CHAPTER 5
Kwang [kw]
ชื่อไลน์ของพี่กวางงั้นเหรอ
ความกังวลฉายออกมาอย่างชัดเจนแต่สมองก็สร้างข้อขัดแย้งขึ้นมาอีกจนได้ว่าไม่มีทางที่พี่กวางจะไปเอาไลน์ฉันจากป้ากวาแม่ของพี่กวางหรอกมันหลายทอดจนเกินไปอีกอย่างมันไม่จำเป็นถึงขนาดนั้น ฉันละสายตาจากหน้าจอแล้วมาสนใจทำการบ้านโดยการนอนบนเตียงต่อเพราะอีกนิดเดียวมันจะเสร็จแล้ว
การบ้านวิชาคณิตศาสตร์วิชาที่ฉันถนัดมากกว่าวิชาอื่นๆ รองลงมาเป็นวิชาภาษาไทยและวิชาที่ฉันห่วยมากที่สุดก็คือภาษาอังกฤษถึงพยายามตั้งใจเรียนมากแค่ไหนมันก็ไม่มีทางเก่งขึ้นแน่ ความทรงจำกับวิชานี้ทำเอาฉันไม่อยากเรียนด้วยซ้ำเพราะเทอมที่แล้วเกรดฉันแย่สุดในห้องเรียน
แต่แล้วพอจะตั้งใจทำเสียงไลน์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้พอฉันหันไปสนใจก็พบกับข้อความหนึ่งแสดงบนหน้าจอของโทรศัพท์ ชื่อไลน์เดิมจากที่พึ่งเพิ่มเป็นเพื่อน
ข้อความจากพี่กวาง
Kwang [kw]: [ส่งสติกเกอร์]
Read
Kwang [kw]: อ่านแล้วไม่ตอบครับ
สติกเกอร์แรกเป็นหมียิ้มส่วนประโยคที่สองเป็นคำถามซึ่งเป็นผลจากการกระทำของฉันเอง ฉันเผลอกดเข้าไปอ่านและแน่นอนว่ามันมักจะขึ้นว่า ‘อ่านแล้ว’ ตรงหน้าจอคนส่งแน่ๆ ส่วนฉันแค่ยังไม่ได้ตอบเพราะยังคิดรูปแบบประโยคไม่ทันต่างหากไม่ใช่ไม่อยากตอบเสียหน่อย
NJ ♥: ใจยังไม่ทันพิมพ์ต่างหาก
NJ ♥: พี่กวางทำการบ้านอยู่เหรอคะ
NJ ♥: ใจกำลังทำการบ้านบนเตียงอยู่ค่ะ ^0^
Kwang [kw]: ?
Kwang [kw]: การบ้าน? บนเตียง?
แล้วทำไมพี่กวางงงขนาดนี้กันข้อนี้ฉันพยายามรุ่นคิดตั้งนานแต่ก็คิดไม่ออก ประโยคที่ฉันพิมพ์ออกไปมันก็ไม่ได้ยากกับการทำความเข้าใจเสียหน่อยว่าแล้วจึงรับส่งสติกเกอร์งงกลับไปให้อีกฝ่ายเรียบร้อย
NJ ♥: [สติกเกอร์]
Kwang [kw]: พี่เข้าใจแล้วแต่อย่าพูดแบบนี้กับใครนะใจ
NJ ♥: อ้าวก็ใจทำการบ้านจริงๆ นี่คะ ทำการบ้านคณิตศาสตร์บนเตียงเนี่ย
Kwang [kw]: เห้อ
Kwang [kw]: เด็ก
NJ ♥: ใช่ค่ะใจยังเด็กอยู่
NJ ♥: อายุแค่นี้ไม่ใช่ผู้ใหญ่หรอก
Kwang [kw]: ครับเด็กจริงๆ นั้นแหละ เด็กหญิงน้อยใจ
Kwang [kw]: งั้นคืนนี้ฝันดีครับ
อ่า... เมื่ออ่านข้อความนี้ใบหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาเหมือนเอาไปอังกับไอน้ำเลยแค่ประโยคเดียวก็ทำเอาฉันอยู่ไม่นิ่งแบบนี้ยิ่งตรงช่วงหน้าอกข้างซ้ายยิ่งแล้วใหญ่เต้นตึกตักเต็มไปหมด
Kwang [kw]: พี่รอนะ
Kwang [kw]: รอให้บอกกลับบ้าง
NJ ♥: ฝันดีนะคะพี่กวาง
NJ ♥: [สติกเกอร์รูปดวงดาว]
Kwang [kw]: [สติกเกอร์รูปพระจันทร์เสี้ยว]
จบบทสนทนาในค่ำคืนนี้ทั้งๆ ที่ความรู้สึกยังไม่จบลงด้วยซ้ำ การบ้านของฉันเรียบร้อยแต่รู้ไหมฉันยังไม่นอนเลยทั้งๆ ที่ควรนอนแล้วแต่กับนอนคว่ำหน้าราบไปกับเตียงเล็กๆ ก่อนเท้าคางเงยไปยังหน้าต่างที่มีม่านสีขาวพัดปลิวไปตามแรงลมในยามค่ำคืน พระจันทร์เสี้ยวสีเหลืองสอดส่องเล็ดลอดผ้าม่านมาเยือนใบหน้าฉันเรื่อยๆ
คืนนี้จะหลับดึกไหมนะ
คืนนี้คงฝันดีมากถ้าหลับลง
และหวังว่าวันพรุ่งนี้สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นเหมือนคืนนี้และด้วยหางตาแลไปเห็นเสื้อสีดำยี่ห้อดังที่ถูกแขวนเอาไว้ตรงหน้าตู้ของตัวเองรอยยิ้มก็กลับมาอีกครั้งหนึ่งไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นซ้ำๆ เพราะอะไรก็ไม่รู้ เสื้อตัวนี้พอเลิกเรียนฉันรีบซักมันพร้อมกับใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นเด็กที่ตัวเองชอบจนมันหอมฉุยกะว่าพรุ่งนี้จะเอาไปโรงเรียนด้วยเพื่อคืนพี่กวาง
ฉันมาถึงโรงเรียนในเวลาเท่ากับทุกๆ วันด้วยความสดใสมาถึงห้องก็นั่งประจำโต๊ะของตัวเองแต่แค่วางกระเป๋าที่มีเสื้อของพี่กวางอยู่ด้วยฟ้ากับฝนที่พึ่งเข้ามาก็เรียกชื่อของฉันทันที
“อีน้อยทำคณิตยังลอกหน่อยสิ”
“อ่อ... ได้แต่ไม่รู้ว่า...”ฟ้าไม่ฟังฉันรีบคว้าสมุดในมือไปเลย
“แล้วฝากไปทิ้งขยะให้ด้วยสิเวรกูแต่ต้องรีบทำการบ้าน”
“อ่า...ได้สิ” มาแล้วฟ้าก็ไปนั่งโต๊ะตัวเองส่วนฝนก็เสริมสวยแต่งหน้าตามประสาฉันจึงต้องสะพายกระเป๋าที่มีเสื้อพี่กวางติดตัวไปพร้อมกับคว้าถังขยะลงอาคารเรียนคนเดียว ถังขยะที่ต้องหิ้วสองคนแต่ตอนนี้มีแค่ตัวเองที่ทำฉันรู้ว่าฟ้าคู่กับฝนแต่ช่างเถอะไม่อยากถามกระทั่งลงอาคารเรียนได้ก็ตรงไปยังด้านหลังจะมีที่ทิ้งซึ่งเดินไปอีกหน่อย ตรงนี้เมื่อมองไปทางซ้ายเป็นห้องน้ำชายที่ฉันเลือกไม่มองจน… ถังขยะถูกมือใหญ่ขาวคว้าไปฉันจึงรู้สึกตัว “พี่กวาง”
“ทำไมต้องเจอตอนเธอซวยๆ ทุกครั้งใจ” น้ำหอมกลิ่นสดชื่อตีกลับมาพร้อมกับกลิ่นหนึ่งที่เหมือนเจ้าตัวตั้งใจใช้กลิ่นน้ำหอมกลบกลิ่นนั้นให้เจืองจางลงหากไม่ใกล้ชิดก็ไม่มีใครได้กลิ่นนี้ “ขยะนี่ต้องทิ้งคนเดียวเหรอ มันมีคู่นิ”
“เอ่อ...”
“ทิ้งให้คนอื่น คนอื่นใช้หรือว่าต้องทิ้งเอง”
“...”
“อย่าเงียบ พี่อยากได้คำตอบจากเธอ”
“ใจช่วยเพื่อนพี่กวาง”
“เพื่อนเป็นง่อยเหรอถึงชอบใช้คนอื่น?”
“…”
“ขอคำตอบครับ”
พี่กวางไม่รอให้ฉันได้ตั้งตัวเลยอีกอย่างเขาก็รั้งแขนที่หิ้วถังขยะให้ขยับโดยการเดินออกไปเป็นก้าวที่ใช้ระยะสั้นกว่าการเดินปกติของพี่เขา ใบหน้าที่มองไปตามทางเปลี่ยนเห็นหันมามองฉันเป็นระยะๆ อย่างไม่ขาดตอนทำให้พบอย่างหนึ่งว่าพี่กวางโคตรมีเสน่ห์เลยปลายผมสีดำหล่นปกหน้าเรียวนิดๆ ถึงอยู่ในชุดนักเรียนก็ตามบนตัวเขามีกระเป๋าเป้สีแดงใบพอประมาณสะพายไว้ด้วยแต่ที่เหมือนเดิมคือการเหยียบส้นรองเท้า
พี่กวางไม่ใช่เด็กเรียนจ๋าแบดพอตัวด้วยซ้ำ
จะมีคนชอบก็ไม่แปลก
ก่อนออกจากห้องเรียนเมื่อกี้ยังแอบได้ยินฝนกับฟ้าเลยว่าเช้าวันนี้หนุ่มหล่อรุ่นพี่ที่ได้ลงเพจเป็นพี่กวางจริงๆ พี่กวางที่เรียกคำชมจากคนอื่นๆ ได้ไม่ขาดปาก
“เพื่อนใจ... รีบทำการบ้านค่ะ”
“มันขนาดนั้นเลยนะ” ไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไรแต่แล้วทั้งเท้าฉันและก็พี่กวางก็หยุดเมื่อมาถึงจุดทิ้งขยะ “รออยู่นี่ไม่ต้องขยับเข้ามาใกล้”
ใช่มันคือคำสั่ง
และฉันก็ทำตามด้วย
พี่กวางเอาถังขยะไปทิ้งให้และเดินกลับมาหาแต่ไม่ยอมให้ฉันหิ้วหูถังขยะอีกข้างหนึ่งจนเดินมาถึงอาคารเรียนของฉันเองนั่นแหละถังขยะจึงถูกวางลง จุดนี้อยู่ลับสายตาคนเพราะเป็นจุดเลี้ยวหักศอกมีมุมอยู่
“เอ่อ... พี่กวางคะ นี่เสื้อที่ให้ใจยืม”
เสื้อผืนใหญ่สีดำถูกยื่นไปยังตรงหน้าของอีกฝ่ายกลิ่นหอมน้ำยาปรับผ้านุ่มเด็กส่งกลิ่นฟุ้งกระจายพอพี่กวางรับเอาไปใส่ต่อหน้ามันก็เรียกรอยยิ้มได้ไม่ยากเลย
“ขอบใจที่ซักให้ครับ รีบขึ้นอาคารได้แล้วใจ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วย”
“ครับ”
รอยยิ้มหวานของพี่กวางยังติดสายตาแม้ว่าเวลาจะผ่านมาถึงช่วงพักเที่ยงแล้วก็ตาม ทุกคนต่างมีกิจกรรมช่วงเที่ยงเป็นของตัวเองคือการนั่งคุยกันบ้าง นั่งกับแฟน นั่งทานขนมดื่มน้ำที่ชอบส่วนฉันก็จะเป็นการนั่งอยู่กับโต๊ะเรียนมากกว่า เสียงของพวกเพื่อนๆ คุยกันสนุกสนามและเรื่องหนึ่งในนั้นคือเรื่องพี่กวาง
“เพจหนุ่มหล่อสาวสวยแท็กพี่เขาด้วยนะ”
“เห็นคนลือกันว่าพี่ดาห้องหกทับสองของไลน์พี่กวางด้วยว่ะ”
“ไหนๆ เฟซพี่กวางกูขอบ้างจะแอดเป็นเพื่อน”
“พี่กูอยู่ห้องกับพี่ดาบอกว่าพี่ดายังไม่ได้ไลน์พี่กวางเลย หาแทบบ้าไปขอกับพี่ดิวและพี่ข้ามฟ้าก็ไม่ได้”
“พี่เขามีแฟนแล้วมั้ง หล่อขนาดนั้นจะเหลือเหรอ”
ทุกประโยคได้ยินชัดเจนเลยมีแต่เรื่องของพี่กวางทั้งนั้นไม่รู้ว่าแค่ย้ายมาใหม่จะฮอตอะไรขนาดนั้นกันนะ ฉันยังฟังการเม้าท์มอยเรื่องพี่กวางเรื่อยๆ จากเพื่อนโต๊ะถัดไปและจากกลุ่มอื่นรอบตัว
“วันนี้กูเดินตามหลังพี่กวางกับเพื่อนไปโรงอาหาร แม่งคนอะไรตัวหอม”
“อีนิลพูดถูกหอม หอมมากกลิ่นเด็กๆ ไม่น้ำหอมก็น้ำยาปรับผ้านุ่มอ่ะฟุ้งกระจาย”
“กูอยากถามพี่เขาว่าใช้อะไรตัวถึงหอม”
“แต่กูอยากเป็นแฟนพี่เขา”
คราวนี้เป็นประโยคของคนมาใหม่อย่างฟ้าที่เข้ามาในบทสนทนาของเพื่อนๆ ความมีเสน่ห์และความมั่นใจของฟ้าฉันว่าอาจมีสิทธิทำให้พี่กวางสนใจได้ อย่างแรกที่ใครๆ ต่างให้ความสนใจฟ้าก็คือความสวย รอยยิ้มหวานและก็การมีอัธยาศัยที่ดีมากซึ่งเป็นหลักการต้นๆ ที่คนเราจะมองคนๆ หนึ่งได้
ในความคิดของฉันมันเป็นแบบนั้นเสมอถึงแม้ทุกครั้งที่แอบมองฟ้าหรือว่าฝนจะได้สายตาไม่ชอบกลับมาก็ตามแต่ยังไงมันก็ไม่เป็นอะไรหรอกแค่ได้มองเพื่อนมันก็ดีแล้ว
“เหรอแต่กูเห็นมึงซื้อน้ำยื่นให้พี่เขา พี่เขาเมินมึงนะอีฟ้า”
“อีนิล!”
“กูพูดความจริงทั้งนั้น”
“มึงคอยดูเลย”
“กูดูอยู่แล้ว มึงก็อย่ามั่นใจนักเลยบ้างครั้งสิ่งที่มึงมีคนอย่างพี่กวางไม่สนใจก็ได้”
“นาคนิล นายหญิงต้องเป็นกูแน่”
“ตกมาเจ็บหนักจะหาว่าเพื่อนคนนี้ไม่เตือนก็แล้วกันอีฟ้า”
แล้วก็จบประโยคเถียงกันระหว่างฟ้ากับนิลเมื่อฟ้าแสดงอาการฟึดฟัดใส่นิลอย่างอารมณ์เสียเลยหลีกออกมานั่งหน้าโต๊ะเรียนของฉันซึ่งเป็นเก้าอี้เรียนของเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งสายตาของฟ้าในนาทีนี้ค่อนข้างน่ากลัวใช่เล่นเพราะมันมีความแข็งกร้าวแบบเต็มเหนี่ยวแค่เสี้ยวเดียวก็มีบางอย่างที่เป็นของแข็งปามากระทบเข้ายังเปลือกตาของฉันกับช่วงหางคิ้วเต็มแรง แรงกระทบทำให้ฉันยกมือขึ้นมากุมตาเอาไว้
“สำออยอิน้อยไปซื้อน้ำให้กู”
“กูว่ามึงทำมากไปว่ะฟ้า น้อยไม่ใช่ขี้ข้ามึง!”