ตอนที่ 6...

1524 คำ
ท่ามกลางความเศร้ากับความอาลัยที่ต้องจากที่อยู่ที่นอนที่เคยพักพิงมาหลายปี ก็มีความยินดีปนอยู่ด้วย เงินก้อนใหญ่ที่มาหยามอบให้ไปตั้งตัว พวกเขาหาทั้งชีวิตก็ไม่มีทางครอบครองได้เลย “คุณหยากับนมจะไปอยู่ที่ไหนกันคะ?” คนงานคนหนึ่งถามด้วยความเป็นห่วง มาหยาส่ายหน้าเธอยังไม่ทันคิดเรื่องนั้น แค่วิ่งเต้นจัดการเรื่องการขายบ้าน เวลาของเธอก็หมดแล้ว “ถ้าไม่รังเกียจ ไปอยู่ด้วยกันมั้ยคะ ที่ทางแถวนั้นราคาไม่แรงนัก คุณหยาน่าจะเหลือเงินไม่น้อย ลองไปพักรักษาใจที่นั่นสักพักดีไหมคะ ถ้าไม่ไหวค่อยหาลู่ทางใหม่ทีหลัง” ข้อเสนอนั่นตรงใจมาหยาไม่น้อย การซ่อนตัวสักระยะ ที่ซ่อนก็สำคัญ เพราะหากทำตามคำแนะนำของผิน การควานหาตัวเธอคงไม่ใช่เรื่องยาก หากตะวันจะสืบถามจากคนที่รู้จักคุ้นเคยดี “ดีค่ะ หยาสนใจ” “คุณหยา” ผินพยายามท้วงไว้ “ลองสักตั้งนะคะนม บ้านนอกอากาศดี น่าจะดีกับสุขภาพของนมกับหยาด้วยค่ะ” มาหยาตัดสินใจแล้ว พื้นที่ห่างไกล นอกเหนือความคาดหมายน่าจะซ่อนตัวได้พักใหญ่ กว่าตะวันจะควานหาเธอเจอคงต้องใช้เวลามากโข การเปลี่ยนที่นอนเป็นไปอย่างเงียบๆ ใช้เวลาไม่ถึงสามวันหลังเซ็นต์สัญญาซื้อขาย มาหยามีเงินในบัญชีมากจนน่าตกใจ เธอกันเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้เวลาฉุกเฉิน ส่วนที่เหลือเปิดบัญชีเงินฝากประจำไว้ให้ใครบางคนที่น่าจะลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่เดือน คืนแรกที่มาหยากับนมผินต้องนอนใต้ชายคาบ้านไม้เก่าๆ ของคนงาน แป้นคือตัวตั้งตัวตี คนเสนอแผนใหม่ให้มาหยา บ้านของเธอไม่ได้กว้างพอให้คนมากกว่าห้าชีวิตเบียดเสียดยัดเยียดซุกตัวนอนได้ ดังนั้นย่อมมีคนเสียสละ และมาหยาก็เตรียมพร้อมไว้แล้ว เต็นท์สนาม ที่พักยามฉุกเฉินถูกงัดมาใช้ คืนนั้นกว่าจะหลับตาได้ มาหยานอนดูดาวจนอิ่มใจทั้งคืน ในเมืองกรุงยากนักที่จะมองเห็นดาวได้ชัดแบบนี้ มลภาวะทางอากาศปิดกันสายตาของคนที่อาศัยอยู่ใต้ฟ้านั้น ฝุ่นจำนวนมากบดบังทัศนวิสัย การดูดาวเลยไม่ค่อยเป็นที่นิยม รวมทั้งเวลาที่มีจำกัดด้วย เศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ การหาเงินยากขึ้นเรื่อยๆ คนกรุงที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงบนท้องถนน เลยไม่ใคร่มีใครอารมณ์สุนทรีย์ ถึงขนาดเงยหน้ามองท้องฟ้าตอนที่ว่างได้ งานที่หนัก พรากพลังในร่างกายไปเกือบหมด พอมีเวลาว่าง เขาเลยอยากพักมากกว่า ทำเรื่องไร้สาระแบบการนอนดูดาว “นม ที่นี่น่าอยู่นะคะ” มาหยาพึมพำถามนมผินที่นอนคุดคู้อยู่ใกล้ๆ ที่หลับที่นอนคับแคบ นมผินจึงไม่ใคร่สบายตัวนัก แต่เพราะความอ่อนเพลียเลยหลับสนิท ทันทีที่ศีรษะถึงหมอน แสงไฟจากดวงดาวคือแสงสว่างชนิดเดียวที่หลงเหลืออยู่ รอบตัวมาหยามีแต่ความมืด แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เธอกลัวเลย เสียงแมลงกลางคืนขยับปีก กล่อมเธอจนกระทั่งหลับสนิท และเธอตื่นตอนเช้าด้วยเสียงปลุกของสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นไก่ นก หรือแม้กระทั่งควายในคอก “นอนหลับสบายดีจังเลยค่ะคุณหยา แม้จะเมื่อยไปสักหน่อย” ผินบ่นพึมพำ คลานต้วมเตี้ยมออกมาจากเต็นท์ที่อาศัยซุกตัวนอนทั้งคืน “ป้าตื่นแล้ว หิวมั้ยคะ?” แป้นที่ตื่นแต่เช้านั่งยิ้มแผล่อยู่บนเก้าอี้ไม้ ข้างกองไฟที่เหลือแค่กองขี้เถ้า มีถ่านสีแดงๆ เล็กน้อย “ยังไม่ทันล้างขี้ฟันก็จะกินแล้วเหรอนังแป้น” ผินตวาดกลับ ค้อนปะหลับปะเหลือก “แป้นกลัวคุณหยาหิว เลยเอาข้าวจี่มาให้ค่ะ” ผินเหลือบมองตะแกงเหล็กสีดำๆ ที่ตั้งบนขาหย่างเหนือเตาไฟ “เรื่องที่คุยฟุ้งไว้ก่อนมา ได้เรื่องว่าไงบ้างละ” ผินถามเป็นงานเป็นการ ถึงเต็นท์นั่นจะพอให้ซุกตัวนอนได้ แต่นางก็ไม่อยากให้มาหยาอยู่แบบขัดสนนานนัก มันอาจจะกระเทือนสุขภาพของใครสักคนที่ซุกตัวอยู่ในอุทรของมาหยาอีกที “แป้นถามพ่อแล้วค่ะ มีคนมาบอกขายที่ไว้กับพ่อ อยู่ไม่ไกลบ้านแป้นเท่าไหร่ พอสว่างดีแล้วแป้นจะพาป้ากับคุณหยาไปดู” “เจ้าของเก่ายังอยู่มั้ยแป้น” มาหยาถามต่อ “ยายแกย้ายตามลูกชายไปอยู่ในเมืองแล้วค่ะคุณหยา สภาพบ้านเท่าที่แป้นจำได้ไม่เลวเลยนะคะ” “คนหนุ่มคนสาวย้ายไปอยู่ในเมือง ตามชนบทเลยเหลือแค่เด็กกับคนแก่ น่าเสียดายเนอะ” ผินพึมพำ วิถีการดำรงชีวิตเปลี่ยนไป เพราะต้องอิงกับที่ทำงาน ดังนั้นหลังเรียนจบ หางานทำได้ ไม่มีใครอยากใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนรถยนต์ เลยย้ายตัวเองไปอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงาน บ้านหลังเก่าเลยค่อยๆ หายไปจากความทรงจำ คนเฒ่าคนแก่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพราะความจำเป็นล้วนๆ “ใช่ค่ะป้า แป้นเอง หากคุณหยาไม่ให้เงินก้อนนั้นมา แป้นก็คงต้องบากหน้าหางานทำในเมืองไปทั้งชีวิตนั่นแหละค่ะ หากกลับมาอยู่ที่บ้านก็ไม่มีรายได้นี่คะ น้องแป้นยังต้องเรียนอีกหลายปี แป้นคงอยู่สบายแบบนี้ได้อีกหลายเดือน หากเงินหมดเมื่อไหร่ แป้นก็คงต้องเข้าเมืองไปหางานทำอยู่ดี” แป้นบ่นพึมพำ ไม่ได้ต่อว่าโชคชะตาที่เกิดมาไม่พร้อม เธอแค่อยากระบายความในใจออกมาบ้างแค่นั้นเอง “แถวนี้ไม่มีโรงงานเหรอแป้น?” มาหยาถาม “ไม่มีหรอกค่ะ มันไกล ถนนก็ไม่ค่อยดีด้วยค่ะ” “คนแถวนี้เขาทำงานอะไรกันละ” “หากไม่ทำนา ก็ทำสวน แต่อย่างที่รู้นั่นแหละค่ะคุณหยา ชาวบ้านแบบเราไม่มีเงินก้อนหรอก ต้องกู้ธนาคาร หรือไม่ก็เซ็นค่าปุ๋ย ค่ายากับเถ้าแก่ พอเก็บเกี่ยวได้ก็ต้องรีบเอาไปใช้คืน ไม่อย่างนั้นโดนค่าดอกเบี้ยอานเลยค่ะ” “อืม ไว้หยาจะหาทางช่วยนะ แป้นจะได้ไม่ต้องอยู่ห่างครอบครัวยังไงหยาก็กลายเป็นสมาชิกของคนในหมู่บ้านนี้แล้วนี่” “จริงนะคะคุณหยา” แป้นถามเสียงสั่น การอยู่ห่างบ้านคือความทุกข์แสนสาหัส ต้องจากบ้านไปหากินไกลๆ ห่างอ้อมอกที่แข็งแรงและคอยปกป้อง ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงเพราะรอบตัวเต็มไปด้วยอันตราย หากพลาดท่าขึ้นมา คนทางบ้านที่ตั้งตารอก็เสียใจมากกว่า “ไปล้างหน้าแปรงฟันเถอะค่ะคุณหยา อย่าไปฟังนังแป้นมันโม้ให้มากเลยค่ะ” นมผินพูดขัดจังหวะ เมื่อพระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า ทิวทัศน์เบื้องหน้าสวยจนแทบหยุดหายใจ ทุ่งนาสีเขียวขจีไกลสุดลูกหูลูกตา สายลมเย็นพัดโชยใส่หน้า หอบความสดชื่นมากมายจากทั่วทุกพื้นที่ หากไม่มีความเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย คงไม่มีคนคนไหนอยากจากบ้านเกิดตัวเองไปหรอก “คุณหยาหิวมั้ยคะ เดี๋ยวแป้นไปยกสำหรับมาให้ แม่แป้นลุกนึ่งข้าวตั้งแต่เช้ามืดแล้วค่ะ” แป้นกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน เดินฝ่าไอหมอกยามเช้าไป ผินโครงศีรษะ บ่นตามหลัง “ไม่น่าเชื่อนะคะคุณหยา เด็กเงียบๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจาอย่างนังแป้น จะพูดมากได้ขนาดนี้” มาหยายิ้มตาม คงเพราะสบายใจแป้นเลยปล่อยตัวตามธรรมชาติ เธอได้กลับมาอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ต้องหวาดกลัวอะไรอีก พ่อกับแม่แป้นเดินตามบุตรสาวมาห่างๆ ทั้งสองคนแบกอุปกรณ์ยังชีพ มีจอบเสียมและตะข้องที่ห้อยต่องแต่งอยู่ที่ปลายเสียมด้านหนึ่ง “พ่อกับแม่จะออกไปหาปลาค่ะ แถวนี้ไม่มีร้านค้า เนื้อสัตว์ที่พอหาได้คือปลาในแม่น้ำค่ะ คุณหยาทนไหวแน่นะคะ” มาหยายิ้มให้ “หยาไม่ได้เกิดมาบนกองทองหรอกนะแป้น ก่อนจะมาอยู่กับคุณท่าน หยาก็ลำบากเหมือนกัน” ตอนที่ 7. ความรู้สึกตกใจคือความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้น หลังแวะมาที่บ้านเก่า หลังย้ายออกไปหลายเดือนแล้ว สภาพบ้านเปลี่ยนไปทั้งหมด เหมือนมาหยารีโนเวทบ้านใหม่ทั้งหลัง แต่เมื่อนึกดีๆ มาหยาจะเอาเงินจำนวนไม่น้อยนั่นมาจากไหน เธอไม่ได้ทำงานเป็นหลักแหล่ง งานประจำของเธอคือการดูแลมารดาของเขา แบบยี่สิบสี่ชั่วโมง แม่ไม่ได้ยกอะไรให้มาหยาเป็นชิ้นเป็นอัน คงเพราะสบายใจที่มาหยาอยู่ในความดูแลของเขา ดังนั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่มาหยาจะมีเงินก้อนใหญ่นั่น “มาหาใครคะคุณ!!” นี่เป็นอีกอย่างที่ตะวันรู้สึกตระหนก คนแปลกหน้าตรงหน้า เขาไม่คุ้นเลยสักนิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม