ตอนที่ 14 ชื่อตอน บีบบังคับ

1466 คำ
"องค์ไท่จื่อเพคะ หญิงชายมิควรใกล้ชิดกัน ในเมื่อทรงทราบความจริงแล้ว เช่นนั้นแล้วหม่อมฉันขอแยกกระโจมนอนด้วยเถิดเพคะ!!!! " มู่หลิงซือเร่งเอ่ยขอแยกกระโจมออกไปในทันใด ใบหน้าคมแย้มรอยยิ้มขึ้นมาในทันใดและกระซิบเบาๆออกไปในทันที "มิมีทาง. ....เจ้าจะต้องนอนกับเปิ่นไท่จื่อทุกราตรีนับต่อไปจากนี้ เพื่ออารักขาเปิ่นไท่จื่อและองค์ชายน้อย อีกทั้งป้องกันความลับของเจ้ารั่วไหลออกไปด้วย หากมีผู้ใดคิดจะลอบเข้ากระโจมมาเปิ่นไท่จื่อจะได้ปกป้องเจ้า หญิงชายอันใดหมู่ทหารเรามิเคยแยก เช่นนี้แล้วจงไปอาบน้ำแล้วรีบมานอนเสีย..กายเหม็นยิ่งนัก เปิ่นไท่จื่อมิชอบคนตัวเหม็น !!!! " ร่างแกร่งปล่อยนางออกไปก่อนและโยนชุดคลุมกายไปให้นางสวมใส่หลังอาบน้ำ ยามนางเข้าไปอาบน้ำ นางก็ค่อยๆผลัดผ้าออกไปจนสิ้น ยามผืนผ้าของนางหลุดลงจนหมดสิ้น เทียนภายนอกก็ดับลง เงาร่างงดงามก็ปรากฎขึ้นมาในทันใด จิ่งเฉินไท่จื่อแทบคลั่ง ปวดร้าวไปทั้งร่างช่างทุกข์ทรมานนัก สวรรค์ช่างทำร้ายกายของพระองค์ยิ่ง ยามยิ่งมองส่วนเว้าส่วนโค้งนั้น น้ำลายในลำคอก็เหนียวหนืดขึ้นมา กายร้อนรุ่มจนแทบบ้า ร่างแกร่งถึงกับต้องเบือนหน้าหนีและเร่งหาสุรามาดับร้อนในกายตนในทันใด ร่างแกร่งยามดื่มสุราแล้วก็ค่อยๆเหลือบดวงตามองไปที่หลังฉากกั้น ยามมองอีกคราก็เห็นนางยกเรียวขาขึ้นมาขัด จิ่งเฉินไท่จื่อหน้าแดงขึ้นมาพลันและทำหน้าคล้ายจะร่ำไห้ออกไปโดยพลัน " จะทำเช่นใดกับนางดี จะหักหาญน้ำใจนางก็เกรงว่านางจะเกลียดตน เรื่องเก่านั้นปล่อยให้นางผจญอันตรายอยู่มากแล้ว หากนางฟื้นความจำขึ้นมาก็คงกรุ่นโกรธนัก เรื่องใหม่นี้นางยังมิฟื้นความจำคืนกลับมา หากขืนใจหักหาญน้ำใจนางในยามนี้ นางย่อมจะเกลียดและโกรธพระองค์ไปจนวันตาย อันใดเล่าจะง้อนางคืนมาได้อีก ทรงรักนางมากมายนัก อยากถนอมน้ำใจนางเป็นอย่างดียิ่ง" แต่ทว่าแม้คิดอันใดในศีลธรรมดีงามได้ก็ตามเถิด ทรงเป็นบุรุษมีเลือดเนื้อ ทั้งยังหนุ่มและยังมีกำลังวังชาอยู่มากนัก กายทั้งกายยามเห็นแค่เงาของนาง รสชาติหวานของกายนางที่จดจำได้ก็ชวนให้หัวใจนั้นเต้นจนกระเด็นออกมานอกอกจนสิ้นแล้ว "ยามทรงไปออกรบพระองค์มิเคยหวั่น แต่ยามนี้นั้นพระองค์กำลังจะบ้าตาย ให้ตายเถิด กลับไปต้องทรงให้พระบิดาออกราชโองการ บังคับให้นางอถิเษกกับพระองค์เสียแล้ว ทดแทนที่คราก่อนมิได้ทรงจัดงานอภิเษกสมรสให้นาง ใช่ ต้องเป็นเช่นนั้นและต้องเป็นเช่นนั้น หากปล่อยนางไปเนิ่นนาน นางต้องตบแต่งกับบุรุษอื่นออกไปแน่ มิได้ อย่างไรก็มิได้แน่ เช่นนั้นพระองค์ต้องช่วงชิงนางเอามาไว้ที่ข้างกายก่อน คอยดูเถิด นางจะต้องถูกขังไว้แต่ในกรงทุกทิวาและราตรีกาล คอยดู!!! " เช่นนี้ราตรีนี้นั้น ยามที่มู่หลิงซือออกมาจากหลังม่านยามหลังอาบน้ำแล้ว จิ่งเฉิงไท่จื่อก็ปูผ้าขนเตียวแสนนุ่มลงบนเตียงให้นางและพระองค์ก็นำผ้านวมมาวางกั้นไว้ตรงกลางให้ ร่างบางจึงถอนหายใจโล่งอกเบาๆ ลงไปนอนได้อย่างสนิทใจนัก ยามที่นางหายใจสม่ำเสมอแล้ว จิ่งเฉินไท่จื่อก็ดึงผ้านวมออกไปและนำกายอุ่นร้อนของตนเข้าไปใกล้กายของนางในทันทีและทรงโอบกอดนางนอนอย่างหน้ามิอายนัก ทรงแย้มรอยยิ้มบานกระชับร่างบางไว้ในอกและห่มผ้าลงแน่นๆ หลับดวงตาลงไปในทันที ยามที่มีเสียงนกขมิ้นร้องแล้ว กองทัพก็ตื่นขึ้น เดินกันไปมาจนปลุกคนตัวบางในอกแกร่งขึ้นมาอีกผู้หนึ่ง หลังจากทรงตื่นบรรทมแล้ว ก็ทรงเอนกายมองนางอยู่เนิ่นนานแล้ว พิศมองริมฝีปากแดงๆแก้มแดงๆของนางอย่างจะอดใจมิได้นาน ยามที่ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นมา นางก็ถูกบดจุมพิตและตรึงแขนขาไว้อีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบแหบพร่านัก "เปิ่นไท่จื่อ จะทูลขอสมรสพระราชทานของเปิ่นไท่จื่อกับเจ้าจากฝ่าบาท ต่อไปนี้เจ้าก็มิต้องกลัวเสื่อมเสียชื่อเสียงอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งเปิ่นไท่จื่อก็มิต้องเบื่อหน่ายกับบุรุษที่มาตามเกี้ยวพาราสีเจ้าอีกด้วย เปิ่นไท่จื่อก็มีมารดาให้บุตรแล้ว อีกทั้งเสี่ยวเซียวก็รักเจ้ามากมายยิ่งนัก ตกลงตามนี้เถิด เราต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกันไปทั้งสองฝ่าย " ร่างบางใบหน้าเบี้ยวในทันใดและส่ายหน้าออกไปในทันใด ใบหน้าคมที่ยามปกติเฉยเมยอยู่แล้วครานี้กลับบึ้งตึงขึ้นมาและบดขยี้จุมพิตอย่างหนักหน่วงทั้งใช้นิ้วมือล่วงล้ำกายของนางลงไปถี่ระรัวและกระซิบขึ้นมาอย่างโหดร้ายนัก "เจ้าแปดเปื้อนแล้วมู่หลิงซือ มีแต่จะต้องแต่งกับเปิ่นไท่จื่อเท่านั้น มิเช่นนั้นเปิ่นไท่จื่อจะทำทุกทางให้ได้เจ้ามาเป็นมารดาของเสี่ยวเซียว หากดื้อดึงอีกเพียงนิด เปิ่นไท่จื่อจะขืนใจเจ้าลงไปเสีย!!!! " ร่างบางน้ำตานองในใบหน้า นางอับอายอย่างยิ่งนัก "เจ้าหน้าปลาตายนี่บังอาจทำเช่นนี้กับนางได้ น่าอับอายยิ่งแล้ว นางมิอาจเป็นเจ้าสาวของผู้ใดได้อีกแล้วในชาตินี้!!! " ร่างบางน้ำตาซึม ใบหน้าคมจุมพิตที่หน้าผากของนางอย่างแผ่วเบาและกระซิบเบาๆขึ้นมาอีกคราหนึ่ง "เห็นแก่เสี่ยวเซียวเถิด เสี่ยวเซียวขาดเจ้าไปมิได้ เปิ่นไท่จื่อก็เช่นกัน คงมิอาจให้ผู้ใดมาทดแทนเจ้าได้เฉกเช่นกัน " ดวงตางดงามมีหยาดน้ำล้นเอ่อออกมาในทันใด น้ำตาหยดเผาะในหางตาของนาง หยาดหยดลงมาดั่งไข่มุกวาวประกายในยามเช้า นางสะอื้นออกมาเบาๆ "หม่อมฉันก็แค่มีใบหน้าเสมือนกับพระชายาของพระองค์ แต่พระองค์มิควรบีบบังคับหม่อมฉันเฉกเช่นนี้ หม่อมฉันมิใช่นกในกรงทองของพระองค์ หม่อมฉันมีเลือดมีเนื้ออยู่ภายในนะเพคะ!!! " ใบหน้าคมขยับกอดนางและลูบผมเบาๆ และกระซิบปลอบขวัญนางเบาๆขึ้นมาในทันใด "ในวันหน้าหากเจ้าจดจำความขึ้นมาได้ เปิ่นไท่จื่อเชื่อว่าเจ้าจะต้องมีเรื่องเกลียดและโกรธเปิ่นหวางมากไปกว่านี้ เช่นนี้เรื่องเล็กน้อยถึงเพียงนี้เจ้าก็อย่าร่ำไห้เลย เอาไว้โกรธเรื่องใหญ่โตกว่านี้เสียเถิดนะคนงาม" มู่หลิงซือฟังแล้วโมโหจนมิอาจระงับอารมณ์ของนางลงไปได้อีก นางพุ่งเข้าจะทำร้ายร่างแกร่งในทันใด ใบหน้าคมแย้มรอยยิ้มบานและพลิกร่างนางลงนอนคว่ำทรงกดร่างของตนเองเสียดสีไปมากับร่างของนางเบาๆและหัวเราะคิกขึ้นมาพลัน "ชายา...เจ้าจะเล่นพลิกผ้าห่มกับเปิ่นไท่จื่อแล้วเช่นนั้นหรือ มิใช่ว่าต้องรอให้ถึงคืนเข้าหอก่อนเช่นนั้นหรือ หืม..คนดื้อ...เจ้ารู้ว่าถ้าเจ้าดื้อข้าจะมิทนใช่หรือไม่ " "หยุดนะเจ้าคนวิปริตบ้าราคะ ปล่อยข้านะ !!! " ใบหน้าคมแย้มรอยยิ้มบานและรัดนางแน่นขึ้นในทันใด กระซิบเสียงแหบพร่าออกมาอีกครั้ง กายของบุรุษร้อนลวกนางไปทั้งกาย ทำให้นางอับอายนัก "เปิ่นไท่จื่อจะมิปล่อยจนกว่าเจ้าจะยอมสงบอารมณ์ลงดีๆ หากมิเช่นนั้นแล้วเปิ่นไท่จื่อก็มิรู้จะทำอันใดกับเจ้าดีนะ..เจ้าชอบบทรักร้อนแรงเช่นนั้นหรือ หรืออยากให้ผู้คนรับรู้กันไปทั่ว มิใช่ว่าจะอับอายแก่สกุลมู่เช่นนั้นหรือ ...คิดดีๆเถิด..อย่างไรบิดาของเจ้าก็ต้องหาบุรุษมาให้เจ้าอยู่แล้ว มิสู้หลับตาไหว้ฟ้าดินลงไปเสีย ลงท้ายเจ้าก็จะช่วยให้สกุลมู่มีหน้ามีตาขึ้นมาอีกเสียด้วยนะ หึ หึ หึ "
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม