ตอนที่ 1
ค-ลั่-ง-รั-ก
เมียเด็ก(ลีลาเด็ด)
ผู้เขียน กาสะลอง
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ
หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว*
ค-ลั่-ง-รั-ก เมียเด็ก
มกราคม พุทธศักราช 2565
จังหวัดเชียงใหม่
งานจัดเลี้ยงเล็กๆ ในตอนค่ำ ได้ถูกจัดขึ้นภายในไร่กาแฟแห่งหนึ่งในอำเภอแม่ริม
ภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีผูกข้อมือแบบเรียบง่ายระหว่าง ‘เดชา’ หนุ่มใหญ่วัยสามสิบเก้าหรือที่ทุกคนในไร่พากันขนานนามเขาว่า ‘พ่อเลี้ยงเดช’ กับเจ้าสาววัยยี่สิบปีมีนามว่า ทัดดาว’ ซึ่งเป็นลูกสาวของป้าพรที่เป็นคนงานเก่าแก่ ทำงานอยู่ในไร่ของพ่อเลี้ยงเดชมานานกว่าสิบปี
“คืนนี้อย่าดื่มมากนะครับเฮีย… เดี๋ยวจะเมาจนไม่มีแรงเข้าหอ… อิอิ… ”
‘ดินน์’ ชายหนุ่มวัยสามสิบปีซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาของพ่อเลี้ยงเดช เอ่ยแซวพี่ชายด้วยสรรพนามสนิทสนมคุ้นปากที่เรียกว่า ‘เฮีย’ จนติดปาก
คำพูดของดินน์เรียกเสียงฮาดังลั่นไปทั้งโต๊ะซึ่งรายล้อมไปด้วยบรรดาเพื่อนสนิทที่มาร่วมงาน
ในอดีตที่ผ่านมามารดาของพ่อเลี้ยงเดชได้สามีคนแรกเป็นฝรั่งชาวอิตาเลี่ยน ทั้งสองมีลูกด้วยกันหนึ่งคนคือพ่อเลี้ยงเดช
จากนั้นแม่ของพ่อเลี้ยงเดชก็เลิกรากับสามีเก่าแล้วมาแต่งงานใหม่กับชายชาวอเมริกันจนมีลูกชายอีกคนก็คือ ‘ดินน์’
ทุกวันนี้ดินน์ทำไร่องุ่นอยู่ใกล้ๆ กับไร่กาแฟของพ่อเลี้ยงเดช
“เออน่ะ… กูคอแข็งโว้ยไอ้ดินน์… กูดื่มไปได้ไม่กี่แก้ว กูไม่เมาหลับหรอกน่ะมึงไม่ต้องห่วง… ”
พ่อเลี้ยงเดชตอบน้องชาย…
เรียกเสียงฮาลั่นดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เพื่อนๆ ของพ่อเลี้ยงอีกห้าหกคนที่นั่งล้อมอยู่รอบโต๊ะตัวใหญ่จะยกแก้วเหล้าขึ้นชน ดื่มให้กับเจ้าบ่าวที่กำลังจะได้เข้าหอกับเจ้าสาวในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
และในเวลาเดียวกันนั้นเอง ที่เรือนหลังเล็กของป้าพร
“แม่… เกิดเรื่องใหญ่แล้ว… ”
‘ดอกแก้ว’ น้องสาวของ ‘ทัดดาว’ เจ้าสาวที่เพิ่งหนีไป รีบเข้ามาบอกเรื่องสำคัญกับป้าพรผู้เป็นแม่เลี้ยง
ดอกแก้วเป็นลูกที่ติดมากับ ‘ลุงแผน’ ส่วนทัดดาวนั้นเป็นลูกติดมากับป้าพรที่มาแต่งงานใหม่กับลุงแผน
“อะไรของเอ็งวะนังแก้ว… วิ่งหน้าตื่นมาเชียว”
ป้าพรที่กำลังนั่งนับเงินสินสอดของพ่อเลี้ยงเดชด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้า ตวัดสายตาขวับมาทางต้นเสียง พรวดพราดเข้ามาทำเอาตกใจ
ดอกแก้วเห็นว่าตอนนั้นลุงแผนผู้เป็นบิดายังนั่งสูบยาเส้นอยู่ไม่ไกล หล่อนจึงค่อยๆ ขยับเข้ามากระซิบกระซาบข้างหูป้าพรผู้เป็นแม่เลี้ยง
“ห๊ะ… ฉิบหายแล้ว… ”
ป้าพรเผลออุทานออกมาด้วยความตกใจ…
หล่อนยกมือขึ้นทาบอก ก่อนจะรีบจูงมือดอกแก้วพาหลบออกมาที่หลังบ้านเพื่อจะได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัว
“นี่เรื่องจริงใช่ไหมนังแก้ว… ”
ป้าพรถามย้ำ
“จริงจ้ะป้า… ”
ดอกแก้วยืนยัน
“เวร… ฉิบหายแล้ว… ”
ป้าพรสบถออกมาอย่างหัวเสีย…
ใบหน้าซีดเผือด คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในวันแต่งงานของพ่อเลี้ยงเจ้าของไร่กับลูกสาวของหล่อนที่โชคดีราวกับหนูตกถังข้าวสาร
แต่ทัดดาวกลับทำเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด ทิ้งตำแหน่ง ‘ภรรยา’ ของพ่อเลี้ยงเจ้าของไร่กาแฟไปอย่างน่าเสียดาย
ในเวลาต่อมา
เกือบห้าทุ่ม…
หลังจากแขกเหรื่อซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นเพื่อนสนิทของพ่อเลี้ยงเดช พากันกลับไปหมดแล้ว
พ่อเลี้ยงเดินเข้ามาในบ้าน…
ร่างสูงใหญ่ตรงเข้าไปในห้องนอนที่อยู่ชั้นล่าง คว้าผ้าขาวม้าออกมาอาบน้ำที่ห้องน้ำในสวนหลังบ้านอย่างที่เคยทำอยู่เป็นประจำ
ใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน…
ภายหลังเสร็จจากอาบน้ำ พ่อเลี้ยงเดชเดินตรงไปยังเรือนอีกหลังซึ่งเป็นเรือนเก่า สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง กว้างขวางสมกับเป็นเรือนที่พ่อเลี้ยงเดชสั่งให้ช่างเข้ามาตกแต่งจนกลายเป็นห้องหอ หลังจากตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะมีครอบครัวเสียที
“ทำไมไฟไม่ติด… ”
เมื่อขึ้นมาถึงห้องนอน หลังจากเอื้อมมือไปกดสวิทช์ไปข้างฝาผนัง พ่อเลี้ยงเอ่ยถามเจ้าสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
“ไฟเสียค่ะ… ”
เสียงตอบดังมาจากคนที่อยู่บนเตียง
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะให้คนงานมาเปลี่ยน… ”
พ่อเลี้ยงกล่าว…
นึกในใจว่าก็ดีเหมือนกัน ปิดไฟเมคเลิฟกันน่าจะทำให้เจ้าสาวของเขาไม่เขินอายที่จะมีอะไรกันเป็นครั้งแรก
“นอนรอฉันอยู่ใช่ไหม… ”
พ่อเลี้ยงถามเสียงหวาน พร้อมกับเดินเข้ามานั่งลงที่ขอบเตียง ค่อยๆ เอื้อมมือเข้ามาลูบขาของเจ้าสาว หล่อนตกใจจึงรีบชักเท้าหนีด้วยความกลัว
“โถ… นี่ขนาดมีแค่แสงสลัวๆ เธอยังอาย ไม่ต้องตื่นเต้นนะ เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอมีความสุข… ”
พ่อเลี้ยงจ้องมองเจ้าสาว เรือนร่างของหล่อนช่างดูเย้ายวนสะดุดตา แม้ภายในห้องนอนจะไม่มีแสงไฟ แต่แสงจันทร์ในคืนข้างขึ้นที่สาดลอดริ้วม่านเข้ามาทางหน้าต่างใกล้กับหัวเตียง ก็พอจะทำให้มองเห็นเรือนร่างของหญิงสาวที่ดูงดงามแม้ในความสลัว
มองแล้วอดใจไม่ไหว…
พ่อเลี้ยงค่อยๆ ขยับขึ้นมาทาบทับร่างเล็กที่นอนใจเต้นรัว แทรกลำตัวเข้ามาระหว่างง่ามขา
“อื้อออ… ”
หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจ โล่งใจที่เขาจำเสียงของหล่อนไม่ได้
คงเป็นเพราะว่าพ่อเลี้ยงอยู่ในอาการเมาไม่น้อย ยืนยันด้วยกลิ่นสุราจากลมหายใจร้อนผ่าวตอนที่เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน
“ร้องทำไม… ไม่ต้องกลัวนะ… ”
พ่อเลี้ยงถามเบาๆ
“ตัวหนัก… ”