“หมายถึงให้ผมไปมีอะไรกับเธอ?” โจเซฟถามอย่างรู้สึกตกใจ
“ไม่ทราบคุณมีแฟนหรือคนรักหรือยัง?”
“ยังครับ” คนโสดรีบตอบอย่างไว
“แล้วผู้หญิงที่คุณฝันถึง เธอมีตัวตนในชีวิตจริงหรือเปล่าครับ”
“มีครับ เธอเข้าหาและอ่อยผมสารพัดเลย”
“แล้วคุณชอบเธอไหม?”
“คิดว่าชอบครับ แต่ก็คิดว่าเธอจะมีคนที่...เอ่อ...คบหาอยู่แล้ว ก็เลยหลีกเลี่ยงที่จะสานความสัมพันธ์ต่อ เพราะไม่อยากจะมีปัญหาตามมาทีหลัง”
“สรุปคือ...คุณคิดเอาเองว่าเธอน่าจะมีคนรักอยู่ ก็เลยไม่ตอบสนองความสัมพันธ์ ทั้งที่ในใจลึกๆ แล้วก็โคตรจะชอบเธอ” นายแพทย์ใหญ่เอ่ยสรุปความรู้สึกของหนุ่มคนดังอย่างตรงไปตรงมา
“คะ...ครับ” โจเซฟขานรับอย่างรู้สึกชาที่หน้านิดๆ ที่ต้องยอมรับความจริงว่าโคตรจะชอบดาริน
“ผมแนะนำให้คุณตามเช็คให้แน่ใจว่าสาวคนนั้นมีแฟนแล้วหรือยัง เอาให้สิ้นข้อสงสัยครับ”
“แล้วไงต่อครับ?”
“ก็ถ้าเธอเป็นโสดเหมือนกับคุณ นั่นก็เป็นเรื่องในอนาคตที่คุณจะต้องกำหนดเองว่าจะเกาตรงส่วนที่คัน หรือจะปล่อยให้เธอมีตัวตนอยู่แต่ในความฝันต่อไป แต่ถ้า...เธอมีแฟนหรือคนที่คบหาซ่อนอยู่จริง และคุณคิดว่าหากคุณสานความสัมพันธ์ต่อ อาจจะมีปัญหาใหญ่ตามมาในอนาคตอย่างแน่นนอน ผมแนะนำให้คุณลองมองหาสาวคนใหม่ แล้วออกเดตกับเธอดู”
“แล้วถ้าผมไม่ได้ชอบสาวคนใหม่ล่ะครับ?”
“งั้นก็คงต้องรอให้สาวคนที่คุณฝันถึงเลิกรากับคนรักก่อนครับ จากนั้นค่อยสานความพันธ์ต่อ”
“เฮ้อ...ถ้าเธอเป็นหมูกระทะก็คงจะดีนะครับ ผมจะนั่งกินทั้งวันทั้งคืนเอาให้หายอยากกันไปข้างหนึ่งเลย” โจเซฟบอกพลางถอนหายใจเบาๆ ขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งนิดๆ ที่ได้พูดคุยอย่างตรงไปตรงมากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ชั่วโมงต่อมา...คอนโดหรู
หลังจากที่ไปพบจิตแพทย์กลับมา โจเซฟก็เอาเบอร์ติดต่องานโทร. หา ยัยแม่มดทันที
ตู๊ด...ตู๊ด...
สัญญาณรอสายดังขึ้นสองครั้งปลายสายก็กดรับ
[สวัสดีค่ะ]
[เราต้องคุยกัน] คนที่ต้องการพบและพูดคุยกับสาวเจ้าให้เคลียร์ในทุกๆ เรื่อง บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
[ใครคะ?] ปลายสายถามอย่างมึนงง
[ก็...ที่รักของคุณไง] โจเซฟรีบหยอดคำหวานใส่ เพราะอยากจะให้สาวเจ้ายอมออกมาเจอกับตน
[หึ! ไอ้บ้านั่นตายไปเมื่อวันก่อนแล้วล่ะ บาย] ปลายสายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเดือดๆ ก่อนจะกดวางสายไปดื้อๆ
ตู๊ดๆๆ
หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
โจเซฟที่ถือสายค้างอยู่ ถึงกับสตั้นไปชั่วขณะ “หน็อย! ยัยแม่มด มาทำให้อยากแล้วคิดว่าจะจากไปได้ง่ายๆ งั้นเหรอ ไม่มีทางซะล่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นครับเพื่อน?” คนที่นอนหลับอยู่บนโซฟาผงกหัวขึ้นถามอย่างมึนงง
“นี่แกมาตอนไหนฮะเคน?” โจเซฟหันไปมองพร้อมกับยกมือทาบที่หน้าอกอย่างตกใจ
“แหม...ไม่อยากจะพูดเลยนะ แต่ฉันอยู่ในห้องแกมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้วล่ะ” คัลเลนตอบพลางขยับลุกขึ้นนั่ง
“นี่ห้องฉันนะ” โจเซฟต่อว่าด้วยสีหน้าตึงๆ ไม่รู้ว่าเมื่อครู่เพื่อนรักจะได้ยินการสนทนาของตนกับยัยแม่มดหรือเปล่า?
“ก็ห้องฉันไม่มีอะไรกินนี่นา พอดีมาหาของกินในห้องนายเสร็จก็ง่วง เลยเผลอหลับไป” คัลเลนบอกพลางบิดขี้เกียจนิดๆ
“หัดซื้อของใส่ตู้เย็นเอาไว้บ้างสิ”
“เออๆ รู้แล้วน่า ว่าแต่แกหายไปไหนมาวะ?”
“ไปหาจิตแพทย์มา มีอะไรไหม?” โจเซฟบอกตามตรง
“ไม่มีอะไร แค่เป็นห่วง เห็นหายไปนาน”
“เฮ้อ...ชีวิตที่แสนจะเรียบง่ายของฉันต้องมาปั่นป่วนเพราะยัยแม่มดนั่น” โจเซฟหยิบกระป๋องเบียร์ในตู้แช่ออกมาโยนให้เพื่อนรัก ก่อนจะหยิบอีกกระป๋องมาเปิด แล้วเดินเข้าไปนั่งโซฟาตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็ยกเบียร์ขึ้นดื่มเพื่อดับความกลุุ้มในใจ