CHAPTER 4

2194 คำ
CHAPTER 4 “แม่นี่...” “ผมเป็นลูกแม่กวาครับ” หกพยางค์ในประโยคนี้ชัดเจนและหนักแน่นอีกทั้งยังเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นทำให้คนที่อยู่ในละแวกนี้ต่างได้ยินชัดเจนและท่าทางก็เปลี่ยนไปในทันที “พึ่งมาอยู่ที่นี่ฝากตัวด้วยนะครับ” “คุณกวางลูกนายหญิงเหรอ” “ถ้าหมายถึงแม่กวาของไร่นาคนิลก็ใช่ครับ ผมเป็นลูกชายคนเดียวของแม่กวา” “…” “วันนี้เดินมาส่งใจเพราะเห็นว่าจะค่ำแล้วอีกอย่างอยากมาดูไร่ด้วย” “…” “ไร่สวยดีครับแต่อาจต้องเปลี่ยนระบบอะไรนิดๆ หน่อยว่ามั้ยครับ” “…” ไม่มีคำตอบจากคนรอบข้างอีกทั้งสถานการณ์ก็ยังอึมครึมลงคล้ายกับสภาพอากาศตอนฝนกำลังจะตกทั้งที่ความเป็นจริงไม่ใช่เลยไม่มีฝนตกอะไรทั้งนั้น พี่กวางหันมามองฉันที่นิ่งเงียบแต่รู้ไหมสายตาของฉันมันไม่เป็นแบบนั้นสายตาของตัวเองสอดส่ายไปมามองทุกคนกระทั่งมาหยุดที่พี่กวาง “เข้าบ้านไปช่วยแม่ได้แล้วใจ” พี่กวางเอ่ยปากและใช้สายตาสั่งงานฉันทำตามอย่างง่ายดายถึงจะเดินห่างออกมาแต่ก็ยังทันได้ยินประโยคที่พี่กวางเอ่ยตามมาติดๆ กับแม่ของฉัน “ตอนเลิกเรียนนับตั้งแต่พรุ่งนี้ไปขอยืมตัวใจด้วยนะครับพอดีบ้านใหญ่มีงานให้ทำและไม่ต้องห่วงผมจะมาส่งเองครับ” สุดท้ายรู้ไหมว่าฉันได้ยินประโยคตอบรับการขออนุญาตจากปากของแม่เลยฉะนั้นวันนี้ตั้งแต่เลิกเรียนเป็นต้นไปฉันต้องมุ่งหน้าไปบ้านใหญ่ซึ่งเป็นเรือนทรงไทยหลังเดิมแต่ตอนนี้ควรอยู่กับปัจจุบันดีกว่า ปัจจุบันที่ว่าเป็นวันเปิดเรียนวันแรก และก็เป็นปัจจุบันที่ฉันกำลังอยู่หน้าตู้กดน้ำของโรงเรียน วันเปิดเรียนที่ใครหลายคนต่างรอให้มันมาถึงแต่รู้ไหมยังมีอยู่นะคนที่ไม่อยากมาโรงเรียนเช่นตัวฉันเอง แก้วน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำอยู่เกือบเต็มในมือถูกฉันเอาผ้าเช็ดหน้าชุปลงไปให้มันเปียกจากนั้นก็วางแก้วน้ำไว้ตรงโต๊ะม้าหินอ่อนก่อนเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาพร้อมบิดน้ำออกแล้วเอามาเช็ดเสื้อนักเรียนบนตัวช่วงหน้าท้องที่ยังเป็นสีแดงเด่น ฝนทำน้ำแดงคว่ำใส่ฉันเมื่อกี้เองแต่ฝนก็แสดงความรับผิดชอบโดยการลากมาตรงนี้แล้วก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ยังดีนะที่ทุกครั้งฉันมักจะใส่เสื้อซับในสีขาวซ้อนเสื้อนักเรียนทุกครั้งฉะนั้นมันจึงไม่ค่อยน่าเกลียดมากเท่าไหร่นักหรอก ด้วยความที่ตั้งใจเช็ดมากไปหน่อยจึงไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบตัวนักเพราะงั้นฉันจึงไม่รู้ว่าฝนเข้ามาเมื่อไหร่กระทั่งได้ยินเสียงของเธอดังขึ้น “อีน้อยทำอะไรชักช้าว่ะ เทน้ำลงเสื้อก็หมดเรื่อง” “เดี๋ยวๆ ฝน....” ไม่ทันแล้วฝนคว้าแก้วน้ำที่ไม่ใช่น้ำเปล่ามาแล้วเทลงจุดเดิมซ้ำที่เดิมจนตอนนี้จากสีแดงเปลี่ยนเป็นสีคล้ำน่าอับอายกว่าเดิมอีกหลายเท่า ความเปียกชื้นมาพร้อมกับความเย็นเฉียบเพราะน้ำที่ฝนพึ่งเทเป็นโคล่าที่พึ่งซื้อมา “เฮ้ย... กูลืมคิดอ่ะ” “ช่างเถอะ” ฉันพูดได้แค่นี้ “ฝนทำอะไรอยู่ที่นี่แฟนมึงรอที่ห้องเรียน” เสียงของแฝดดังขัดขึ้นแล้วฟ้าก็มาหยุดยืนห่างเพื่อรักษาระยะ “อ้าวแล้วทำไมอีน้อยน่าเกลียดขนาดนั้น อี๋เสื้อสกปรก” “น้ำแดงหกเลอะเสื้อกูเลยเอาโคล่าเทซ้ำ... นึกว่ามันจะหายไง” “เหรอ... เอ่อรีบไปเถอะฝนปล่อยอีน้อยจัดการตัวเองซะ” “ไปนะอีน้อย” เสียงหัวเราะรั้งท้ายของคู่แฝดนั้นทำให้ฉันรู้สึกว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้นะแต่มันก็แค่ความรู้สึกเท่านั้นแหละแค่สองคนนี้คบกับฉันมันยังดีกว่าไม่มีใครคบเลย ยังดีแล้ว แกทำดีแล้ว ยิ้มได้แล้ว คำพวกนี้คือคำที่ฉันท่องเสมอว่าแล้วก็ชุบผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมลงไปในแก้วอีกใบแล้วก็กำลังจะเช็ดลงเสื้อกับต้องหยุดลง มีปากกาสีเงินด้ามสวยเข้ามาตีลงมือฉันให้หยุดจากนั้นคนมาใหม่ที่อยู่ในชุดนักเรียนมอปลายไม่เรียบร้อยก็ยังนั่งลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนรองเท้าสีดำเหยียบส้นขึ้นเหยียบลงบนเก้าอี้ คิ้วทั้งสองขมวดขึ้นอีกทั้งสายตายังจ้องไปยังเสื้อของฉันอย่างไร้คำพูดใดๆ “พี่กวางกินข้าวแล้วเหรอ” ใช่เกือบลืมไปเลยพี่กวางพึ่งมาใหม่เมื่อเช้าฉันอยู่บนอาคารเรียนแอบเห็นพี่กวางเดินอีกอาคารหนึ่งผู้หญิงคนอื่นมองมายังเขาเต็มเลยยิ่งเข้าไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับพี่ดิวและพี่ข้ามฟ้ายิ่งฮอตใหญ่ “นี่คือประโยคทักทาย?” อ่า... ตอบแต่ไม่มองหน้าเลย “ไปทำอะไรมาทำไมถึงเป็นแบบนี้” “น้ำหกค่ะ” “แต่เมื่อกี้ที่เห็นไม่ใช่” เห็นที่ฝนทำแน่ๆ เลย “ฝนช่วยต่างหาก” “แน่ใจใช่มั้ยว่าช่วย... ช่วยซ้ำให้เป็นกว่าเดิมหรือเปล่า” “…” ฉันตอบไม่ได้หรอกได้แต่ก้มหน้าลงแล้วตั้งหน้าตั้งตาเช็ดเสื้อของตัวเองซ้ำๆ แบบนั้นไปเรื่อยๆ จนมีปากกาด้ามเดิมเข้ามาตีซ้ำและคราวนี้มันแรงกว่าเดิมนิดหน่อย “ไม่ออกหรอกหยุดได้แล้ว บิดผ้าเช็ดหน้าให้แห้งแล้วก็บิดที่เสื้อ” ฉันทำตามที่พี่กวางบอก “แล้วเดิมตามมา” “ไปไหนคะ” “ตามมาใจ” สามพยางค์เรียบแต่หนักแน่นกว่าเดิมทำให้ฉันเดินตามพี่กวางมาเงียบๆ กระทั่งขึ้นอาคารเรียนซึ่งอาคารนี้เป็นระดับมอปลายทั้งหมด ฉันมาหยุดลงหน้าห้องเรียน 601 หรือว่าหกทับหนึ่งนั้นแหละ “เข้ามา” เพราะฉันยังนิ่งพี่กวางเลยหันตัวกลับมาแล้วเดินไปข้างหลังของฉันจากนั้นก็เอาปากกาเล่มเดิมจี้ไปที่กลางหลังก่อนดันเข้ามาแน่แหละคราวนี้ฉันดื้อไม่ได้ต้องเดินเข้าไปในห้องที่ในขณะนี้อยู่ในช่วงพักเที่ยงแต่ยังมีรุ่นพี่คนอื่นๆ มองมาอยู่ การกระทำของพี่กวางเรียนสายตาคนอื่นๆ ได้มาก การใช้ปากกาดันจี้หลังหยุดลงเมื่อมาถึงจุดที่พี่กวางต้องการนั้นก็คือโต๊ะเรียนของพี่กวาง “เอาไปใส่” “แต่ๆ ...” “รูดซิปขึ้นด้วย” เสื้อยี่ห้อดังถูกยื่นมาให้พอฉันส่ายหน้าปฏิเสธก็เหมือนกำลังจะโดนด่าจึงรับมาใส่ทับลงกับตัวเองแล้วทำตามที่อีกฝ่ายบอก “ไม่น่าเกลียดหรอก” “แต่เสื้อแพงนี่ค่ะ” “แล้วยังไง ใครสนกัน” “เดี๋ยวเปื้อนอีกคราวนี้ตายแน่ๆ” “คนที่จะตายคือคนที่ทำใจต่างหาก” ประโยคพูดอันแสนธรรมดาแต่กับทำให้ฉันชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นสบนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่เดิมที่กำลังก้มมองลงมาเช่นกัน ความห่างมันมีอยู่แล้วเนื่องจากฉันเตี้ยส่วนพี่กวางสูงมากเราทั้งสองมองกันได้สักครู่หนึ่งก่อนที่พี่กวางจะเคลื่อนไหวโดยการนั่งลงพร้อมกับเอื้อมมือเปิดขวดน้ำเปล่าที่วางไว้บนโต๊ะ “งั้นใจไปก่อนดีกว่า” “ยัง... นั่งลงก่อน” แต่สิ่งที่ได้กับมาคือคำสั่งบวกกับสายตาที่สั่งให้นั่งลงไปกับเก้าอี้ตรงด้านหน้าซึ่งเป็นโต๊ะเรียนของใครคนหนึ่ง ช่วงพักเที่ยงโต๊ะเรียนนี้จึงว่างเพราะเจ้าของอาจไปทานข้าวหรือไม่ก็ไปซื้อขนมซึ่งนั้นแหละฉันก็เกรงใจอยู่ดีเผื่อเขาเข้ามาแล้วเจอฉันนั่งทำไงล่ะทีนี้ “โต๊ะไอ้ดิวนั่งได้มันไม่อยู่” “เดี๋ยวพี่เขาก็มา” “อย่าดื้อใจ” อ่า... ฉันนั่งลงตรงข้ามพี่กวางทันที โต๊ะเรียนของห้องมีการแบ่งเรียนโดยนั่งเป็นคู่มีสี่แถวแล้วแถวที่พี่กวางนั่งคือแถวในสุดติดกับหน้าต่างนั่งส่วนเกือบสุดหลังห้องและคู่ที่พี่กวางนั่งด้วยหน้าจะเป็นผู้ชายเพราะมีแค่กระเป๋าใบเล็กสีแดงกับปากกาเล่มเดียวบนโต๊ะเรียนส่วนโต๊ะพี่กวางนั้นมีแค่ขวดน้ำ การย้ายมาโรงเรียนแค่วันแรกของพี่กวางถือว่าหาเพื่อนได้รวดเร็วมากเลย แค่วันเดียวทำได้ถึงขนาดนี้ถ้าเทียบกับฉันบอกเลยว่าดีกว่า การนั่งของตัวเองเรียกสายตาของรุ่นพี่หลายคนหนึ่งในนั้นคงเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งตรงมุมหน้าประตูฝั่งตรงข้ามสายตาของพี่เขาไม่เคลื่อนย้ายไปไหนเลยจ้องแค่ฉัน ไม่นานพี่คนนั้นก็ลุกเดินเข้ามาเดี่ยวๆ มาหยุดลงที่ข้างโต๊ะที่อยู่ระหว่างฉันและก็พี่กวางแน่นอนว่าการกระทำทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของฉันหมด พี่ผู้หญิงคนนั้นใช้มือยื่นลูกอมหัวใจเม็ดเล็กมากลางโต๊ะคราวนี้พี่กวางก็เงยหน้าไปมองพร้อมกับท้าวคางรุ่นพี่คนนั้นแก้มแดง “เพื่อนบอกชื่อกวางเหรอ เราชื่อดานะอยู่ห้องสอง” “อ้อ...” พี่กวางตอบแค่นี้ “ขอไอดีไลน์หน่อยดิกวาง” คราวนี้ชัดเจนเลยว่าพี่ดาเข้ามาจีบพี่กวาง การจีบโต้งๆ แบบนี้เห็นได้น้อยมากถือว่าเป็นการจีบที่เปิดประสบการณ์ฉันมากเป็นพิเศษเพราะพึ่งเห็น “เราอยากคุยด้วย” “อยากรู้จักเราเหรอ” พี่กวางถามขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ “เราลึกลับนะฉะนั้นไอดีเราก็ลึกลับ” “…” “อยากคุยก็หามาให้ได้นะแล้ว... ดาจะได้คุย” สรุปคือยังไงฉันคิ้วขมวดส่วนพี่ดากับอมยิ้มซึ่งมาพร้อมสายตามุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า “โอเค ถือว่าเปิดโอกาสนะกวาง” “ถ้าหามาได้นะครับ” พี่ดาเดินออกไปเหลือเอาไว้แค่ลูกอมหัวใจที่เอาไว้ต่างหน้าเพียงแค่ครู่เดียวก็มีร่างสูงของพี่อีกคนเข้ามานั่งข้างพี่กวางก็โต๊ะที่ฉันบอกว่ามีกระเปาสีแดงกับปากกาวางไว้อ่ะ “มาวันแรกดาฉายานางฟ้าห้องสองก็มาจีบแล้วเหรอวะ” “อ๋อนางฟ้าห้องสอง” พี่กวางหันไปมองพี่ข้ามฟ้าและหันมามองฉัน “มาขอไอดีไลน์” “หึ... เข้าไม่ถูกทาง ตัดเลยว่างั้น” “แล้วแต่มึงจะคิด” “ก็ตามนั้น” พี่ข้ามฟ้าพูดอีกทั้งเคลื่อนสายตามายังฉัน สายตาคู่นั้นสำรวจตัวฉันจนแทบพรุนสุดท้ายก็เหลือเอาไว้แค่รอยยิ้มหวานส่งมาให้ พี่ข้ามฟ้าหนึ่งในสองหนุ่มที่เมื่อวันวาเลนไทน์เมื่อไหร่ได้ดอกกุหลาบมากสุดและเพจหนุ่มหล่อสาวสวยของโรงเรียนแทบลงรูปเป็นประจำทุกวันพอพี่กวางเข้ามาแน่นอนว่าจะต้องถูกเหมาให้มาโผล่หน้าในเพจแน่ๆ คราวนี้ฉันบอกเลยว่าจะต้องเปลี่ยนเป็นสามหนุ่มที่ทุกคนล้วนให้ความสนใจ “เข้าใจแล้ว เข้าใจแจ่มแจ้งเลยเลยสัส” ก๊อกๆ “ใจ...” “คะ” ฉันรู้ว่าตัวเองเหม่อและสติพึ่งกลับมาเมื่อพี่กวางเคาะลงบนโต๊ะเรียก “พี่กวางมีอะไรหรือเปล่า” “ใช้โทรศัพท์มั้ย” “มีค่ะแต่วันนี้ไม่ได้เอามา” โทรศัพท์ที่เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีก่อนจากป้ากวามันราคาแพงอีกอย่างถ้าเกิดเอามาโรงเรียนด้วยจะต้องเกิดเรื่องฉะนั้นเอาไว้ที่ห้องดีกว่า “ใจไม่ค่อยพกโทรศัพท์มาค่ะ” “ฉลาดนิ” “คะ?” “ชมว่าฉลาดแล้วเอาไว้ที่บ้านเหรอ” “ค่ะโทรศัพท์แพงเอาไว้ที่บ้านดีแล้วอีกอย่างใจเอาไว้หาข้อมูลการเรียน” “แล้วได้เล่นแอพอื่นมั้ย” ฉันพยักหน้ายอมรับมีแต่แค่ไลน์ส่วนเฟซกับไอจีกะว่าขึ้นมอสี่ค่อยเล่นดีกว่าไม่สายไปหรอก “มีอะไรบ้างเรายัยเด๋อ” “มีแค่ไลน์ค่ะแต่มีเพื่อนแค่ป้ากวาคนเดียว” “แม่พี่เหรอ” “ค่ะป้ากวาชอบส่งการ์ตูนน่ารักมาให้ทุกครั้งก่อนนอนเลย” ฉันยอมรับกับพี่กวาง “โทรศัพท์ของใจป้ากวาก็ซื้อให้นะคะเป็นของขวัญวันเกิด สวยมากๆ ด้วย” “เข้าใจแล้วครับ” ฉันออกจากห้องเรียนของพี่กวางมาก่อนหน้าที่ออดจะดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าเริ่มเรียนคาบบ่ายแล้วที่พี่กวางถามถึงไลน์ก็ไม่ได้อะไรต่อนะคงถามเฉยๆ เท่านั้นแหละพอเลิกเรียนฉันก็กลับแล้วไปช่วยงานที่บ้านใหญ่เสร็จแล้วก็มาช่วยแม่ทุกอย่างเสร็จจึงเข้ามาอยู่ในห้องของตัวเอง กระทั่งเสียงหนึ่งดังมาจากโทรศัพท์ เสียงนี้เรียกสายตาของฉันให้หันไปมองพร้อมกับสายตาเบิกกว้าง Kwang [kw] Add Friend you
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม