“เอ่อ...คือสมรศรีก็ไม่ทราบค่ะท่าน” เลขาฯ วัยกลางคนรีบรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นระริก พลางก้มหน้าก้มตาหลบแววตาเอาเรื่องให้จ้าละหวั่น เนื่องจากตัวสมรศรีเองก็เพิ่งรู้เรื่องเมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนี่เอง
“เป็นเลขาฯ ประสาอะไรฮ้า! น่าไล่ออกนัก”
ต่อว่าพร้อมข่มขู่เสร็จสรรพก็ผลักประตูห้องประชุมเข้าไปด้านใน ก่อนจะกวาดดวงตามองทุกคนที่ต่างหลบหน้าเขม็ง อึดใจเดียวจึงร้องถามด้วยสุ้มเสียงกระด้าง
“ไหนลองบอกมาหน่อยสิ ว่าใครหน้าไหนกล้าเรียกประชุมโดยที่ผมไม่ได้สั่ง!”
ทั้งห้องต่างพร้อมใจกันส่ายหน้าและหุบปากเงียบกริบ กระทั่งใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องประชุมจึงเรียกทุกสายตาให้หันไปมองด้วยความสนใจ และทันทีที่เห็นเสื้อผ้าหน้าผมระดับนายแบบหลุดจากนิตยสารก็สร้างความความตื่นตะลึงให้แก่คนมองได้ไม่น้อย
“ผมเป็นคนเรียกทุกคนมาประชุมในวันนี้เอง” คนมาใหม่ซึ่งอยู่ในชุดสูทสีดำสุดเนี้ยบเรียบหรูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเอ่ยบอกเสียงเรียบ กวาดตาสีน้ำตาลไหม้จ้องทุกคนแทบไม่กะพริบ เล่นเอาคนที่เข้าร่วมประชุมต้องเกิดอาการเย็นวาบไปทั้งสันหลัง และนั่งไม่ติดขึ้นมาซะดื้อๆ
“คุณ...”
ทรงพล คติธนากรณ์จ้องหนุ่มรุ่นลูกตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เค้าโครงที่เห็นช่างดูคุ้นตายิ่งนัก คลับคล้ายคลับคลาว่าสามเดือนก่อนเคยปรากฏอยู่ตรงหน้า หากครุ่นคิดอีกทีก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะมีสิ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็คือดวงตาอันเอาเรื่อง กับท่าทีแข็งกระด้าง เอาจริงเอาจัง ไร้แววขี้เล่น
“ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยนะ ผมแฟรงค์ แฮคตัน ประธานบริษัทแฮคตันโฮลล์ หรือจะพูดกันด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ มีใครสงสัยในฐานะของผมหรือเปล่า ผมจะได้ชี้แจงให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น”
สิ้นเสียงนั้น ทุกคนก็พร้อมใจกันส่ายหน้า หนำซ้ำยังทำตาโตราวกับเทพบุตรหล่นลงมาจากฟากฟ้า ผู้บริหารหนุ่มจึงกลอกตาเล็กน้อย ก่อนจะก้าวอาดๆ ไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ประธานตัวใหญ่สุด โดยมีลูกน้องคนสนิทขนาบข้าง จากนั้นผู้เข้าร่วมประชุมต่างก็แยกย้ายกันไปนั่งบนเก้าอี้ด้วยท่าทีเหมือนฝัน จนกระทั่งชายหนุ่มกระแอมในลำคอนั่นแหละ ถึงได้เรียกสติตัวเองให้กลับคืนมาโดยด่วน
นาทีจึงเหลือเพียงแค่คนที่เคยนั่งแท่นบริหารเท่านั้นที่ยืนหันรีหันขวางมองหาที่นั่งสำหรับตัวเอง มุมปากได้รูปของแฟรงค์ แฮคตันจึงคลี่ยิ้มบางๆ พลางเชื้อเชิญด้วยสุ้มเสียงราบเรียบ ชี้ชัดให้นั่งตรงข้ามกับแบรด
“คุณทรงพล เชิญนั่ง”
ได้ยินเช่นนั้น ชายวัยกลางคนจึงขยับตัว แล้วเดินมานั่งใกล้ๆ ด้วยสีหน้าและแววตากระด้างกระเดื่องอย่างเห็นได้ชัด แต่คนอย่างแฟรงค์ก็ไม่คิดจะใส่ใจ นอกจากเริ่มเข้าเรื่องที่ทำให้ตัวเองตรงดิ่งมาที่นี่ทันที
“ใครเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชี”
แม้คำพูดนั้นจะฟังดูแล้วไม่มีพิษมีภัย หากดวงตาคู่คมกลับทำให้หัวหน้าฝ่ายบัญชีลนลาน รีบยกมือสั่นๆ รายงานตัว พอรู้ว่าเป็นใคร ท่านประธานแห่งบริษัทแฮคตันโฮลล์จึงเอ่ยปากทันที
“คุณลองตอบผมหน่อยสิ ว่าทำไมตัวเลขที่เคยเป็นกำไรพุ่งสูง ถึงได้ดิ่งลงนรกได้ภายในสามเดือนแบบนี้”
คนถูกตั้งคำถามถึงกับหน้าซีด แต่ทว่ายังไม่ทันได้ขยับปากตอบก็ต้องหุบฉับ เพราะสุ้มเสียงกังวานของท่านประธานสุดหล่อแต่หน้าโหดเอ่ยติดต่อกันเป็นประโยคยาวเหยียด
“ผมไม่ใช่คนโง่หรอกนะ และทุกคนก็รู้ๆ กันอยู่ว่า โรงแรมของผมมีชื่อเสียงติดอันดับโรงแรมดังของโลก นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศต่างก็อยากเข้าพัก ฉะนั้นไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาดที่จะปรากฏตัวเลขห่วยๆ ในบัญชีนี้ คงไม่ต้องให้ผมพูดหรอกนะว่ามีการฉ้อฉลเกิดขึ้นในบริษัท”
ว่าแล้วดวงตาสีน้ำตาลไหม้กก็สบสายตาทุกคนราวกับจะค้นหาความผิดปกติ อึดใจเดียวก็ได้ยินเสียงใครบางคนเอ่ยขึ้น
“ก็สามเดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ ไม่เว้นไทย ฉะนั้นชาวต่างชาติก็เลยเข้ามาเที่ยวน้อย จึงทำให้ยอดจองห้องของโรงแรมเราทรุดฮวบลง ผมคิดว่าท่านประธานน่าจะเข้าใจเหตุผลข้อนี้นะครับ”
สิ้นเสียงอธิบายของคนที่นั่งแท่นเป็นประธานมาหลายปี มุมปากหยักสวยราวสตรีของแฟรงค์ก็ยกยิ้ม ก่อนจะเหยียดปากเอ่ย
“นี่คือคำแก้ตัว หรือว่าประโยคแก้ต่างให้ตัวเองล่ะครับ จริงอยู่ว่าด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำมาโดยตลอด จึงทำให้รายได้ของที่นี่อยู่ในระดับเดิม มีสูงบ้างต่ำบ้าง แต่มันคงไม่ย่ำแย่จนยอดรายได้กลับกลายเป็นขาดทุนร่วมสิบล้านภายในพริบตาได้หรอกนะครับ” หยุดพูดเพียงอึดใจ สบตากับผู้ร่วมประชุมทุกคน แล้วสุดท้ายก็หันมาจ้องคนที่นั่งแท่นผู้บริหารโรงแรมในเครือของตัวเองมายาวนานเป็นพิเศษ
“ในเมื่อข้ออธิบายของคุณไม่สามารถทำให้ผมเชื่อมั่นได้ ผมก็ต้องสั่งสอบพนักงานของที่นี่ทุกคนไม่มีข้อยกเว้น นับตั้งแต่ รปภ.ไปจนถึงคนที่มีอำนาจลงชื่อในเอกสารปึกนี้ หากพบข้อสงสัยที่โยงใยไปสู่การโกง แม้จะแค่สตางค์เดียว ผมก็จะไล่บี้เอาคืนกับพวกฉ้อโกงเป็นร้อยเท่าพันเท่า หากมันไม่พอชดใช้ละก็ เตรียมร่ำลาต้นตระกูลได้เลย”
จบประโยคนั้น ร่างสูงก็ยืดตัวขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนหันมาเอ่ยกับลูกน้องคนสนิท
“แบรด สั่งทีมโอดอลล์มาจัดการให้เรียบร้อย”
“ครับผม”
เมื่อลูกน้องหนุ่มตกปากรับคำเรียบร้อย แฟรงค์ก็ตวัดดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ฉายประกายกรุ่นโกรธอย่างเห็นได้ชัดไปสบกับผู้เข้าร่วมประชุมทุกราย ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวจากไป ทิ้งให้คนที่เกี่ยวข้องต้องร้อนๆ หนาวๆ จนนั่งไม่ติด ด้วยรู้ดีว่าทีมโอดอลล์นั้นน่ากลัวขนาดไหน เพราะพวกเขาใช้วิธีการสอบสวนของหน่วยสืบราชการลับแห่งอเมริกาเป็นต้นแบบ หากบทลงโทษนั้นนำมาจากพวกเจ้าพ่อมาเฟียที่กระฉ่อนไปทั้งวงการมืด ใครกล้าฉ้อโกงก็มีแต่ตายกับตาย หรือไม่ตายก็หมดตัว แม้แต่อาชีพขอทานก็ไม่สามารถทำได้อย่างปลอดภัย เพราะจะถูกตามราวีไม่สิ้นสุด
“ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต้อนรับทีมโอดอลล์ด้วยนะครับ”
บอกแค่นั้น แบรด เอ็ดสันก็สาวเท้ายาวๆ ตามคนเป็นนายออกไปทันที
เมื่อแบรดก้าวออกจากห้องประชุม ก็พบกับร่างสูงกำยำยืนใช้มือซ้ายเกลี่ยไรคางสากระคายไปมาคล้ายกับขบคิดเรื่องอะไรสักอย่าง เห็นดังนั้นเลขาฯ หนุ่มจึงขยับเข้าไปใกล้ พลางชะโงกหน้าถาม
“เจ้านายกำลังคิดอะไรอยู่หรือครับ”
อีกฝ่ายหันมามองแล้วยกยิ้มร้ายกาจ
“ฉันกำลังรู้สึกว่านายทรงพลมีส่วนในเรื่องการฉ้อโกงครั้งนี้”
“ผมว่าเป็นตัวตั้งตัวตีเลยแหละครับ ไม่ต้องผ่านทีมโอดอลล์ผมก็มั่นใจหมื่นล้านเปอร์เซ็นต์”
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ควรต้องสั่งสอนไอ้แก่นั่นสักหน่อย นายว่าดีไหม”
“ก็น่าสนุกดีครับ”
ลูกน้องหนุ่มตอบกลับพร้อมคลี่ยิ้มกว้าง ตรงข้ามกับกรอบหน้าผู้บริหารหนุ่มที่เบ้เล็กน้อย และในจังหวะนั้นเองหนุ่มใหญ่ผู้ตกเป็นเป้าหมายก็เดินออกมา ความคิดเรื่องการลงทัณฑ์แสนสนุกจึงผุดขึ้นมาในสมองอันชาญฉลาด แฟรงค์จึงค่อยๆ โน้มใบหน้าไปกระซิบสั่งงาน
“จับลูกสาวนายทรงพลมาให้ฉันเล่นสนุกสักหน่อยสิ”
“เจ้านายหมายถึงนางแบบนั่นหรือครับ”
แบรดหรี่ตาแคบขณะจ้องอีกฝ่ายตาไม่กะพริบ
“แต่เจ้านายกับคุณเฟียซไม่ใช้ผู้หญิงคนเดียวกันนี่ครับ”
“มันมีลูกสาวสองคนไม่ใช่หรือไง ไปจัดการให้เรียบร้อยภายในวันนี้” สั่งการเสียงห้าวเข้ม “อ้อ! พาไปที่บ้านสวนนะ อยู่ในเมืองมันคงไม่สนุกสักเท่าไร แล้วพรุ่งนี้ฉันจะเดินทางไปยลของเล่นชิ้นใหม่”
ลูกน้องหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ ตอบรับคำสั่ง แล้วจึงก้าวเร็วๆ ไปปฏิบัติตามบัญชาอย่างรีบร้อน ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มได้ขึ้นไปพักผ่อน จะว่าไปแล้วคุณแฟรงค์ก็ไม่ต่างจากคุณเฟียซสักเท่าไร เพราะห้าปีเต็มแล้วที่ผู้หญิงมากมายต่างตกเป็นเครื่องบำบัดอารมณ์ความใคร่ สาเหตุหลักก็มาจากผู้หญิงที่รักมอบความทรยศให้เป็นรางวัลสำหรับการทุ่มเทในทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา จึงได้พลิกหัวใจด้านมืดของแฟรงค์ แฮคตันให้ออกมาใช้งาน