Episode 3

1320 คำ
Episode 3 [Ploysai Talk] “ฉันไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลยอะโมเน่ต์” ฉันเอ่ยขึ้นอย่างเป็นกังวล ตอนนี้ฉันมาผับกับโมเน่ต์ แถมยังนั่งที่นั่ง vip อีกด้วย ดูก็รู้ว่าเธอต้องมาบ่อยแย่ๆ แถมรอบๆข้างๆฉันยังมีผู้ชายนั่งใกล้เต็มไปหมด ก็กลุ่มเพื่อนของโมเน่ต์นั่นแหละ ฮือๆ ฉันนึกว่าจะมากับเธอสองคนซะอีก พอมีผู้ชายอยู่ข้างๆแบบนี้แล้วทำตัวไม่ถูกเลยอะ แถมพวกเขาก็ดูจะเด่นดังมีสาวๆหันมามองกันเต็มเลย “ปกติเธอออกจะเป็นคนสวยเชิดแท้ๆ แต่ทำไมมาที่นี่กลับหมดความมั่นใจซะละ” โมเน่ต์เอ่ยกระซิบฉันอย่างขำๆ ก่อนจะแนะนำตัวฉันให้เพื่อนคนอื่นของเขารู้จัก นี่เป็นการมาผับของฉันครั้งแรก เพราะฉันไม่เคยไปเลยสักครั้งในชีวิต ครั้งนี้ที่ฉันตกลงมาด้วยก็เพราะฉันอยากจะเปิดโลกกว้างให้มากกว่าเดิม แถมกลับบ้านไปก็มีแต่เรื่องน่าเบื่อ... “อ๋อ อย่าบอกนะว่าที่ไม่มั่นใจเพราะมีผู้ชายล้อมรอบแบบนี้ แถมสายตาผู้หญิงคนอื่นยังมองมาอีกใช่มั้ยละ” โมเน่ต์เอ่ยออกมาอย่างรู้ทันฉัน ฉันพยักหน้าหงึกๆเป็นคำตอบ เอาจริงๆมันก็ใช่เลยแหละ ฮือ~ ทำความมั่นใจของฉันแห้งเหือดไปหมดเลย “อืม ฉันไม่เคยมาที่แบบนี้ด้วย ก็เลยรู้สึกอัดอัด” ฉันบอกออกมาก่อนจะหยิบแก้วเหล้าที่โมเน่ต์รินใส่แก้วให้ฉัน ฉันไม่เคยกินเหล้ามาก่อน กินแต่พวกไวน์หรือไม่ก็แชมญเท่านั้น “ลองกินดิ ถึงจะขมหน่อย แต่ถ้ากินบ่อยๆก็หายขมแล้วนะ” โมเน่ต์เอ่ยออกมา ฉันพยักหน้ารับก่อนจะดื่มเหล้านิดหน่อย “นี่เพื่อนเธอเหรอ” เสียงทุ้มต่ำของไนม์เอ่ยดังขึ้น เขาเป็นเพื่อนในกลุ่มของโมเน่ต์ ฉันเคยคุยกับเขาอยู่เล็กน้อยเหมือนกัน ดูเป็นคนที่เข้าถึงยากพอตัวเลยละ เอาเป็นว่าเป็นคนที่มีบุคลิกภาพ ต่างกับคนอื่นๆเลย “ยัยนี่ชื่อ พลอยใส เป็นเพื่อนที่มหาลัยของฉัน ห้ามพวกแกมายุ่งเด็ดขาด เพราะฉันหวง” โมเน่ต์เอ่ยออกมาอย่างขำๆก่อนจะกอดแขนฉัน ฉันได้แต่ส่งยิ้มให้กับพวกเขา “พลอยใสงั้นเหรอ ชื่อน่ารักดีนะ” “ราชันย์ คนนี้ห้ามจีบ!” โมเน่ต์เอ่ยดัก ผู้ชายที่พูดกับฉันเมื่อกี้ชื่อราชันย์สินะ... “ฉันชื่อซีน่อน ยินดีที่ได้รู้จักนะ” ผู้ชายอีกคนเอ่ยทัก เขาหล่อชะมัด... แถมเสื้อผ้ายังเป็นของแบรนเนมราคาแพงหมดทั้งตัวด้วย น่าจะรวยที่สุดในกลุ่มแล้วละมั้ง... “ส่วนฉันชื่อไรเฟิล” เสียงทุ้มเข้มของอีกคนเอ่ยดัง ฉันยิ้มบางให้ ท่าทางเขาดูจะเป็นคนขี้เล่นกวนๆนะ “ฉันชื่อไนท์ เธอคงจำฉันได้สินะ” ไนท์เอ่ยขึ้นมา ฉันพยักหน้าตอบรับ “จำฉันได้ด้วยเหรอ” ฉันถามออกมาแบบสงสัย ไนท์น่าจะเคยพบปะผู้คนมากมาย เขาไม่น่าจะจำฉันได้ “จำได้... เธอเป็นเพื่อนของโมเน่ต์” “อะ...อืม” ฉันตอบรับเขาๆ เขาดูเป็นคนที่น่าสนใจ ลึกลับ ชวนให้ค้นหาดีจัง แถมตาข้างขวาของเขายังมีผ้าปิดตาอีกต่างหาก เหมือนตัวละครในการ์ตูนญี่ปุ่นเลยอะ “ไหนๆก็รู้จักกันแล้ว พลอยใสเพิ่งเคยมาที่นี่ ชนแก้วกัน!” โมเน่ต์เอ่ยออกมาอย่างร่าเริงสุดๆ ก่อนจะยกแก้วชนพร้อมกับคนอื่นๆ ฉันก็เลยต้องทำตามไปด้วย หลายชั่วโมงต่อมา... “โมเน่ต์ แปลกจังเลยนะที่ฉันไม่เมาอะ” ฉันบอกออกมาอย่างสงสัย ฉันดื่มหลายแก้วมาพอควรเลยแหละ แถมไนท์ที่นั่งนิ่งๆอยู่เฉยๆก็หลับไปซะอย่างงั้น ทั้งๆที่ฉันคิดว่าเขาน่าจะคอแข็งที่สุดนะ แต่กลับคออ่อนสุดซะงั้น... “สงสัยเธอกินเหล้าเก่งละมั้ง หรือไม่ก็เธออาจจะกินพวกแชมเปญที่แรงๆบ่อย” โมเน่ต์เอ่ยออกมาอย่างมีสติ เธอก็ยังไม่เมาเหมือนกับฉัน “แต่ไนท์เมาง่ายจังเลยนะ...” ฉันถามออกไป ก่อนจะเหลือบมองเขาเล็กน้อย “หึ หมอนั่นมันแพ้เหล้านะ กินทีไรไปก่อนคนอื่นทุกที เเต่ก็น่ารักดีนะ” โมเน่ต์เอ่ยออกมาอย่างขำๆ นั่นสิ... ท่าทางหลับนิ่งๆแบบนี้ดูดีน่าค้นหาเลยละ “ฉันรู้สึกว่าไนท์เป็นผู้ชายที่แปลกดีนะ” ฉันบอกออกมาตามตรง “ฉันก็ว่างั้น หมอนั่นถึงจะขี้บ่น ปากร้ายยังไงก็นิสัยดีใช้ได้เลยละ แต่ว่าชอบทำตัวลึกลับแปลกๆ” “ฉันชอบนะ น่าค้นหาดี อยากขะรู้จักให้มากกว่านี้จัง...” วันรุ่งขึ้น... “แม่กับพ่อวันนี้ก็ไม่กลับบ้านเหรอ” ฉันเอ่ยถามคุณแม่บ้านคนหนึ่ง เมื่อฉันเดินมาที่ห้องทานข้าว เห็นแต่จานของฉัน ไม่มีจานของพ่อแม่ “ใช่ค่ะ คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายงานยุ่งมากๆ ช่วงนี้อาจจะไม่กลับบ้านค่ะ” แม่บ้านเอ่ยบอกอย่างยิ้มๆ เป็นแบบนี้อีกแล้ง นายแค่ไหนนะที่ฉันไม่เคยเจอพ่อกับแม่เลย แถมยังไม่เคยกินข้าวร่วมโต๊ะกันเลยสักครั้งเดียว ยกเว้นแต่ตอนเด็กๆ ที่พวกท่านยังมีเวลาให้ฉัน “อืม ทำแต่งานนี่น่าเบื่อเนอะ” ฉันเอ่ยคุยกับสาวใช้ “ไม่หรอกค่ะ คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายทำงานเพื่อคุณหนูนะคะ” สาวใช้เอ่ยปลอบใจฉัน ฉันได้แต่ยิ้มบางๆให้ วันนี้ฉันไม่มีเรียน แต่ฉันก็ยังตื่นตามเวลาปกติ เพราะหวังไว้ลึกๆในใจว่าฉันอยากจะเจอหน้าพ่อกับแม่มั่ง... เมื่อวานฉันสนุกกับโมเน่ต์สุดๆเลย แต่มันก็เป็นความสุขแต่ครั้งคราว โรคซึมเศร้าที่ฉันมันเป็นอยู่มันเริ่มเลวร้ายมากขึ้น ตอนนี้อารมณ์ฉันดาวน์ลงสุดๆแบบไร้เหตุผล “ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ” ฉันบอกออกมาอย่างยิ้มๆเมื่อทานข้าวเสร็จ ก่อนจะลุกเดินขึ้นไปบนห้อง แล้วจากนั้นฉันก็ร้องไห้ออกมา... ฉันอดทนไม่ไหวแล้ว... มีพ่อแม่ที่ไหนบ้างแทบจะไม่โผล่มาเห็นลูกตัวเอง วันๆก็อ้างทำแต่งาน ฉันรู้ว่าพ่อแม่ไม่ได้แค่ทำงานอย่างเดียวหรอก... แถมยังส่งข้อความมาบอกว่าห้ามให้ฉันออกนอกลู่นอกทาง ให้เป็นเด็กดี เรียนให้เก่งอย่าให้แพ้ใคร พูดแล้วก็เศร้าชะมัด “ฮึก... ฉันอยากตายๆไปให้มันจบๆจัง” ฉันพึมพำออกมา พร้อมกับร้องไห้ออกมายกใหญ่ วันนี้ยาซึมเศร้าของฉันหมด ฉันต้องไปที่โรงพยาบาล แต่ฉันไม่อยากจะไปเลย ไม่อยากทนกินยาแบบนั้นด้วย แถมสักวันถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าฉันเป็นโรคซึมเศร้าแบบนี้คงจะเกลียดฉันและขายขี้หน้าคนอื่น... ถ้าฉันตายไปฉันก็คงไม่ต้องทุกข์ทรมาณกับชีวิตแบบนี้ เมื่อความคิดแย่ๆของฉันมันรุนแรงมากขึ้น ฉันจึงไม่รีรอที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยวิธีการเอาเชือกผูกกับเพดาน แล้วห้อยตัวลงมา เรียกสั้นๆก็คือผูกคอตายนั่นแหละ.... ฉันอยากจะจบชีวิตที่ไร้ความสุขแบบนี้แล้ว... ก๊อก ๆ ๆ ๆ “คุณหนู” “.......” “คุณหนูค่ะ อยู่ในห้องรึเปล่า มีแขกมาหาค่ะ” “........” ก๊อกๆ ๆ ๆ “คุณหนู” “.......” “คุณหนูค่ะ เงียบแบบนี้ ดิฉันขออนุญาตเข้าไปนะคะ” “กรี๊ดดดดดดด!!!! คุณหนู กำลังทำอะไรอยู่ค่ะ!!!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม