19 หล่อนมีแรงแล้ว จะไม่ยอมแพ้

1091 คำ
ความร้อนที่สัมผัสอยู่นี้เป็นของจริง ควันที่โชยฉุยอยู่ที่บริเวณปากหม้อก็เป็นของจริง กินหอมฉุยของกระเทียมเจียวก็เป็นของจริง รวมทั้งน้ำแกงเลิศรสหวานน้ำต้มกระดูกที่หล่อนชิมอยู่นี้ก็เป็นของจริงเช่นกัน นิราวดีตักน้ำแกงขึ้นซด ตักข้าวใส่ปากเคี้ยวก่อนจะกลืนลงคอ หล่อนเลือกตักเนื้อปลาช่อนขาวเด้งเพราะสดมากใส่ปากแล้วเคี้ยวๆๆ ก่อนจะกลืนลงไปอีกเช่นกัน รสชาติข้าวต้มเครื่องฝีมือป้าอ้อยจัดว่าอร่อยมากจนหล่อนกินได้เยอะ เพราะนี่เป็นอาหารมื้อแรกของหล่อน ‘ที่นี่’ ข้าวต้มถูกตักเข้าปากพร้อมๆ กับน้ำตาไหลที่ออกมาไม่ขาดสาย เพราะนี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ดีที่สุดว่า หล่อนไม่ได้อยู่ในยุคที่จากมาอีกแล้ว แต่หล่อนอยู่ในสถานที่ใหม่ซึ่งไม่เคยคุ้นและไม่เคยคิดว่าจะได้มาเยือน ทุกสัมผัสไม่ว่าจะเป็น ‘เจ็บ’ จากหยิกตัวเอง ‘เปียก’ จากถูกน้ำราด ‘ร้อน’ จากนิ้วสัมผัสหม้อ และรสชาติความ ‘อร่อย’ ของข้าวต้มปลา ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นจริง แม้ไม่อยากยอมรับว่าทุกอย่างนี้เกิดขึ้นจริง อยากหลอกตัวเองว่าหล่อนกำลังฝัน พรุ่งนี้ก็จะตื่น แต่ความจริงก็คือความจริง หล่อนต้องคิดหาทางแก้ไขเพื่อที่จะกลับไป และไม่ว่าผลจะเป็นแบบไหน ในเวลานี้หล่อนต้องแข็งแรง ต้องไม่เจ็บป่วยอย่างที่ป้าอ้อยบอก หล่อนต้องไม่เป็นภาระของใครเด็ดขาด น้ำตายังคงไหลพรากให้หล่อนได้สะอื้นฟึดฟัด แต่อย่างน้อยท้องก็ได้อิ่ม ยิ้มได้อีกครั้ง ก่อนจะรีบโป้เอาข้าวต้มคำสุดท้ายใส่ปาก หล่อนมีแรงแล้ว จะไม่ยอมแพ้แน่ ไม่อย่างนั้นเสียชื่อ ‘นุช’ พลังอึดของเฮียหมด . . . คุณหญิงพิศนั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำ ฟังสิ่งที่ป้าอ้อยบอกเล่า “กินข้าวหมดเชียวรึพี่อ้อย” “เจ้าค่ะคุณหญิง กินหมดหม้อเลยเจ้าค่ะ หลังจากกินข้าวก็ยอมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยนะเจ้าคะ” “แล้วเจ้าหล่อนโวยวายไหม พูดรู้เรื่องไหมเล่า” “พูดรู้เรื่องเจ้าค่ะ นังอิ่มกับนังน้อยมันเล่าให้ฟังว่า คุณเธอถามว่าที่นี่ที่ไหน” “แล้วนังสองคนนั่นมันตอบว่ากระไร” “มันก็ว่าเรือนคุณหลวงสำเนียงไพเราะเจ้าค่ะ คุณเธอก็ถามอีกว่าเรือนนี้ตั้งอยู่ที่ใด ตำบล อำเภอ หรือจังหวัดอะไร นังสองคนก็เลยตอบว่าอยู่บางขนากจังหวัดฉะเชิงเทราเจ้าค่ะ” “ดีนะ แปลว่าหล่อนน่าจะพอจำเค้าลางๆ ได้แล้วกระมังว่าหล่อนมาจากไหน” “ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ อ้อ... นังอิ่มมันว่า คุณเธอถามด้วยนะเจ้าคะว่าคุณหลวงไปไหน นังอิ่มมันเลยว่าเข้าพระนครไปทำงาน วันจันทร์หน้าโน่นถึงจะกลับมาเจ้าค่ะ” แม่พิศฟังคำที่ป้าอ้อยบอกเล่า คิดใคร่ครวญ ว่าหล่อนควรจะจัดการบางสิ่งให้เด็ดขาดก่อนที่พ่อพร้อมจะกลับคืนเรือน “พี่อ้อยไปพาหล่อนมาพบฉันสิ” “จะดีหรือเจ้าคะคุณหญิง” “ดีสิพี่ จะได้รู้ไปว่าหล่อนมาจากที่ไหน ฉันจะถามเอง หากโกหกก็จะจับส่งตำรวจเสีย แต่ถ้าหากหล่อนวิปลาสจริง ก็คงต้องรอให้พ่อพร้อมกลับมาเสียก่อน” แม่พิศมองตามร่างอวบอัดของป้าอ้อยที่เดินขึ้นเรือนไป ไม่นานพี่เลี้ยงวัยดึกก็เดินกลับลงมาโดยมีร่างแบบบางของหญิงแปลกหน้าวิปลาสเดินตามมาด้วย เจ้าของร่างแบบบางที่เดินตามหลังป้าอ้อยมานั้น แม้ไม่ได้มีกิริยาเรียบร้อยอย่างเช่นหญิงชาววังหรือลูกผู้ลากมากดี แต่ก็เดินอย่างสำรวมรู้ระวังกิริยา คล้ายจะเป็นคนเคยเข้าเจ้าเข้านายมาก่อน หากแต่คงไม่ได้ทำบ่อยก็เลยเคอะเขินไปบ้าง แม่พิศทอดสายตามองหญิงสาวหน้าตาหมดจดสวมใส่เสื้อลูกไม้สีขาวนวลและนุ่งซิ่นสีหมากสุก ซึ่งเป็นชุดที่หล่อนตัดมาแล้วใส่ไม่ได้พอดี ทว่าเมื่ออยู่บนร่างอรชร ช่างเหมาะนัก ใบหน้าอ่อนวัยก้มลงมองมือของตัวเองไม่ได้สบประสานสายตากับหล่อน ยิ่งทำให้แม่พิศเอ็นดูมากขึ้น เพราะกิริยาของหญิงแปลกหน้าดูสงบเสงี่ยมเจียมตน ไม่ได้กรีดร้องโวยวายเหมือนตอนแรกพบ ท่าทางเยี่ยงนี้จะให้คิดว่าวิปลาสไปได้อย่างไร ใจอยากให้หล่อนเหมือนผู้คนปกติ เพราะหน้าตาผิวพรรณนี้หากยืนเคียงคู่... ใจแม่พิศคิดไปถึงพ่อพร้อม หากลูกชายยอมรับว่าหญิงแปลกหน้าเป็นเมีย หล่อนก็คงยอมรับได้ไม่ยาก ด้วยเวลานี้อะไรจะสำคัญเท่าลูกมีความสุข แต่เพราะพ่อพร้อมไม่รับ แต่กลับพึงใจ นั่นคือสิ่งที่หล่อนหนักใจนัก เพราะใครเล่าจะรับหญิงวิปลาสเป็นสะใภ้ นิราวดีชะงักเมื่อป้าอ้อยดุนหลังให้หล่อนก้าวไปข้างหน้า ทั้งยังกระซิบบอก “นั่งสิเจ้าคะ” “จ้ะป้า” นิราวดีเหลือบตามองคุณหญิงพิศ และเมื่อเห็นว่าผู้สูงวัยพยักหน้าหล่อนจึงหย่อนกายนั่งลงที่พื้นกระดานขัดมันเรี่ยมเชี่ยม ไม่ได้ขึ้นนั่งเสมอคุณหญิงที่นั่งอยู่บนพื้นยกขึ้นสูงกว่าคืบ นิราวดีพนมมือและค้อมศีรษะลง “หนูกราบขอโทษค่ะ ที่ทำให้คุณหญิงต้องวุ่นวายใจเพราะหนู และหนูขอโทษ ที่หนูทำกิริยาไม่ดีหลายๆ อย่างค่ะ” แม่พิศอมยิ้มเหลือบตามองป้าอ้อย เพราะสิ่งที่คิดวุ่นวายใจดูราวจะสลายไปได้โดยง่าย เพราะหญิงแปลกหน้าพูดจารู้เรื่องรู้ราว รู้เห็นความผิดของตนเองที่ทำลงไป เรื่องอื่นก็คงไม่ได้ลำบากที่จะสอบถามเอาความกัน “หล่อนสบายใจขึ้นแล้วใช่ไหม” “ค่ะคุณหญิง” “เช่นนั้น หล่อนพร้อมจะบอกเล่าเรื่องราวของหล่อนให้ฉันฟังแล้วใช่หรือไม่” “ใช่ค่ะ” นิราวดีช้อนดวงตาขึ้นมองคุณหญิงเจ้าของเรือนไทยหลังนี้ เจ้าบ้านหน้าตาใจดีไม่ต่างจากลูกชาย ทว่าหากหล่อนพูดตามจริงทุกอย่าง คุณหญิงจะเชื่อในเรื่องที่หล่อนพูดหรือไม่ หรือหากหล่อนปั้นเรื่องให้ดูดียอมรับว่าตนเองวิปลาสอย่างที่ทุกคนคิด อย่างไหนจะดีกว่ากัน “บอกฉันตามความจริงทุกอย่าง อย่าปด เพราะฉันไม่ชอบคนโกหก หากฉันรู้ว่าหล่อนปด ฉันคงไม่เอาหล่อนไว้ที่นี่” “ค่ะคุณหญิง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม