Episode 6
“ตื่นได้แล้วพลอยใส” เสียงทุ้มเข้มของใครบางคนเอ่ยดังขึ้นมา ฉันที่กำลังนอนหลับฝันดีอยู่จึงไม่สนใจเสียงรบกวนนั้น
“พลอยใส!” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยดังอย่างหนักแน่นขึ้นกมากกว่าเดิม ฉันที่เริ่มรู้สึกรำคาญจึงเอามือปิดหูตัวเอง จากนั้นจึงเอาผ้าห่มมาคลุมโปรง
“พลอยใส ตื่น!!!” เสียงดุดันมากขึ้นกว่าเดิม แต่ฉันก็ยังไม่ย่อท้อที่จะหลับต่อ ฉันจึงนอนอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร~ จู่ๆก็มีมือหนาของใครบางคนมาดึงผ้าห่มของฉันออกไป พร้อมกับเขย่าซะตัวฉันแรงจนรู้สึกเจ็บ ทำให้ฉันต้องลืมตาตื่นขึ้นมา
“ทำไมเธอตื่นยากตื่นเย็นชะมัด นี่มันสายแล้วนะ!” ไนท์เอ่ยเสียงเข้มใส่ฉัน ฉันได้แต่ทำหน้างงๆ ตอนนี้เหตุการณ์ตรงหน้าฉันมันเกิดอะไรขึ้น
“อืมมม ฉันง่วง ขอนอนต่อนะ ฝันดี” ฉันบอกออกมาก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ง่วงมากๆเกินกว่าจะรับรู้อะไรแล้ว ว่าแต่ไนท์เข้ามาในห้องฉันได้ไงนะ?
“ถ้าเธอไม่ตื่น ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอนะ” ไนท์เอ่ยบอก ฉันพยักหน้าเบาๆ มือหนาของเขาค่อยๆปลดกระดุมชุดนอนของฉัน
ดะ...เดี๋ยวนะ! นี่มันไม่ใช่ฝันใช่มั้ย
“กรี๊ดดดด! นายจะทำอะไรฉันเนี่ย” ฉันปัดมือไนท์ออกด้วยความตกใจ ฮือ~ นี่มันความจริง ไม่ใช่ฝันนี่นา
“ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอไง เห็นเธอไม่ตื่นสักที” ไนท์เอ่ยบอกพร้อมกับใช้สายตานิ่งๆของตัวเองจ้องมองฉัน
“ฉะ...ฉันเปลี่ยนได้น่า ไม่ต้องมายุ่งเลย!” ฉันบอกออกมาก่อนจะพยายามผลักไนท์ให้ออไปจากห้อง เขาเข้ามาในห้องของฉันได้ไง ทั้งๆที่ล็อคเอาไว้แล้วเชียว!
“งั้นฉันลงไปรอข้างล่างนะ รีบๆอาบน้ำด้วยละ” ไนท์บอกออกมาก่อนจะยอมลงไปข้างล่างอย่างว่าง่าย
มีเขามาอยู่บ้านด้วยแบบนี้ไม่ปลอดภัยเลย แล้วเขารู้ได้ไงเนี่ยว่าวันนี้ฉันมีเรียนตอนเช้า...
“รับๆกินให้หมดสักทีดิ จะมัวนั่งเหม่ออยู่ทำไม” เสียงทุ้มเข้มของไนท์เอ่ยบ่นฉันขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ฉันกำลังนั่งเหม่อลอยคิดนู่นนี่นั่นตอนกำลังทานข้าว
“ก็ฉันไม่ค่อยหิว” ฉันบอกออกมาตามตรงก่อนจะวางช้อนข้าวต้มอย่างแรง แถมยังเผลอเอาแขนปัดแก้วน้ำหล่นจากโต๊ะอีก เอ้ย... คราวนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ
“เธอเลิกทำของเสียหายแบบนี้สักทีได้มั้ยเนี่ย” ไนท์เอ่ยบ่นฉันอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเก็บแก้วที่ฉันทำตก ทั้งๆที่ใช้แม่บ้านให้เก็บให้ก็ได้ แต่เขากลับเก็บเอง
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ แขนมันไปโดน”
“โอ๊ย! ฉิบ! แก้วบาด” ไนท์บอกออกมาพร้อมกับมองนิ้วมือของตัวเองที่โดนแก้วบาด แถมเลือดกำลังไหลออกมาด้วย
“นะ...นี่ เธอทำอะไรของเธอนะ!” ดวงตาคมเข้มของไนท์เบิกกว้าง เมื่อจู่ๆฉันก็เอานิ้วเขาไปอมเพื่อห้ามเลือด
“กะ...ก็ฉันเคยอ่านมาว่าถ้าเลือดออกต้องห้ามเลือด” ฉันบอกออกมาตามตรง เผลอลืมคิดไปเลยว่าเขาเป็นผู้ชาย ฉันไม่ควรจะทำแบบนี้
“คุณหนูกำลังเป็นห่วงฉันสินะ” ไนท์กระซิบที่ข้างหูของฉันเบาๆ มันทำให้ฉันหน้าแดงมากขึ้นกว่าเดิม
“ปะ...เปล่าสักหน่อย นายไม่ต้องเก็บแล้ว เดี๋ยวฉันใช้แม่บ้านเอง ไปทำแผลเถอะ!” ฉันบอกออกมาก่อนจะเรียกแม่บ้านให้มาทำความสะอาด ส่วนไนท์ฉันก็พาเขาไปล้างแผลแล้วแปะพลาสเตอร์ยาให้
“คุณหนูใจดีกว่าที่คิดนะ นึกว่าจะเป็นพวกเอาแต่ใจ” ไนท์เอ่ยขึ้นมาก่อนจะกระตุกยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ตอนนี้ฉันกำลังนั่งรถกับเขามาโรงเรียน เขาบอกว่าไม่ต้องให้คนขับรถมาส่งฉันอีกแล้ว เขาจะส่งฉันไปเรียนมหาลัยเองทุกวัน
“เลิกเรียกฉันว่าคุณหนูสักทีได้มั้ย มันน่าหงุดหงิด ” ฉันบอกออกมาตามตรง คำก็คุณหนูสองคำก็คุณหนู น่ารำคาญชะมัด!
“ครับๆพลอยใส แล้วเธอเริ่มอยากจะแต่งงานกับฉันมาบ้างรึยัง?” ไนท์เอ่ยถามฉัน เขาดูจะลุ้นกับคำตอบน่าดู
“ไม่ ยังไงฉันก็ไม่อยากแต่งงานกับนาย ขืนฉันแต่งกับนายนะชีวิตคงจะไร้อิสระ ทำอะไรก็โดนนายขัดตลอดแน่ๆ แถมนายยังขี้บ่นอีก” ฉันบอกออกมาถึงข้อเสียของเขา ใช่! ไนท์ขี้บ่นสุดๆ บ่นทั้งเช้าทั้งเย็น ผู้ชายอะไรขี้บ่นขนาดนี้ แค่ฉันทำตัวไม่ดีนิดหน่อยเอง
“ฮ่าๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ” ไนท์หัวเราะขึ้นมาทันที มันไม่ใช่เรื่องน่าจำเลยนะ
“ฉันถามจริงๆเถอะ ที่นายอยากแต่งงานกับฉันก็เพราะเงินใช่มั้ย” ฉันถามออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผู้ชายหน้าไหนที่เข้ามาในชีวิตของฉัน ทุกคนล้วนหวังในเงินทองกันทั้งนั้น
“เปล่า ก็บอกแล้วไงว่าฉันชอบเธอจริงๆ ฉันไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นหรอกนะ” ไนท์บอกออกมาอย่างยิ้มๆ ก่อนจะใช้มือหนาข้างที่ว่างอยู่ลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา
“ยังไงฉันก็ไม่เชื่ออยู่ดี” ฉันบอกออกมา ชีวิตของฉันเชื่อใจใครไม่ได้ทั้งนั้น...
“งั้นฉันจะพิสูจน์ให้เธอเห็นเองว่าฉันรักเธอจริงๆ ตั้งใจเรียนละ เดี๋ยวตอนเย็นฉันมารับ” ไนท์เอ่ยบอกฉันก่อนจะหอมแก้มฉันฟอดใหญ่ ทำให้ฉันถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
“บะ...บ้าที่สุด!” ฉนว่าเขาก่อนจะรีบกระโดดลงจากรถทันที ฮือ! ฉันเพิ่งเคยโดนผู้ชายหอมแก้มแบบนี้ครั้งเลย ใจเต้นตึกตักไปหมดเลย
[Knight Talk]
หลังจากที่ผมไปส่งยัยคุณหนูตัวแสบเรียนที่มหาลัยเรียบร้อย ผมก็ขับรถมุ่งตรงไปอย่างสตูดิโอที่วันนี้ผมต้องไปทำงาน
เฮ้อ... เมื่อเช้าซวยเป็นบ้า เพราะผมไปเก็บแก้วที่ยันคุณหนูตัวร้ายทำตก นิ้วของผมเลยโดนเศษแก้วบาด แถมยังเป็นข้างที่ผมต้องใช้จับสายกีตาร์ด้วย โคตรซวยชะมัด
“ไนท์ นายมาสายนะ” เสียงทุ้มเข้มของเพื่อนผมเอ่ยดังขึ้น ไรเฟิล ได้ทีก็บ่นผมใหญ่เลย
“ไปทำธุระมานิดหน่อย” ผมเอ่ยออกมาตามตรง ผมยังไม่บอกเรื่องที่ผมต้องแต่งงานกับยัยคุณหนูให้ใครฟังทั้งนั้น เพราะผมคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ค่อยน่าให้คนอื่นฟังเท่าไหร่...
ชีวิตนี้ผมเคยคบผู้หญิงมาอยู่มากเหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่าผมไม่คบหากับใครเลย แต่แค่ผมไม่เคยพาผู้หญิงที่ผมคบด้วยสักคนมาเปิดตัว ส่วนมากผมจะคบไว้เงียบๆ
แต่ผมว่าสักวันผมคงจะต้องบอกทุกๆคนแหละว่าผมต้องแต่งงานกับคุณหนูพลอยใส
และเธอนั้นช่างเป็นเด็กที่นิสัยไม่ดีเอาซะเลย เอาแต่ใจเป็นบ้า แถมยังชอบทำลายข้าวของอีกต่างหาก คนแบบนี้ผมรู้สึกเกลียดที่สุด...
“เริ่มซ้อมกันเถอะ พวกเราต้องขึ้นแสดงสัปดาห์หน้าแล้วนะ” ผมเอ่ยบอกทุกๆคน วันนี้ที่มีมาซ้อมดนตรีด้วยกันก็มีซีน่อน ราชันย์ ไรเฟิล ผม ยกเว้นโมเน่ต์ เพราะเธอมีเรียน
หลายชั่วโมงต่อมา...
ไม่นานนักผมกับเพื่อนๆก็ซ้อมดนตรีกันเสร็จเรียบร้อย ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะกดโทรหาพลอยใสว่าเลิกเรียนรึยัง เพราะตอนนี้มันก็เริ่มจะเย็นแล้ว
ผมถือสายรอมานานเเสนนาน แต่เธอก็ไม่ยอมรับสักที จนทำให้ผมเริ่มรู้สึกโมโห ผมเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่ะว่าให้เธอรับโทรศัพท์ผมทุกครั้งถ้าผมโทรหา
ช่างเป็นคุณหนูที่ไม่เคยรับฟังคำพูดของใครเลย สมแล้วที่พ่อแม่ของเธอจะไม่รักเธอนะ... ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ไง...
“เธอหายไปไหนว่ะเนี่ย!” ผมสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อขับรถไปมหาลัยก็ไม่เจอเธอเลย หรือว่าเธอกลับบ้านไปแล้วว่ะ
ถ้าเธอขัดขำสั่งผมแบบนี้ผมว่าต้องคิดการลงโทษไว้ซะแล้ว! เป็นเด็กที่ดื้อชะมัด
เมื่อผมหาเธอไม่พบที่มหาลัยผมจึงตัดสินใจขับรถกลับบ้าน คิดว่าเธออาจจะกลับไปแล้วก็ได้อสุดท้ายก็เหมือนที่ผมคิด เธอกลับมาแล้วจริงๆ แถมเธอยังนั่งห้อยขาอยู่ที่ระเบียงห้องของตัวเองอีก
เธอเป็นบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย!! ผมไม่เข้าใจเธอเลยว่าทำไมดธอถึงต้องอยากตายขนาดนี้ ทั้งๆที่ชีวิตเธอมันดีจน.ะคนอื่นพากันอิจฉา ผมไม่เข้าใจจริงๆ... ชีวิตผมมันทุกข์ทรมาณกว่าเธอตั้งเยอะ
แถมถ้าเกิดเธอตายขึ้นมาคงจะทำให้ทุกๆคนเดือดร้อนแน่ๆ!
“พลอยใส เธอทำบ้าอะไรอยู่ว่ะ!!!” ผมตะโกนถามเธอที่ตอนนี้กำลังนั่งเหม่อมองไปทางอื่น และเหมือนเธอก็ไม่ฟังผม ทำให้ผมต้องรีบเข้าไปในบ้าน และเข้าไปในห้องของเธอ
“เธอคิดจะทำอะไรนะพลอยใส!” ผมตะโกนดังลั่น ทำให้เธอหันมามองผมเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ฉันอยากตาย....” พลอยใสเอ่ยออกมา สีหน้าของเธอดูจะเศร้าเสียใจน่าดู
“เธอห้ามกระโดดลงจากระเบียงเด็ดขาดนะ!” ผมบอกออกมาขณะที่พลอยใสทำท่าจะกระโดดลงไป
“ฉันอยากตาย ฉันไม่อยากอยู่แล้ว พ่อแม่ไม่เคยรักฉันเลยสักนิด”
“เธอคิดเหรอว่าถ้าตายไปพ่อแม่เธอจะมีความสุขนะ!”
“ใช่!!! ถ้าฉันตายไปทุกๆคนคงมีความสุขมากกว่านี้!!!”
“หึ.... ถ้าเธอคิดงั้นละก็....”
“..........”
“คนอย่างเธอตายๆไปซะก็ดี พวกอ่อนแออย่างเธออยู่ในโลกที่โหดร้ายไม่ได้หรอก” ผมตัดสินใจพูดคำคำนี้ออกไป ในเมื่อเธอเอาแต่พล่ำคำแบบนั้นออกมา ผมก็ไม่อาจจะห้ามเธอได้...
“คนไร้ค่าแบบนายก็ไม่สมควรมีชีวิตอยู่เหมือนกัน” พลอยใสเอ่ยออกมาอย่างโกรธๆ เธอคงจะโกรธที่ผมพูดออกไปแบบนั้นสินะ
“งั้นเรามาตายด้วยกันไหมละ?”