บทนำ
นำเรื่อง
มู่หลิงซือและมู่หานซือคือฝาแฝดใบหน้าคล้ายคลึงกันจนแยกแทบมิได้ สกุลมู่นั้นเป็นสกุลขุนนางฝ่ายบู๊ที่มีอำนาจในชายแดนมีผลงานมากมายนัก บิดาของนางมีตำแหน่งเจิ้นเป่ยโหว พี่ชายของนางถือตำแหน่งซื่อจื่อ แต่ผลงานนั้นก็โดดเด่นเกินบิดาของนางมากไปแล้ว
มู่หลิงซือนั้นเป็นสตรีที่ทั้งแคว้นนั้นเล่าลือกันปากต่อปากไปว่านางนั้นงดงามอ่อนหวานดั่งนกขมิ้นน้อยๆในกรงทอง ว่ากันว่าเสียงนางหวานปานน้ำผึ้งในฤดูสารท ก้าวย่างงดงามดั่งนางพญาหงส์แต่นั่นล่ะคือสิ่งที่บิดานางตั้งใจนักหนาอยากจะให้เป็น
ส่วนชีวิตนางนั้นหรือนางควบม้าสับเปลี่ยนตนเองอยู่ในค่ายชายแดนอย่างไรเล่า ทหารเดนตายทั้งหลายล้วนคุ้นชินกับนางดี นางมีอภิสิทธิ์เหนือผู้อื่นในกองทัพอยู่มากนัก ยามที่พี่ชายนางตกเขาลงไปในระหว่างรบ นางก็สวมรอยแทนทำศึกพิชิตสามดินแดน ก่อนที่พี่ชายของนางจะถูกค้นพบได้นั่นคือตำนานของนางเช่นนั้นเอง ผู้ใดจะรู้กันเล่าว่าอยู่ๆนางในคราบท่านแม่ทัพพิชิตสามดินแดนจะต้องมานั่งเลี้ยงเด็กผู้หนึ่งที่เรียกนางในคราบบุรุษว่าเป็นแม่กัน อีกทั้งยามเจ้าคนเป็นพ่อหน้าตายนั้นกลับมาจากสนามรบแล้ว นางก็ถูกประชิดกายและทำตาหวานน้ำตาคลอใส่ในทันใด
"เพ๊ย ถวายบังคมองค์ไท่จื่อพะยะค่ะ กระหม่อมคือมู่หานซือ แม่ทัพพิทักษ์ชายแดนพะยะค่ะ ยามนี้กระหม่อมเพียงอาสามารับใช้องค์ชายน้อยเป็นการชั่วคราวเพียงนั้นเอง เพราะองค์ชายน้อยเข้าใจผิดว่ากระหม่อมนั้นคล้ายคลึงกับพระมารดาพะยะค่ะ "
ใบหน้าคล้ายปลาตายที่ขึงตึงอยู่ตลอดเวลายกรอยยิ้มแย้มส่งรอยยิ้มส่องสว่างออกมาในทันใด
"คุณชายลูกชายข้าเอ่ยว่าท่านเป็นมารดา เช่นนี้ท่านก็ยอมเป็นมารดาให้ไปเถิด องค์ชายน้อยยังเล็กเช่นนี้ ห่างอกมารดามานานนักเกรงว่าจะป่วยไข้ลงไปได้ ส่วนเรื่องชายแดนใต้ยามนี้นั้นเปิ่นไท่จื่อจะส่งแม่ทัพมู่ลงไปก่อน ยามที่ผ่านไปเยี่ยมเยียนนั้น เปิ่นไท่จื่อพบว่าแม่ทัพมู่นั้นตื่นฟื้นแล้วและเร่งรีบจะไปตามหาของที่สูญหายในชายแดนจึงมิได้ร่ำลาบุตรชายของตนเองแล้ว เช่นนี้คุณชาย ท่านก็เป็นแม่ให้องค์ชายน้อยไปก่อนเถิด จนกว่าเปิ่นไท่จื่อจะกล่าวเอง ว่ามิต้องการแม่ของบุตรแล้วท่านก็ค่อยปรับไปทำสิ่งอื่นอย่างไรเล่า"
เสียงสุดท้ายเจือความน่าขนลุกปนน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งนัก ร่างบางขนลุกเกรียวขนในกายลุกตั้งชันไปทั้งตัว ความรู้สึกมิอยากอยู่ใกล้ผสมเกลียดชังแผ่ออกมาจากกายนางอย่างมิรู้ตนในทันใด ใบหน้าคมขยับเข้ามาชิดและแสร้งยัดบางสิ่งลงในคอเสื้อของนางในทันใด
"หยกผ่านทางนี้เก็บไว้ใช้ยามที่เจ้านั้นต้องการเปิ่นไท่จื่อ ต้องการยามใดก็ใช้มันในยามนั้น ผ่านทางมาได้เลย เปิ่นไท่จื่อนั้นสะดวกนัก "
มู่หลิงซือขนลุกเกรียวเพราะข่าวลือแปลกๆในหลายปีก่อนนั้น ในวังหลวงเล่าลือว่ารัชทายาทองค์นี้นั้นเป็นต้วนซิ่วจึงมิสนใจในสตรีเพศ ยามสตรีใดถวายตัวเข้าในวังก็ทรงส่งกลับบ้านเดิมไปจนหมดสิ้น จิตของมู่หลิงซือพลันวิปลาสไปในทันใด หากว่าองค์ไ่ท่จื่อวิปริตผู้นี้พบว่านางเป็นสตรี นอกจากโทษฐานลวงเบื้องสูงด้วยแล้ว นางคงโดนบีบคอตายหรือถูกบั่นคอตายในโทษฐานที่เป็นสตรีแล้วปลอมแปลงตนเป็นบุรุษเพศเป็นแน่แล้ว
"ฮึ้ย คิดแล้วก็ขยะแขยงนัก!!! "
มู่หลิงซือเร่งถอยกรูดออกมา หลังจากที่เข้าเฝ้าแล้วนางก็ใส่เท้าสุนัขวิ่งออกมาอย่างมิคิดชีวิตเลยในทันที