวดร้าวของจิ่งเฉินไท่จื่อ ทำให้มู่หลิงซือคล้ายปวดแปลบอยู่ภายในอย่างบอกมิได้ แต่ทว่านางเองก็มิอาจจะให้คนทั้งสองเดินหลงทางไปผิดทางเช่นนี้ต่อไปเฉกเช่นกัน "ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป สกุลมู่ย่อมมิอาจมีทายาทสืบสกุลต่อไปได้แน่ นางจะปล่อยไปเช่นนี้มิได้ มิได้โดยเด็ดขาด นางจะต้องตัดรอนความสัมพันธ์เช่นนี้ให้ชัดเจนไปในทันที!!! " ร่างบางคุกเข่าลงในทันใดและประสานมือขึ้นมาพลันและเอ่ยโป้ปดออกไปในทันใด "ฝ่าบาทโปรดอภัยให้กระหม่อมด้วยพะยะค่ะ กระหม่อมนั้นมิอาจรับความรักผิดอาญาสวรรค์เช่นนี้ได้ กระหม่อมมีสตรีในดวงใจแล้ว อีกทั้งฝ่าบาทเองก็มีชายารองอีกมากมายนัก กระหม่อมมิอาจทำให้สกุลมู่ต้องขาดผู้สืบทอดต่อไปได้อีกพะยะค่ะ ความสัมพันธ์ของเราคงต้องจบลงเช่นนี้ กระหม่อมจะขอไปชายแดนตลอดชีวิตมิกลับมาอีกแล้วพะยะค่ะ กระหม่อมขอทูลลา...อุ้บ!!! " ร่างแกร่งดึงนางไปจุมพิตอย่างรุนแรง หน้าตากรุ่นโกรธมีโทสะอยู่มากนัก จุมพิตคราแล้วคราเล่า จนปากของนางบวมเจ่อขึ้นมาแล้ว ร่างบางใบหน้าบิดเบี้ยวจนถึงขีดสุด นางจะร่ำไห้ออกมาแล้วในยามนี้ "ฮือ...จุมพิตของข้า ทำไมต้องเป็นต้วนซิ่วด้วยนะ หล่อขนาดนี้ เหตุใดปลาตายตัวนี้จึงมิคิดซบอกสตรีเพศที่งดงามเช่นนางเสียบ้างเลย หรือนางจะบอกออกไปเสียว่านางคือฝาแฝดของท่านพี่ แต่ถ้าบอกความจริงออกไปแล้ว เจ้าปลาตายนี่เกิดมีโทสะขึ้นมาที่คนรักหายไปมิพบกันในยามนี้ นางจะมิโดนบดขยี้เหมือนมดปลวกเช่นนั้นหรือ ฮือ สวรรค์ช่วยข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ ช่วยข้าด้วย ฮือๆ !!! " ร่างแกร่งทำดวงตาเจ็บปวดอยู่เนิ่นนานนัก จนท้ายที่สุดแล้วนั้นก็ผลักนางจนติดเสาศาลาไปในทันใด มิแรงแต่ก็มิเบานัก ร่างแกร่งดึงข้อมือนางและบดขยี้จุมพิตอย่างกรุ่นโกรธอีกคราหนึ่งในทันใด และกระซิบเบาๆขึ้นมาพลัน "ถ้าเจ้าไปแล้วเสี่ยวเซียว*1จะทำเช่นใด ลูกปลาน้อยขาดแม่มิได้นาน เจ้าจะปล่อยปลาน้อยๆถูกปลาตัวอื่นกลืนกินลงไปเช่นนั้นหรือ เจ้ามิรักปลาหลีของเจ้าหรือ มิใช่ว่าเจ้าบอกว่าจะฟูมฟักลูกปลาไปจนกว่าปลาหลีจะกระโดดข้ามประตูสวรรค์เป็นบุตรมังกรหรืออย่างไรกัน " มู่หลิงซือขมวดคิ้วบางๆขึ้นมาในทันใด นางคล้ายนึกบางสิ่งออกและในท้ายที่สุดนางก็ปวดศีรษะอย่างแรงกรีดร้องเสียงแหลมจนสลบไป จิ่งเฉินไท่จื่อตื่นตกใจหนักกรีดร้องตะโกนลั่นขึึ้นมา "ตามหมอหลวงมา ตามหมอหลวงมา โถ่เว๊ยย หงเสวี่ย หงเสวี่ย ตอบเปิ่นไท่จื่อซิ หงเสวี่ย !!!!! " ร่างบางหมดสติไปและหมอหลวงก็มาตรวจอาการของนางอีกคราหนึ่ง ก่อนจะคุกเข่าลงในทันใด "ทูลองค์ไท่จื่อพะยะค่ะ เอ่อนางเป็นสตรีอีกทั้งยังติดพิษกร่อนดวงใจยังรักษามิหายขาดดี อีกทั้งนางยังบาดเจ็บภายในยังมิฟื้นคืนดี เช่นนี้จึงมิอาจให้นางออกไปตรากตรำมิได้เลยพะยะค่ะ นางต้องอยู่แต่ในเรือนและนิ่งเฉยเช่นอิสตรีทั่วไปจะต้องลมแรงก็มิได้จะโดนลมหนาวก็มิดี ในห้องควรอบอุ่นหรือหากทำเช่นนั้นมิได้ ก็ควรสวมเสื้อขนเตียวทในทุกยามพะยะค่ะ สตรีมีบุตรแล้วต้องระวังโรคหนาวในกระดูกพะยะค่ะ" ใบหน้าคมทำท่าจะร่ำไห้ดึงนางกอดแน่นอยู่ในอกและเอ่ยตรัสถามออกมาในทันใด ดวงเนตรนั้นหม่นแสงนัก "นางจดจำเปิ่นไท่จื่อมิได้ เป็นผลจากยาพิษเช่นนั้นหรือ หรือว่านางนั้นจดจำสิ่งใดมิได้เลย" หมอหลวงพยักหน้าเบาๆและกราบทูลออกมาช้าๆในทันที "พิษกร่อนดวงใจนี้ร้ายแรงนักพะยะค่ะ หากว่านางรักผู้ใด หัวใจของนางจะบีบรัดตัวจนปวดร้าวอย่างรุนแรงนัก มิเพียงเจ็บจนเจียนตายแต่ทว่าจะปวดไปทั้งดวงใจของนาง อีกทั้งยังจะค่อยหลงเลือนไปในที่สุด สุดท้ายหากมิได้ยาถอนพิษมาทันท่วงที นางจะลืมเลือนทุกสิ่งจนสิ้นไป มีชีวิตแต่ไร้วิญญาณ ไร้สำเหนียกสิ้นหกปรารถนาเหมือนหุ่นกระบอกตัวหนึ่งไปพะยะค่ะ " ใบหน้าคมหลั่งหยาดน้ำตาลงในทันใด ดวงตาแดงก่ำขึ้นมา ค่อยๆยกปลายนิ้วไล้ไปตามกรอบหน้านุ่มและเอ่ยออกมาอย่างเศร้าสร้อยนัก "เปิ่นไท่จื่อจะมิให้เจ้ารักอยู่ผู้เดียวอีกต่อไปแล้ว จากนี้ไปเปิ่นไท่จื่อจะรองรับความเจ็บปวดนี้เอาไว้เอง จะมิให้เจ้าต้องเจ็บปวดอีกต่อไป เปิ่นไท่จื่อขอสัญญาต่ออ้ายเฟย จากนี้จะมิให้เจ็บดวงใจอีกต่อไปแล้ว อ้ายเฟยของเปิ่นไท่จื่อ" เสี่ยวเซียว*1 แปลว่า ปลาน้อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม