bc

นะโมพ่ายรัก

book_age18+
226
ติดตาม
2.4K
อ่าน
ครอบครัว
จบสุข
ปิ๊งรักวัยเด็ก
like
intro-logo
คำนิยม

ลูกเขยกำลังจะเกิด แต่โดนพ่อตาคุมกำเนิดซะงั้น

เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก

แต่ไม่คิดว่าเธอจะเด็ดขนาดนี้...

จากคำหยอดในวันนั้น

“ก็คิดว่าสาวที่ไหน ว่าจะจีบสักหน่อย”

“ทำไม เป็นหนูแล้วพี่ไม่กล้าจีบหรือไง?”

“กล้าอยู่ แต่ย่านอีหล่าหลงอ้ายจนโงหัวบ่ขึ้นนี่แหล่ว กะสิยากอ้ายอีก” (กล้าสิ แต่กลัวพลอยหลงพี่จนโงหัวไม่ขึ้นนี่สิ เดี๋ยวก็ลำบากพี่อีก)

“ขี้โม้ ถ้าพี่มั่นใจขนาดนั้น ก็รีบมาทำให้หนูหลงหน่อย หนูอยากโงหัวไม่ขึ้นแล้ว”

“อย่าท้านะ”

“จักเทื่อแหน่ คาแต่เว้าอยู่หั่นล่ะ” (สักที มัวแต่พูดอยู่นั่นแหละ)

สู่ลูกล่อลูกชนในวันนี้

“น่ารักขนาดนี้ ไม่มีใครมาจีบเลยเหรอ?”

“มี แต่หนูไม่ชอบ”

“ไม่ชอบผู้ชายคนอื่น แต่ชอบพี่ใช่ไหม?”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
นะโมพ่ายรัก 1
รถหกล้อคันใหญ่แล่นอยู่บนถนนโดยไม่ใช้ความเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เลี้ยวยังทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ณ จังหวัดสุรินทร์ “เฮ้ย ไอ้โมเบา ๆ” เสียงตกใจดังมาจากด้านข้าง ทำให้ชายหนุ่มผู้ซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาปนทะเล้นดูมีเสน่ห์ แม้อายุจะสามสิบสองแต่ถ้าหากบอกว่ายี่สิบกลาง ๆ ก็ยังเชื่อ เพราะด้วยเป็นคนดูแลตัวเอง ผิวหน้าจึงเนียนละเอียดผุดผ่อง สิวสักเม็ดก็ไม่กล้าขึ้น เมื่อได้สติจึงรีบหันไปมองยังท้ายรถ พอเห็นว่าพลายชัยชนะช้างของพ่อตนที่ยกให้เลี้ยง ยังยืนนิ่งก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะเมื่อครู่ลืมตัวว่าบรรทุกช้างตัวใหญ่ที่มีอายุยี่สิบห้าปีมาด้วย จากนั้น นะโม ก็หันไปมอง ก้าน กับ ไม้ เพื่อนสนิทของตน ที่ตอนนี้นั่งเบียดกันอยู่ที่ประตูด้านข้างคนขับ จึงหลุดยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีชอบอกชอบใจ “โทษทีรถกูแรงไปหน่อย” “แรงไม่ว่า แต่มึงดูสภาพด้วยไอ้ห่า ดีไอ้ชัยไม่กลิ้งลงข้างทาง” “แล้วมันกลิ้งยังล่ะไอ้ก้าน?” “ก็โชคดีไงที่ไม่กลิ้ง” “บ่นเป็นเมียเลยนะมึง” “เมียห่าอะไร ถ้าได้ผัวแบบมึงกูก็ไม่เอาหรอก” “ไม่ชอบเหรอ กูเร้าใจนะ” พูดพร้อมขยิบตาให้เพื่อนด้วยท่าทีกวน ๆ ก้านเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับโก่งคออ้วก “หยุดพูดดิ๊ กูจะอ้วก” ขณะนะโมกับก้านเถียงกัน ไม้ที่นั่งฟังอยู่ก็เลือกไม่สนใจ ดวงตามองออกไปด้านนอกกระจกรถ เพื่อชมบรรยากาศบ้านเกิดของเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปทางนะโมแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปนเศร้า “มึงจะย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านของยายมึงจริง ๆ เหรอวะไอ้โม?” เพราะเห็นหน้ากันมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยห่างไกลกันเลยสักครั้ง พอรู้ว่านะโมจะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ ไม้ก็เศร้าใจไม่น้อย “ใช่” ที่นะโมตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านเกิดของแม่ เพราะเขาเบื่อที่ต้องทะเลาะกับพ่อทุกวัน เนื่องจากพ่อของเขาให้ช่วยทำไร่ทำนา ทว่าตนไม่อยากทำอยากเลี้ยงช้างไปวัน ๆ เท่านั้น หากแต่ว่าทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะหมู่บ้านช้างใหญ่นั้นไม่เจริญเท่าที่นี่ จะหารายได้จากช้างก็แสนยาก นะโมจึงตัดสินใจมาอยู่บ้านของแม่เพื่อเลี้ยงช้าง และพาช้างรับจ้างตามงานต่าง ๆ เพื่อเลี้ยงชีพ “อย่างงี้พวกกูก็คิดถึงมึงแย่เลยดิวะ” “อยู่ห่างกันแค่ไม่กี่กิโล ถ้าคิดถึงกูมาก มึงก็ขับรถมาหากูดิไอ้ก้าน” “เออ! อยู่เป็นโสดให้พวกกูมาหาก่อนนะมึง อย่าเพิ่งหนีไปมีเมีย เดี๋ยวตั้งวงไม่ได้” “อยู่ป่าดงพงไพรขนาดนี้จะมีผู้หญิงสวย ๆ ที่ไหนมาถูกใจกูได้วะไอ้ไม้” สิ้นเสียงบอกกล่าว เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็ส่ายหน้าเบา ๆ กับคำพูดของเพื่อน เพราะถ้าหากเป็นผู้หญิงในเมืองเขาจะไม่ว่าอะไรเลย จากนั้นนะโมก็ตั้งใจขับรถต่อ เพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงบ้านสวนของตา ที่ยกให้แม่ของตนแล้ว เนื่องจากตาของนะโมเพิ่งเสียไป ส่วนยายน้าชายก็รับไปเลี้ยงดูที่หมู่บ้านช้างใหญ่ จึงทำให้ที่นี่ไม่มีใครดูแล นะโมจึงขอแม่มาอยู่บ้านสวนแทน เพราะเห็นว่าห่างไกลจากบ้านเรือนของชาวบ้าน อีกทั้งยังมีพื้นที่กว้างขวาง ซึ่งสะดวกต่อการเลี้ยงช้างมาก รถหกล้อคันใหญ่แล่นไม่นาน ก็เลี้ยวเข้าไปภายในบ้านไม้ชั้นลอยหลังเล็ก ที่หน้าบ้านมีระเบียงไว้นั่งเล่น ส่วนด้านในบ้านเป็นห้องสี่เหลี่ยม มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้หลับนอนเท่านั้น แม้จะไม่ได้ใหญ่แต่ก็เพียงพอ สำหรับชายหนึ่งคนที่อยู่อาศัยคนเดียว หลังจากลงจากรถก้านกับไม้ก็เดินอ้อมไปข้างหลังรถหกล้อ จากนั้นก็ช่วยกันยกเข่งสับปะรดและหญ้าเนเปียร์ ซึ่งเป็นอาหารของช้างลงจากรถ ส่วนนะโมเมื่อหยิบตะขอช้างหรือคชกุศ ที่ผ่านการปลุกเสกมาเรียบร้อย ก็กระโดดขึ้นไปยังท้ายรถ แล้วบังคับพลายชัยชนะลูกชายของพลายมีชัย ซึ่งเป็นช้างเชือกแรกของครอบครัวตนลงจากรถ “มาอยู่บ้านหลังใหม่ด้วยกันนะไอ้ชัยลูกพ่อ” สิ้นเสียงทุ้มช้างตัวสูงใหญ่ก็ยกงวงขึ้นสูง พร้อมกับคำรามเสียงดัง นะโมจึงเอื้อมมือไปจับโซ่ที่คล้องรอบคอพลายชัยชนะ แล้วพาเดินลงจากรถ เข้าไปใต้เพิงหลังคาที่ต่อเติมกับเพื่อน เมื่อผูกพลายชัยชนะไว้กับเสาเรียบร้อย นะโมก็ไปช่วยก้านกับไม้ยกเข่งสับปะรด เข้าไปเก็บไว้ใต้เพิงหลังคา จากนั้นก็เอาสัมภาระไปเก็บในบ้าน แล้วทำความสะอาดบ้านและห้องน้ำต่อ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสรรพ ทั้งสามก็ไปนั่งพักที่กระท่อมไม้ไผ่หน้าบ้าน “เฮ้อ~ เสร็จสักที” “เหนื่อยฉิบหาย” สิ้นเสียงเหนื่อยล้า ก้านก็ทิ้งตัวนอนลงยังกระท่อม ด้านข้างไม้อย่างหมดสภาพ ก่อนจะหันไปมองไม้ที่สะกิดแขนของตนยิก ๆ พร้อมกับขมุบขมิบปากพูดไม่ออกเสียง แต่เพราะเป็นเพื่อนกัน ก้านจึงเดาออกว่าไม้กำลังจะสื่อบอกอะไร จึงพยักหน้ากลับไป แล้วหันไปทางนะโม ที่กำลังนั่งมองพฤติกรรมของพลายชัย ว่าเป็นอย่างไร หลังจากย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่ “ไอ้โมหาของแก้เหนื่อยมาให้พวกกูหน่อยดิ๊” “พวกมึงจะกินกันตอนนี้เลยเหรอวะ?” เพราะนะโมเห็นว่าตอนนี้เพิ่งบ่าย จึงถามเพื่อนทั้งสองให้แน่ใจ ซึ่งตัวเขายังไงก็ได้ ก่อนจะได้ยินคำตอบรับจากก้านและไม้ดังขึ้นพร้อมกัน “ใช่ / เออ” “งั้นไอ้ก้านมึงไปซื้อเหล้ากับกู ส่วนไอ้ไม้อยู่เฝ้าช้างให้กู” “เออ ๆ” สิ้นเสียงไม้นะโมก็ดันตัวลุกขึ้นจากกระท่อม ในขณะที่ก้านนั้นยังนอนสงสัย เพราะไม่รู้ว่าจะไปซื้อเหล้ายังไง ในเมื่อทั้งบ้านของเพื่อน เขาเห็นจักรยานเก่า ๆ เพียงคันเดียว ถ้าหากนะโมบอกจะเดินไป ก็ไม่รู้ว่าไกลหรือเปล่า เนื่องจากตอนที่นั่งรถเข้ามาในซอย ก้านก็ไม่เห็นบ้านเรือนของชาวบ้านหรือร้านค้าเลย มีเพียงแค่ทุ่งนากับไร่ของชาวบ้านเท่านั้น ชายหนุ่มจึงเอ่ยถามด้วยใบหน้าสงสัย “มึงจะไปซื้อเหล้ายังไงวะไอ้โม?” “ถามมาก ตามกูมาเถอะ” พูดจบนะโมก็เดินนำหน้าก้าน ไปยังหลังบ้านของตน ที่มีสวนมะม่วงขนาดใหญ่อยู่ ก้านเห็นเช่นนั้นจึงรีบวิ่งตามไป ส่วนไม้ก็ล้วงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีน ขึ้นมากดเล่นเพื่อรอเพื่อนทั้งสองคนกลับมา หลังจากนะโมพาก้านเดินผ่านประตูรั้วเหล็ก ที่เจ้าของไม่ได้ล็อก ด้านข้างรอบข้างล้อมด้วยรั้วหนาม เพื่อกั้นเขตแดนเอาไว้ ก็ได้ยินเสียงก้านเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย “มึงพากูเดินเข้ามาในสวนมะม่วงทำไมวะ?” “เก็บเห็ดมั้งไอ้ห่า มึงนี่สงสัยเยอะ” “แล้วมึงตอบดี ๆ ไม่ได้?” “กูจะไปยืมรถของน้าไปซื้อเหล้า” “เออ ตอบแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบ” สิ้นเสียงไม่สบอารมณ์ของก้าน นะโมก็ยกไหล่ขึ้นด้วยท่าทีกวน ๆ จากนั้นทั้งสองก็เดินพูดคุยกันต่อกระทั่งได้ครึ่งทาง “โอ้โฮ! มะม่วงดกฉิบหาย น่าขโมยไปแกล้มเหล้าว่ะ” “ของน้ากู อยากกินมึงก็ขอดี ๆ จะขโมยทำห่าอะไรนิสัยเสีย” “กูก็พูดไปงั้นแหละ ไม่ขโมยจริง ๆ หรอก ว่าแต่น้าแท้ ๆ ของมึงเหรอวะ?” “ไม่ใช่ แค่คนรู้จักเฉย ๆ” เนื่องจากนะโมกลับมาเยี่ยมตากับยายของเขาอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่แปลกที่จะรู้จักและสนิทกับคนในหมู่บ้าน แม้จะไม่ได้เกิดและโตที่นี่ก็ตาม หลังจากเดินมาสักพักก้านก็มองเห็นบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่ภายในบ้านกว้างขวาง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยรถบรรทุกหลายคัน ที่จอดเรียงรายอยู่ “บ้านรวยเหรอวะ?” “ก็พอมี” ขณะทั้งสองเดินพูดคุยกันอยู่ จู่ ๆ ก็มีสุนัขตัวใหญ่วิ่งมาดักข้างหน้า แล้วเห่าเสียงดังระงม ทำเอาชายหนุ่มสองคนตกใจไม่น้อย พอนะโมตั้งสติได้จึงรีบเรียกชื่อสุนัขตัวนั้นทันที ก่อนที่จะโดนมันกระโจนใส่ “ใจเย็น ๆ ไอ้รวย” สิ้นเสียงทุ้มรวยก็ยังเห่าไม่หยุด เนื่องจากมันไม่คุ้นชินกับนะโมเท่าไร เพราะอีกคนนั้นนานทีปีหนจะมาที่นี่ โฮ่ง ๆ ๆ “เฮ้ย ๆ ไอ้โมมึงห้ามมันหน่อยดิ๊” ก้านพูดพร้อมกับดึงตัวนะโมมาบังสุนัขตัวใหญ่ เมื่อเห็นมันเห่าไม่หยุด แถมยังทำท่าเหมือนจะกระโจนใส่อีก “มันฟังกูไหมล่ะ” เสียงเห่าและเสียงห้ามปรามระหว่างคนกับสุนัข ดังโหวกเหวกไปถึงในบ้าน ทำเอาชายวัยกลางคนซึ่งเป็นเจ้าของบ้านได้ยิน จึงรีบเดินออกไปดู ก่อนจะเห็นชายหนุ่มรุ่นลูกที่รู้จัก เนื่องจากในช่วงเทศกาลอีกคนชอบมาสังสรรค์ที่บ้านของตน กับน้าชายอยู่บ่อยครั้ง กำลังถือไม้ห้ามสุนัขเลี้ยงของตน ไม่ให้เข้าไปกัด เพชร จึงรีบเอ่ยห้ามทองเอก “บักรวย เซา” (ไอ้รวยหยุด) พอได้ยินเสียงเจ้าของมันตวาด รวยก็หยุดเห่า แล้ววิ่งหางจุกตูดกลับไปนอนใต้แคร่ไม้หน้าบ้านทันที ทางด้านนะโมเมื่อรอดพ้นจากการโดนหมากัด ก็พ่นลมหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะโยนไม้เล็ก ๆ ที่ถืออยู่ทิ้งลงพื้น แล้วเสยผมที่ปกปิดใบหน้าเนียนละเอียดขึ้น จากนั้นก็หันไปทางเพชร แล้วยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับส่งยิ้มให้ “หวัดดีครับน้าเพชร” พอก้านเห็นนะโมไหว้ชายด้านหน้าที่อายุห้าสิบกว่า แต่หน้าตายังหล่อเหลาอยู่ เขาก็รีบยกมือไหว้ตามเพื่อน เพชรเห็นเช่นนั้นก็พยักหน้ารับไหว้สองหนุ่มรุ่นลูก แล้วเอ่ยถามนะโมตามประสาคนรู้จัก “มึงมาฮอดแต่เหิง?” (มึงมาถึงนานหรือยัง?) “หัวแต่มาฮอดครับ” (เพิ่งมาถึงครับ) “แล้วมึงย่างลัดสวนบักม่วงกูมาเฮ็ดหยัง?” (แล้วมึงเดินลัดสวนมะม่วงกูมาทำไม?) “ผมว่าสิมายืมรถมอเตอร์ไซค์น้าเพชร ไปซื้อเหล้าแหน่ครับ” (ผมว่าจะมายืมรถมอเตอร์ไซค์น้าเพชร ไปซื้อเหล้าหน่อยครับ) สิ้นเสียงนะโม เพชรก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นเดียวกับใบหน้า “จอดอยู่ใต้ต้นไม้พู้นล่ะ มึงไปหาขับเอาโลด” (จอดอยู่ใต้ต้นไม้นู่นแหละ มึงไปขับเอาเลย) “ขอบคุณครับผม” “มึงขนของแล้ว แล้วบ่?” (มึงขนของเสร็จ แล้วเหรอ?) “แล้ว แล้วครับ” (เสร็จแล้วครับ) ขณะเดินไปยังรถมอเตอร์ไซค์ นะโมก็กวาดสายตามองภายในบ้านที่คุ้นเคย ก่อนจะหันไปหาเพชรที่ยังยืนอยู่ที่เดิม แล้วถามถึงรุ่นน้องที่เคยนั่งกินเหล้าด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง “พร้อมบ่อยู่เฮือนติน้า” (พร้อมไม่อยู่บ้านเหรอน้า) “บ่ มันไปร้านซ่อมรถ” (ไม่ มันไปร้านซ่อมรถ) เมื่อได้ยินคำตอบนะโมก็พยักหน้ากลับไป แล้วถามถึงน้องสาวสุดแสบ ที่เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องเถียงกันทุกที “อีหล่าพลอยกะบ่อยู่ติครับ?” (น้องพลอยก็ไม่อยู่บ้านเหรอครับ?) “แม่น ไปส่งเมียบักพร้อมอยู่ร้านซ่อมรถ” (ใช่ ไปส่งเมียไอ้พร้อมที่ร้านซ่อมรถ) “อ๋อครับ” ตามที่บอกว่านะโมกับพลอยชอบเถียงกัน เหตุเกิดมาจากตอนที่เขาเป็นหนุ่มรุ่น ๆ เจอกับพลอยครั้งแรกในงานแต่งของเสน้าชายแท้ ๆ ของตน นะโมเคยห้ามปรามพลอยไม่ให้ตักน้ำแข็งในถังแดงกินเล่น เพราะเขาจะเอาไว้กินเหล้ากับเพื่อน ทว่าเธอกลับไม่ฟัง แถมยังเถียงเขาฉอด ๆ อีกต่างหาก ทำเอานะโมหมั่นไส้ไม่น้อย ที่พลอยอายุเพียงแค่เก้าขวบแต่ปากดีมาก เขาจึงชอบแกล้งเธอทุกครั้งที่เจอหน้ากัน กระทั่งปัจจุบันแม้ตัวเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ ส่วนอีกคนก็เป็นสาวเต็มวัย แต่ก็ยังพูดหยอกล้อและเถียงกันเป็นเด็ก ๆ เหมือนเคย... หลังจากคร่อมรถมอเตอร์ไซค์เรียบร้อย นะโมก็หันไปมองก้านพร้อมกับพยักหน้า เพื่อส่งสัญญาณให้เพื่อนขึ้นรถ พอก้านนั่งซ้อนท้ายนะโมแล้ว เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็บิดคันเร่งรถอาซีเก่า ๆ ที่ใช้มาตั้งแต่รุ่นพ่อออกจากบ้านไม้ แล้วมุ่งไปยังร้านค้าทันที...

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

แอบเสียวจนได้ผัว (NC20+)

read
47.4K
bc

เมียแต่งที่คุณไม่เคยต้องการ

read
15.8K
bc

พี่สามีอย่ารังแกข้า

read
4.5K
bc

ยั่วรัก หม้ายสาวสายแซ่บ

read
18.1K
bc

พลาดรักนายคาสโนว่า

read
22.4K
bc

สยบรักร้ายนายมาเฟีย [ซีรี่ส์เซ็ตที่1 เรื่องที่3]

read
4.0K
bc

เด็กฝึกงานร่านกาม

read
29.6K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook