EP.5 ข้อเสนอชดใชหนี้
“โอ๊ย!”
เธอชักมือกลับเมื่อปลายนิ้วชี้ถูกคมแก้วบาด เลือดสีแดงชาดไหลซึมออกมา เธอกำมือเข้าหากันแน่นกัดฟันกรอด ปล่อยให้เลือดไหลเปรอะเปื้อนมือบาง ร่างบางสะท้านจากแรงกลั้นสะอื้น
โครม! เสียงดังโครมใหญ่ดังออกมาจากห้องนั่งเล่น นับดาวตื่นจากภวังค์
“คุณแม่!”
หญิงสาวรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านทันที ตำรวจหลายนายที่ยืนอยู่นอกรั้วกำลังเปิดประตูรั้วเข้ามา เมื่อหญิงวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของบ้านเป็นลมล้มพับลงไปต่อหน้าต่อตา นับดาววิ่งไปประคองมารดาเอาไว้
“คุณแม่! คุณแม่อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะคะ”
หญิงสาวกอดมารดาไว้แน่น เธอสับสนจนไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรก่อนหลัง นายตำรวจคนหนึ่งตรงเข้าดึงร่างของหญิงสาวออก ก่อนที่นายตำรวจอีกคนจะรีบอุ้มล้อมเดือนขึ้นรถตำรวจเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล นับดาวรีบตามขึ้นไปนั่งท้ายรถกระบะของตำรวจ จับมือมารดาที่สลบไม่ได้สติเอาไว้แน่น หญิงสาวเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมพูดจากับใครเฝ้าพร่ำภาวนาแต่ว่ามารดาต้องไม่เป็นไร
นับดาวเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน นายตำรวจคนเดิมที่อุ้มมารดาของเธอขึ้นรถ เดินเข้ามาหาหญิงสาว สีหน้าของนายตำรวจบอกความยุ่งยากใจไม่น้อย
“ผมต้องขอโทษด้วย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น”
“ฉันไม่กล่าวโทษคุณตำรวจหรอกค่ะ คุณแม่ของดิฉันท่านเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ร่างกายท่านไม่ค่อยแข็งแรง เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้าแต่ก็ต้องกลับเข้ามาเสียแล้ว”
นับดาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้า พยายามฝืนยิ้มให้นายตำรวจทว่ามันกลับเป็นยิ้มที่จืดชืดที่สุดในชีวิตของเธอ
“คุณพ่อไม่อยู่หรอกค่ะ ตั้งแต่เกิดเรื่องก็หายไปเลย ดาวกับคุณแม่ทุกข์ใจมาก เป็นห่วงไม่รู้ว่าท่านจะเป็นยังไงบ้าง”
นับดาวจำต้องโกหก ชญานนท์ไม่ได้ขู่ เขาแจ้งความกับตำรวจจริงเหมือนอย่างที่พูดไว้ นายตำรวจพยักหน้าก่อนจะสอบถามอีกหลายคำถามแล้วจึงขอตัวกลับ นับดาวทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินยกสองมือขึ้นปิดหน้าเอาไว้ ไม่มีเสียงร้องไห้มีเพียงหยาดน้ำตาที่ไหลรินรดฝ่ามือสีแดงชาดจนจางหายไป
ทันทีที่ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก หญิงสาวโผเข้าหานายแพทย์สูงวัย
“คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ”
“คนไข้ปลอดภัยแล้ว แต่ต้องเข้ารับการผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ ระหว่างนี้ผมอยากให้คนไข้พักผ่อนให้มาก ความเครียดจะยิ่งทำให้อาการของคนไข้ทรุดหนัก ซึ่งไม่เป็นผลดีเลย”
“ผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจหรือคะ”
หญิงสาวพยักหน้าทั้งน้ำตา ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจนั้นสูงถึงสามถึงสี่แสนบาท ทว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาวมีเงินเก็บแค่ห้าหมื่นบาท อาชีพนักวาดภาพประกอบนิทานอย่างเธอไม่รู้ว่าจะไปหาเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นได้จากที่ไหน
“ต้องผ่าตัดเร็วแค่ไหนคะคุณหมอ”
“เร็วที่สุดครับ แต่ถ้าคนไข้ยังมีอาการเครียดและซึมเศร้าอยู่แบบนี้ จะทำให้กล้ามเนื้อหดตัว หัวใจทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย”
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”
หญิงสาวกำมือเข้าหากันแน่น แล้วเธอจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้มารดาเครียดไปมากกว่านี้ มีวิธีไหนที่จะทำให้ท่านสบายใจขึ้น อย่างน้อยจะได้ไม่มีผลข้างเคียงหากเข้ารับการผ่าตัด
นับดาวนั่งอยู่บนโซฟานุ่มภายในบ้านหลังขนาดใหญ่สองชั้นซึ่งตั้งอยู่ในโครงการบ้านจัดสรร สองมือผสานเข้าหากันแน่นบริเวณหน้าตัก เครื่องปรับอากาศภายในห้องรับแขกไม่ช่วยทำให้ภายในจิตใจของหญิงสาวเย็นลงได้เลย
สาวใช้นำน้ำเย็นมาเสิร์ฟ ก่อนจะหลีกหายเข้าไปในครัว อดสงสัยไม่ได้ว่าอารวิชญ์ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพังไม่เหงาบ้างหรืออย่างไร เพราะเขาไม่มีภรรยาและบุตรแต่อาศัยอยู่คนเดียวมาตลอด หลายคนสงสัยว่าเขาเป็นเกย์ แต่ข้อสงสัยก็ยังคงเป็นข้อสงสัยอยู่ดังเดิม เมื่อไม่มีใครเคยพบเห็นเขาออกนอกลู่นอกทางเที่ยวผู้หญิง หรือควงผู้ชายอย่างที่คาดการณ์กัน
เสียงฝีเท้าก้าวลงมาจากบันไดชั้นสอง นับดาวลุกขึ้นยืนยกมือไหว้รวิชญ์อย่างนอบน้อม
“ขอโทษทีนะหนูดาวที่ต้องให้รอ พอดีอากำลังอาบน้ำอยู่ แล้วนี่มีอะไรเร่งด่วนหรือเปล่าถึงได้มาหาอาถึงที่นี่ ความจริงโทรให้อาไปหาก็ได้ อาจะได้ไปเยี่ยมอาการของเดือนด้วย เห็นว่าออกจากโรงพยาบาลแล้วไม่ใช่หรือ”
ชายรูปร่างสันทัดติดจะท้วมหน่อยๆ พูดคุยอย่างคล่องแคล่วก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับหญิงสาว นับดาวรู้สึกร้อนที่ขอบตาเมื่อเอ่ยถึงมารดา ตอนนี้ท่านยังนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล พยาบาลต้องให้น้ำเกลือเพราะท่านแทบไม่แตะต้องอาหาร เอาแต่เหม่อลอยและร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
“คุณแม่อาการทรุดลงอีกแล้วค่ะ หมอบอกว่าต้องผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ เพราะเหตุผลนี้จึงทำให้ดาวมาหาคุณอา ดาวไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่ไหนนอกจากคุณอาอีกแล้วค่ะ”
นับดาวเสียงสั่น เธอไม่เคยรู้สึกอับจนหนทางเท่านี้มาก่อน ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็มืดมิดจนไม่เหลือแสงสว่างให้พอก้าวเดิน
“มีอะไรที่อาพอจะช่วยได้หรือเปล่าหนูดาว ไม่ต้องเกรงใจบอกอาได้เลย”
“ดาวอยากขอยืมเงินคุณอาสี่แสนค่ะ เป็นค่าผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจของคุณแม่ ดาวมีเงินติดตัวอยู่ไม่มาก ไม่พอค่ารักษาคุณแม่ ช่วงนี้ดาวแทบไม่ได้ทำงานเลย เทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านกับโรงพยาบาลแทบทุกวัน”
งานของหญิงสาวนั้นต้องใช้สมาธิและจินตนาการ เมื่อมีเรื่องทุกข์ใจเช่นนี้เธอจึงแทบตั้งสมาธิให้จดจ่ออยู่กับงานไม่ได้เลย อาชีพนักวาดภาพประกอบนิทานอย่างเธอไม่มีผลงานออกไปเสนอก็ไม่ได้เงิน
“ได้สิ อาพอจะมีเงินอยู่บ้าง”
รวิชญ์ยื่นมือไปตบไหล่หญิงสาวเบาๆ นับดาวประนมมือไหว้ขอบคุณน้ำตาร่วงเผาะลงบนตักอย่างยากที่จะหักห้ามใจ
“คุณอาคะ มีอีกเรื่องที่ดาวอยากจะรบกวน”
“อะไรหรือ”
“คือดาว...”
นับดาวเดินลงจากแท็กซี่ก่อนจะหยุดยืนอยู่หน้าผับหรูย่านทองหล่อ ข้างหน้าผับคือลานจอดรถที่คลาคล่ำไปด้วยรถยุโรปราคาแพง ‘THE BROOCH’ ผับมีระดับสำหรับชนชั้นที่เรียกตัวเองว่าไฮโซ ผู้หญิงหุ่นปราดเปรียวราวกับนางแบบใส่ชุดเดรสสีม่วงสั้นแค่ปิดสะโพกมิดเดินผ่านเธอไปแต่ไม่วายปรายหางตามองนับดาวอย่างดูถูก นับดาวก้มลงมองตัวเอง ไม่ว่าจะวันไหนๆ เสื้อผ้าคู่ใจของเธอก็คือเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนสีซีดและรองเท้าผ้าใบสีเขียวแก่ที่หม่นจนซีด