พริมาใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายในการอ่านและศึกษาเอกสารต่างๆ ก่อนจะเริ่มจัดเอกสารเหล่านั้นให้ให้เป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการค้นหา กว่าจะเสร็จจากงานเอกสารก็กินเวลาไปจนถึงเย็นพริมาจึงรีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะลงมาข้างล่างเพื่อช่วยงานในครัว
"คุณพริมครับ"พริมากำลังจะก้าวลงจากบันไดขึ้นสุดท้ายต้องชะงักด้วยเสียงเรียกของวายุภัคร
"อ้าว!!คุณลมไปไหนมาคะ วันนี้ไม่เห็นคุณกลับมาทานมื้อกลางวัน"
"เข้าเมืองไปทำธุระให้พี่ดินนะครับ ก่อนกลับก็เลยซื้อขนมอร่อยๆมาฝากคุณพริมด้วย"วายุภัครพูดพร้อมกับยื่นถุงขนมให้พริมา
"ไม่เห็นต้องลำบากเลยค่ะ"พริมารับถุงขนมมาอย่างเกรงใจ
"คุณพริมอย่าเกรงใจเลยครับ ของเล็กๆน้อยๆแค่นี้เอง"วายุภัครฉีกยิ้มแสดงความจริงใจเพื่อให้คนรับคลายกังวล
"ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมากๆนะคะ ไหนดูสิคุณลมซื้ออะไรมาฝากพริมบ้าง"พริมาเปิดดูถุงของฝากที่วายุภัครซื้อมาให้
"แต่ผมไม่แน่ใจนะครับว่าคุณพริมจะทานได้หรือปล่าว"วายุภัครแสร้งทำหน้าเศร้า
"ทำไมละคะ ขนมเปียกปูนน่าทานดีออกค่ะ"พริมางงกับท่าทีของชายหนุ่ม
"ก็ขนมมันเปียกปูนไงครับ คุณพริมกินเข้าไปก็แย่สิครับ"พอวายุภัครเฉลยออกมาทำเอาทั้งพริมาและเจ้าของมุกขำกันเสียงดัง จนแม่บ้านที่อยู่ในครัวต้องออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
"คุณลมนี่มีอารมณ์ขันดีนะคะ ทำเอาพริมงงเหมือนกัน"
"ดีนะครับที่คุณพริมไม่ว่าผมเป็นตลกคาเฟ่"
"พริมไม่กล้าหรอกค่ะ"
"แต่คิดใช่ไหมครับ"วายุภัครถามเป็นเชิงตลก
"ก็…นิดหน่อยค่ะ"พริมาแกล้งแหย่กลับ
"โห!!!คุณพริมอ่าาาา"วายุภัครทำเสียงโอดครวน
"พริมล้อเล่นค่ะ"
"จริงๆนะครับ"พริมาอดระบายยิ้มให้กับความทะเล้นของวายุภัครไม่ได้
"จริงสิคะ"
ภาพการหัวเราะและยิ้มแย้มแจ่มใสของพริมาที่มีให้กับวายุภัครอยู่ในสายตาของปฐพีทั้งหมด...ทั้งเหมือนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากลับมาแล้วอารมณ์ที่แจ่มใสมาตลอดทั้งวันเริ่มขุ่นมัวเมื่อรู้สึกว่าไม่มีใครสนใจ
...ทีกับเขาทำเป็นเย็นชา ห่างเหิน...
ปฐพีนึกค่อนขอดในใจและผิดหวังอย่างบอกไม่ถูกเมื่อคิดว่าแท้จริงแล้วภาพที่พริมาแสดงออกว่าเป็นผู้หญิงเรียบร้อยเย่อหยิ่งก็โกหกทั้งแพ จริงๆแล้วเธอก็ไม่ต่างกับผู้หญิงคนอื่นที่ขอบให้ผู้ชายซื้อของมาเอาใจ ปฐพียิ้มอย่างเย้ยหยันก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นบึ้งตึง ร่างหนาเดินกระแทกฝีเท้าหนักๆผ่านคนทั้งคู่ไปยังบันไดโดยไม่คิดที่จะทักทายใครเลย
พริมาและวายุภัครหันหน้ามามองกันแบบอัตโนมัตผสมด้วยความงุนงงเพราะไม่บ่อยนักที่ปฐพีจะแสดงอาการแบบนี้ ปฐพีเดินลิ่วไปยังห้องนอนของตัวเอง เมื่อเข้าไปในห้องแล้วเขาถอดเสื้อเชิ้ตแล้วขวางทิ้งอย่างไม่ใส่ใจว่ามันจะไปตกตรงไหนด้วยอารมณ์ที่ยังอยู่ในสภาวะหงุดหงิด
ปฐพียังคงเก็บตัวอยู่ในห้องนอนโดยไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง ปฐพีไม่ออกมาจากห้องเลยจนถึงเวลาอาหาร ดังนั้นที่โต๊ะอาหารเย็นจึงเหลือแค่พริมาและวายุภัครสองคนเท่านั้น
"ท่าทางวันนี้พี่ดินจะอารมณ์ไม่ดีนะครับ"วายุภัครพูดขึ้นขณะรับประทานอาหาร
"....."พริมาไม่ได้ออกความคิดเห็นใดๆได้แต่นั่งรับประทานอาหารเงียบๆ
"นานๆทีจะเห็นพี่ดินแสดงอาการปั้นปึ่งแบบนั้น ไม่รู้ไปโมโหใครมานะครับ"
"งั้นหรอคะ พริมว่าพริมชินเสียแล้วล่ะค่ะ กับอารมณ์ผีเข้าผีออกของพี่คุณลม"วายุภัครย่นคิวใส่คำพูดของพริมา
"จริงหรอครับ อย่างคุณพริมนี่พี่ดินยังกล้าเหวี่ยงใส่อีกหรอครับ"
"บ่อยออกค่ะ"
"อืมแปลก"วายุภัครทำท่าครุ่นคิด
"แปลกยังไงคะ"
"แสดงว่าคุณพริมต้องเป็นคนพิเศษ"
"ถูกเหวี่ยงเป็นพิเศษใช่ไหมคะ"หญิงสาวต่อประโยคให้วายุภัครอย่างขบขัน วายุภัครเปลี่ยนเรื่องคุยกับพริมาจนทั้งคู่ลืมเรื่องของปฐพีไปชั่วขณะ
@เช้าวันรุ่งขึ้น
พ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งไร่ปฐพีอยู่ในชุดที่พร้อมจะออกไปไร่เฉกเช่นทุกวัน ร่างสูงเดินอย่างองอาจผ่าเผยไปยังรถจี๊ปคู่กายพร้อมเตรียมตัวจะก้าวขึ้นรถ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเขานึกขึ้นได้ว่าลืมหมวกใบโปรด จึงต้องหมุนตัวกลับไปที่บ้านอีกครั้ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่พริมากำลังจะเดินลงมาจากบันได ปฐพีเงยหน้าขึ้นมามองร่างบางอย่างไม่วางตาจนหญิงสาวแอบคิดในใจไม่ได้ว่า
...จะมองทำไมนักหนา...
"ตื่นแต่เช้าเลยนะ"ปฐพีเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่พริมากลับคิดว่าเขากำลังเสียดสีเธอที่เป็นผู้อาศัย แต่กลับตื่นสายกว่าผู้เป็นเจ้าของบ้านเสียอีกใบหน้าหวานจึงแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง และอดที่จะเชิดขึ้นไม่ได้เมื่อหล่อนโกรธ
...ขี้งอนตามเคย...
ปฐพีคิดก่อนที่จะกระตุกยิ้มที่มุมปากกับอาการแง่งอนของหญิงสาว
"มีอะไรให้พริมรับใช้คะ"พริมาเอ่ยเสียงห้วน
"ใครจะไปกล้าใช้คุณหนูแห่งไร่พริมา"
"คุณปฐพี!!"
สายตาของพริมาตวัดใส่ใบหน้าคมของพ่อเลี้ยง รู้สึกเจ็บในใจกับสถานะซึ่งเป็นเพียงอดีต แต่เขานั้นช่างหมั่นขุดคุ้ยมันขึ้นมาเหยียบย่ำความรู้สึกของหล่อนนักหนา
"อย่าทำหน้างอนแต่เช้าสิ"
"หน้าพริมก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่คะ"พริมาเชิดหน้าขึ้น
"โดยเฉพาะกับผมใช่ไหม"
"หาเรื่อง"พริมาพูดเสียงเบา
"ผมลืมหมวก ถ้าไม่เป็นการเสียศักดิ์ศรีจนเกินไป ช่วยไปหยิบให้ผมหน่อยได้ไหม"น้ำเสียงของปฐพีเปลี่ยนเป็นปกติ แต่ก็ไม่วายแดกดัน
"รอซักครู่ค่ะ"พริมาหมุนตัวเดินกลับขึ้นไปยังห้องทำงานของเขาเพื่อหยิบหมวกให้
ปฐพีได้แต่มองตามพร้อมสายหัวน้อยๆก่อนที่ใบหน้าหล่อเข้มจะระบายยิ้มอย่างออกโยนแล้วก้าวตามไปช้าๆ และไปหยุดยืนอยู่ชิดแผ่นหลังของพริมา
"อุ๊ย!!"พริมาอุทานเมื่อหันมาชมกับร่างสูงของปฐพี
"กลัวจะหาไม่เจอเลยตามมา"ปฐพีก้มลงมาบอกใกล้ใบหน้าของพริมาด้วยเสียงกระเส่า
"นี่ค่ะ"พริมารีบยื่นหมวกให้ปฐพีก่อนจะเบื้อหน้าหนี
"ขอบคุณครับ"
"ค่ะ"
"เข้าไร่กับผมไหม??"ปฐพีพูดขึ้นทำให้พริมาขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ มาดนิ่งเฉยเมยที่เธอเคยใช้มันแสดงต่อหน้าเขาตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นสดใส เหมือนกับเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจ
"พริมไปได้หรอคะ"พริมาพยายามรักษาท่าที ทั้งๆที่ใจอยากไปมากๆ
"ทำไมจะไปไม่ได้ ตกลงจะไปไหม ถ้าไปก็ตามมา"พูดจบปฐพีก็เดินนำไปที่รถ และอีกไม่กี่อึดใจต่อมารถจี๊ปออฟโรดสีดำเข้มก็พาพริมาเข้าสู่เขตไร่ ปฐพี
"วันก่อนเจ้าลมพาไปดูอะไรมาบ้าง"ปฐพีเอ่ยถามพร้อมหันมามองเสี้ยวหน้าของคนที่นี่งข้างๆหลังจากที่รถแล่นออกมาได้ซักพัก
"ไปดูไร่องุ่นแล้วก็ฟาร์มเลี้ยงวัวค่ะ"พริมาตอบทั้งๆที่สายตายังมองอยู่ที่วิวข้างทาง
"อยากไปดูม้ามั้ย??"
"ที่นี่มีม้าด้วยหรอคะ"พริมาตื่นตาขึ้นมาทันที
"อืม..."ปฐพีพยักหน้าสั้นๆขณะหักพวงมาลัยไปยังคอกม้า
"พริมไม่ได้ขี่ม้ามานานแล้ว"พริมาเอ่ยเสียงเบาเพราะเมื่อคิดถึงเมื่อก่อนเธอจะมักจะไปขี้ม้าเล่นรอบๆไร่พร้อมกับพ่อของเธอ แต่วันนี้มันไม่มีท่านแล้ว
ปฐพีจอดรถและพาพริมาไปยังคอกม้า ไร่ปฐพีเลี้ยงม้าเอาใว้จำนวนมากเพราะเขากำลังจะเปิดรีสอร์ตในอนาคต ม้าที่นี่จะมีลักษณะที่สง่างามทุกตัวและเขาจะกำชับคนที่ดูแลที่นี่เสมอว่าต้องดูแลม้าทุกตัวอย่างดีที่สุด
ปฐพีพาพริมาเดินมาจนถึงม้าตัวที่อยู่คอกสุดท้าย ตัวนี้จะถูกแยกออกมาจากม้าตัวอื่นเพราะมันมีลักษณะที่ดีกว่าตัวอื่นๆและเขาก็คิดว่าเมื่อพริมาเห็นแล้วจะต้องอึ้งแน่นอน
"ภูผา...."พริมาพูดออกมาเสียงเบา